การฉีดไขมันหน้า (Fat Grafting) หน้าสวย เด้งง่าย ๆ ด้วยไขมันตัวเอง

ฉีดไขมันหน้าเด็ก (Fat Grafting)

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นก็ต้องดูแลใส่ใจสุขภาพมากขึ้น รวมถึงใบหน้าที่หลายคนมักเป็นกังวล ทั้งความหย่อนคล้อย ริ้วรอย ร่องลึกต่างๆ ซึ่งการแก้ปัญหาก็มีหลายวิธี ตั้งแต่การทำเลเซอร์ยกกระชับหน้า , การฉีดสารเติมเต็ม เช่น โบท็อกซ์, ฟิลเลอร์ เพื่อทำลดริ้วรอย ร่องลึก นอกจากนี้ยังมีเทรนด์ศัลยกรรมอีกอย่างคือ การฉีดไขมันหน้า (Fat Grafting) ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะสามารถช่วยแก้ปัญหาหรือปรับรูปหน้าให้ดูเด็กลง ใบหน้าอวบอิ่ม ริ้วรอยร่องลึกตื้นขึ้น ผลลัพธ์สวยงามเป็นธรรมชาติ

ฉีดไขมันหน้า หรือ เติมไขมันใบหน้า (Fat Grafting) คืออะไร?

การฉีดไขมันหน้า (Fat Grafting) หรือ Fat Transfer หรือ Fat Filler คือ การปลูกถ่ายเซลล์ไขมันจากร่างกายของเราเอง โดยศัลยแพทย์ทำการย้ายเซลล์ไขมันจากบริเวณที่มีไขมันส่วนเกินเยอะ หรือบริเวณต้องกำจัดออก เช่น จากบริเวณหน้าท้อง ต้นขา หรือสะโพก นำมาฉีดกลับเข้าไปบนใบหน้าในบริเวณที่ต้องการการเติมเต็ม เช่น ในส่วนต่างๆ บนใบหน้า เติมเต็มหน้าอกให้อวบอิ่ม เป็นต้น มีปัญหาขาด volume มีร่องลึก ซึ่งการฉีดไขมันนอกจากจะทำให้ใบหน้าอวบอิ่มได้รูปแล้ว จะช่วยให้ริ้วรอยบนใบหน้าจางลง สภาพผิวดีขึ้นด้วย เนื่องจากเซลล์ไขมันมีส่วนประกอบของ stem cell ช่วยกระตุ้นและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ ทำให้เซลล์แข็งแรงขึ้น ผลลัพธ์ภาพรวมจึงทำให้หน้าดูสวยและเด็กลง

แต่ด้วยวิวัฒนาการทางด้านศัลยกรรมความงามที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ทำให้ Fat Grafting ได้ถูกพัฒนาเทคนิคและวิธีการ จนสามารถทำลายข้อจำกัดและข้อเสียของวิธีการแบบเดิมๆ ลงไปได้แทบจะทั้งหมด นั่นก็คือกระบวนการในการเตรียมเซลล์ไขมันที่ดูดออกมาให้มีสมรรถภาพมากขึ้น และมีความพร้อมที่จะมีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวขึ้น ทำให้หลังฉีดไปแล้วไขมันมีการตายน้อยลง แพทย์จึงสามารถประเมินผลลัพธ์ที่ได้ค่อนข้างชัดเจน หนึ่งในวิธีของเทคนิคดังกล่าวคือการนำไขมันมาผ่านกระบวนการปั่นแยก เพื่อแยกส่วนผสมของไขมันที่ดูดออกมาออกจากกัน โดยผ่านกระบวนการทางเครื่องมือ (Lipo-aspiration process) ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ทำให้ได้ไขมันที่มีชีวิตและคุณภาพสูง จากนั้นแพทย์อาจจะแบ่งไขมันส่วนหนึ่งไปแยกสกัดเอาเซลล์เปลือกไขมัน ซึ่งมีสเต็มเซลล์ไขมันปนอยู่ แล้วนำไปผสมกับเนื้อเยื่อไขมันที่เตรียมไว้ แล้วจึงนำไปฉีดเติมยังบริเวณที่ต้องการ เป็นการทำให้ไขมันรอดชีวิตมากขึ้นหลังจากฉีด โดยเรียกเทคนิคใหม่นี้ว่า CAL (cell-assisted lipotransfer)

เทคนิคนี้จะใช้เซลล์เปลือกไขมันในจำนวนน้อย เพื่อไปช่วยส่งเสริมการมีชีวิตรอดของเนื้อเยื่อไขมันที่ปลูกถ่าย ด้วยเทคนิคใหม่นี้ จากการเตรียมความพร้อมของไขมันที่ดีขึ้น รวมถึงองค์ประกอบทางเทคนิคด้านอื่นๆ เช่น การใช้หัวดูดที่ทันสมัยมากขึ้น ใช้ความดันในการดูดน้อยลง หลังดูดใช้การปั่นแยกเซลล์ไขมัน แทนการบีบและกรองแบบเก่า ทำให้โอกาสที่ไขมันจะถูกกระทบกระเทือนน้อยลง รวมถึงเทคนิคการฉีดที่จะทำเป็นจุด และกราฟเล็กๆ ไม่ใส่ไขมันเข้าไปเป็นกระจุกใหญ่ สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้ไขมันคงอยู่ได้มาก ทำให้ผลลัพธ์ดีขึ้น


ทำไมต้องฉีดไขมันหน้า (เติมไขมันหน้า) ? เติมบริเวณใดได้บ้าง ?

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ใบหน้าและร่างกายจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เกิดความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ที่เห็นชัดเจน เช่น ใบหน้าเริ่มหย่อน ผิวเหี่ยวไม่เต่งตึงเหมือนวัยสาว เกิดริ้วรอย กระ-ฝ้า รวมถึงไขมันบนใบหน้าก็หายไปด้วย ตำแหน่งของไขมันที่เคยอยู่บนใบหน้า เช่น ไขมันใต้ตา ไขมันร่องแก้ม ไขมันขมับ ไขมันหน้าผาก จะค่อยๆ ลดลง หรือย้ายตำแหน่งไปตามธรรมชาติ ตามแรงโน้มถ่วง หรือการใช้งานบนใบหน้า ซึ่งจริงๆ แล้วใต้ผิวจะยุบลงไล่ตั้งแต่ ผิวชั้นบน ชั้นไขมัน ลงไปลึกจนถึงชั้นกระดูก เมื่อตำแหน่งของชั้นไขมันเปลี่ยน เราสามารถมองเห็นได้ชัดเจนจากใบหน้าที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น แก้มตอบ ขมับตอบ ร่องแก้มลึก มีริ้วรอย ใต้ตาลึก แก้มห้อย ฯลฯ ซึ่งการเติมไขมันหน้าจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ โดยใบหน้ายังคงดูเป็นธรรมชาติ บริเวณที่นิยมนำมาเติม จะแบ่งเป็น 2 ส่วน

  • การฉีดเติมไขมันบนใบหน้า การฉีดเพื่อเติมเต็มรอยเหี่ยวย่นได้เกือบทุกจุดบนใบหน้า เช่น รอยย่นบนหน้าผาก   ขมับ  ร่องแก้ม  ร่องลึกใต้ตา
  • การฉีดเติมไขมันเพิ่มสัดส่วน การฉีดในลักษณะนี้ นิยมฉีดในส่วนของหน้าอก ให้อวบอิ่มดูเป็นธรรมชาติ หรือบริเวณสะโพก จึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและได้ผลดีในระยะยาว

เนื่องจากไขมันนั้นบอบบาง การคงอยู่ของไขมันที่ได้จากการดูดไขมันแล้วย้ายไปวางยังบริเวณที่ต้องการนั้นขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์ค่อนข้างมาก โดยเริ่มตั้งแต่ขั้นเลือกตำแหน่งที่จะดูดไขมัน การเลือกเครื่องมือที่จะใช้ดูดไขมัน การเตรียมไขมันก่อนที่จะย้ายไขมันไปยังตำแหน่งที่ต้องการ รวมถึงทักษะในการวางไขมันไปยังตำแหน่งที่ต้องการ ซึ่งทำให้ผลของการทำ Fat Grafting ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนั้นในการทำ Fat Grafting ข้อเสียคือเราจะไม่สามารถตอบได้เลยว่าไขมันที่เราเติมเข้าไปนั้น จะเหลืออยู่เท่าไหร่ไม่มีใครตอบได้  ส่วนระยะเวลาที่เราจะรู้ว่าไขมันนั้นอยู่หรือไม่อยู่ใช้เวลาประมาณ 3- 6 เดือนขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล แต่หากในกรณีที่ต้องการเติมเพิ่มสามารถเติมเพิ่มได้หลังเติมไปแล้ว 3-6 เดือนเช่นกัน


การฉีดไขมันหน้า ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? ข้อดี-ข้อเสีย อย่างไร?

ข้อดี ของการฉีดไขมันหน้า (เติมไขมันหน้า)

  1. การฉีดไขมันหน้า มีความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้สารเติมเต็ม เพราะเป็นไขมันของตัวเราเอง
  2. ฉีดได้ทั่วหน้า เติมเต็มใบหน้าได้ทุกบริเวณที่มีปัญหา โดยให้ผลลัพธ์และสัมผัสที่เป็นธรรมชาติ
  3. ผลลัพธ์หลังฉีดไขมันหน้า / เติมไขมันหน้า อยู่ได้นานหลายปี
  4. เซลล์ไขมันเป็นสารเติมเต็มที่มีชีวิต ทำหน้าที่เป็นเหมือน stem cell นอกจากผลเรื่องการเติมเต็มแล้ว จะช่วยทำให้เซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพแข็งแรงขึ้น ผิวหน้าสุขภาพดีขึ้น อิ่มฟู ดูอ่อนเยาว์ ฉ่ำวาว รวมถึงริ้วรอยและจุดด่างดำต่างๆจะจางลงด้วย
  5. สามารถเติมไขมันหน้าได้โดยไม่จำกัดซีซี เนื่องจากเป็นไขมันของตัวเอง จึงสามารถฉีดไขมันได้ในปริมาณมากๆ *ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้*
  6. ราคาถูกกว่าการฉีดฟิลเลอร์ หากต้องใช้เติมเต็มเพื่อแก้ปัญหาใบหน้าในปริมาณมากๆ
  7. หลังฉีดไขมันหน้า / เติมไขมันหน้า จะทำให้ใบหน้าดูเด็กลง ใบหน้าดูละมุนขึ้น
  8. ช่วยเติมเต็มร่องลึก ลดริ้วรอย ทำให้ผิวเต่งตึง แก้ไขความหย่อนคล้อยได้
  9. หากทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญและประสบการณ์ที่สูง จะทำให้ผลลัพธ์ที่ดี ฉีดไขมันได้ถูกจุด และทำให้ไขมันติดใบหน้านาน

ข้อเสีย ของการฉีดไขมันหน้า (เติมไขมันหน้า)

  1. เซลล์ไขมันเป็นสิ่งทีชีวิต เมื่อฉีดเติมใบหน้าแล้วไขมันบางส่วนอาจตายได้ ไม่ติด 100% เหมือนฟิลเลอร์ เมื่อไขมันยุบเข้าที่แล้วจะเหลือจริงๆ เพียง 40%-50% แพทย์จึงจำเป็นต้องเติมไขมันหน้าในปริมาณมากกว่าปกติ ทำให้ดูบวมช้ำในช่วงแรกจนเห็นได้ชัด
  2. ส่วนใหญ่ต้องกลับมาฉีดซ้ำอีก 1-3 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ยาวนาน (ขึ้นกับปริมาณไขมันที่สลายตัว แตกต่างกันตามบุคคล)
  3. ไขมันที่เติมใบหน้าสามารถเพิ่มและลดลงได้หากมีการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักตัว ซึ่งหากไขมันลดลงสามารถฉีดเติมไขมันได้ โดยทิ้งระยะห่างกันประมาณ 3-6 เดือน
  4. ถึงจะเป็นไขมันปลอดภัย แต่การฉีดไขมันต้องอาศัยประสบการณ์แพทย์ที่มีความชำนาญสูง ใช้เวลาในการทำศัลยกรรมพอสมควร ไม่เช่นนั้น อาจกลายเป็นการ ฉีดไขมันหน้าพังได้ ซึ่งแก้ได้ยาก และมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า
  5. มีแผลเล็กๆขนาดประมาณ 3-5 mm ตรงบริเวณที่ดูดไขมัน
  6. อาจมีอาการบวม 1-7 วัน หลังฉีดไขมันหน้า

การฉีดไขมันหน้า (เติมไขมันหน้า) เหมาะกับใคร ?

  • คนที่ใบหน้าตอบ ที่เกิดจากพันธุกรรม
  • คนที่ใบหน้าตอบ หลังการลดน้ำหนัก
  • คนที่เคยจัดฟันมาแล้วทำให้แก้มตอบ โครงหน้าเปลี่ยน
  • อายุมากขึ้น ทำให้ไขมันใบหน้าหายไป ต้องการเติมเต็มใบหน้าให้ดูเด็กลง
  • คนที่อยากปรับรูปหน้า เพิ่มความอวบอิ่ม หรือ แก้ปัญหาใบหน้าไม่เท่ากัน
  • คนที่อยากเติมไขมันหน้าผาก เพื่อรับโชครับทรัพย์ ตามโหวงเฮ้งที่ดี
  • คนที่มีโครงสร้างใบหน้าใหญ่ เช่น โหนกแก้มใหญ่ กรามใหญ่ มีกระดูกหน้าชัดหรือเด่นกว่าใบหน้าส่วนอื่นๆ การเติมไขมันจะช่วยทำให้ใบหน้าดูซอฟท์ ละมุนลงได้
  • คนที่อยากเติมเต็มใบหน้า แต่ไม่อยากฉีดฟิลเลอร์ หรือ สารเติมเต็มอื่นๆ ที่เป็นสารสังเคราะห์
  • คนที่ไม่อยากเสริมซิลิโคน แต่อยากเติมเต็มใบหน้าในส่วนที่มีปัญหา และต้องการความเป็นธรรมชาติ ทั้งจากการมองเห็น และ การสัมผัส
  • คนที่ต้องการดูดไขมันเพื่อลดสัดส่วนอยู่แล้ว ก็สามารถเก็บไขมันมาฉีดเติมเต็มใบหน้าพร้อมกันในครั้งเดียว

คนที่มีโรคประจำตัวบางประเภทอาจเติมไขมันไม่ได้ผล เช่น ไฮเปอร์ไทรอยด์ มีรูปร่างผอมหรือหน้าตอบ แพทย์จะไม่แนะนำการฉีดไขมันหน้า เพราะจะทำให้ไขมันติดไม่ดี แต่ถ้าคนไข้สามารถควบคุมอาการให้คงที่ได้ก็สามารถทำได้ ทั้งนี้จะต้องเข้ามาปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อความปลอดภัย


บริเวณที่นิยมฉีดไขมัน  บนใบหน้า

การฉีดไขมันสามารถฉีดได้ทุกช่วงอายุ เพื่อแก้ไขความบกพร่องของรูปหน้าในส่วนที่ต้องการการเติมเต็ม สำหรับบริเวณที่นิยมฉีดไขมันบนใบหน้า คือ

  • ฉีดไขมันหน้าผาก : เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาหน้าผากแบน หน้าผากตัด ทำให้ใบหน้าดูแข็ง สามารถฉีดไขมันหน้าผากเพื่อปรับรูปหน้าให้หน้าผากโหนกนูนมากขึ้น เพิ่มมิติให้ใบหน้า ทำให้ curve ของใบหน้าชัดขึ้น ปรับโหงวเฮ้งให้ดีขึ้น รับทรัพทย์ นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยลึก ริ้วรอยถาวรบริเวณหน้าผากได้อีกด้วย
  • ฉีดไขมันขมับ : เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาขมับบุ๋ม ขมับยุบ ขมับตอบ ทำให้โหนกแก้มดูเด่น รูปหน้าไม่หวาน การฉีดไขมันขมับจะช่วยปรับรูปหน้าให้ smooth มากขึ้น เมื่อขมับเต็มจะทำให้ใบหน้าหวานขึ้น ลดความเด่นของโหนกแก้มได้
  • ฉีดไขมันใต้ตา : เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาร่องใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ มีริ้วรอยเล็กๆใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูโทรมและมีอายุ แต่งหน้ายาก แป้งตกร่อง การฉีดไขมันใต้ตาจะช่วยทำให้ร่องใต้ตาตื้นขึ้น เต็มขึ้น และช่วยปรับสีผิวใต้ตาที่คล้ำให้ดูดีขึ้น หลังฉีดไขมันใต้ตาใบหน้าจะดูสดใส อ่อนเยาว์
  • ฉีดไขมันร่องแก้ม : เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาร่องลึกตามแนวปีกจมูกถึงมุมปาก มักจะพบในคนที่มีอายุมาก แสดงสีหน้าบ่อย ทำให้เกิดเป็นร่องแก้มแบบถาวร (บางคนเรียกว่าร่องน้ำหมาก) ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ แก้ไขได้ด้วยการฉีดไขมันเติมเต็มร่องแก้ม ให้ดูเด็กอย่างเป็นธรรมชาติ
  • ฉีดไขมันแก้มตอบ : ปัญหาแก้มตอบ เป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย และดูโทรม การฉีดไขมันตรงบริเวณที่มีปัญหาแก้มตอบ จะช่วยปรับรูปหน้าให้ smooth ขึ้น อย่างเป็นธรรมชาติ ใบหน้าดูเด็กและอิ่มฟูมากขึ้น

การเตรียมตัวก่อนการฉีดไขมันหน้า

  1. งดวิตามิน น้ำมันตับปลา หรือ ยาที่ต้านการแข็งตัวของเลือด ก่อนฉีดไขมันหน้า 7 วัน *หากมียาที่ทานประจำ ต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนทุกครั้ง
  2. งดของหมัก ของดอง แอลกอฮอล์ บุหรี่ รวมถึงชาและกาแฟ ก่อนฉีดไขมันหน้า 7 วัน
  3. งดอาหาร 6 ชั่วโมง แต่สามารถทานน้ำได้เล็กน้อย ก่อนฉีดไขมันหน้า
  4. ไม่มีรอบเดือน ในวันที่เข้าทำการรักษา

ขั้นตอนการฉีดไขมันหน้า

  1. Drawing วาดใบหน้าส่วนที่มีปัญหาที่ต้องเติมเต็มด้วยไขมัน ร่วมกับออกแบบรูปหน้าให้เหมาะสมตามความต้องการของแต่ละคน
  2. แพทย์จะทำการมาร์กจุดที่จะดูดไขมัน เพื่อนำมาฉีดเติมใบหน้า เช่น การดูดไขมันหน้าท้อง, ดูดไขมันต้นขา , ดูดไขมันสะโพก
  3. ทายาฆ่าเชื้อและทำการฉีดยาชาบริเวณที่จะดูดไขมันด้วย เทคนิค Tumescent ทำให้เลือดออกน้อย บวมช้ำน้อย และเจ็บน้อย
  4. แพทย์จะใช้เครื่องระบบสั่น PAL ในการดูดไขมัน แทนการใช้ความร้อน และใช้ไซริงค์ขนาดเล็ก เพื่อรักษาให้เซลล์ไขมันมีชีวิต
  5. นำเซลล์ไขมันที่ได้ปั่นสกัดแยกชั้นไขมันด้วยเครื่องปั่นคุณภาพสูง
  6. เพิ่มประสิทธิภาพของเซลล์ไขมันด้วยการเติม Super PRP (เกล็ดเลือดคุณภาพสูง) ก่อนนำบรรจุใส่หลอดเพื่อเตรียมฉีด
  7. แพทย์จะนำไขมันที่ได้มาฉีดเติมเต็มใบหน้า โดยใช้เทคนิคเฉพาะ Microdroplet และ Nanodroplet ค่อยๆ เติมไขมันแต่ละชั้นผิว ด้วยความละเอียดและพิถีพิถัน
  8. หลังฉีดไขมันหน้าเสร็จ นั่งพักฟื้นประมาณ 1-2 ชั่วโมง ก็สามารถกลับบ้านได้ทันที

การดูแลตัวเองหลังฉีดไขมันหน้า

  1. หลังฉีดไขมันหน้าเด็กทันที ช่วง 1-7 วันแรก หน้าอาจบวมกว่าปกติได้ และจะค่อยๆยุบลง ห้ามประคบเย็น-ประคบร้อน เนื่องจากอาจทำให้เซลล์ไขมันตายได้
  2. ห้ามใบหน้าโดนน้ำ ประมาณ 48 ชม. ต้องรอให้รอยเข็มจากการเติมไขมันปิดสนิทก่อน
  3. งดชาและกาแฟ ตลอดทั้งวันหลังทำเสร็จ
  4. งดทานวิตามิน อาหารเสริม หลังทำ 7 วัน
  5. งดการนวดถูก และระวังการกระแทกบริเวณใบหน้า ในช่วง 1 เดือนแรก
  6. งดสัมผัส กด บีบ รัดหน้า ในช่วง 1 สัปดาห์ – 1 เดือน
  7. แพทย์แนะนำให้นอนหมอนสูง ประมาณ 2 อาทิตย์ – 1 เดือน
  8. งดการประคบร้อน หรือ ประคบเย็น เพื่อป้องกันการสลายของไขมันที่เติมใบหน้า
  9. งดการสูบบุหรี่ หรือ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงของหมักดอง หลังทำ 7 วันขึ้นไป
  10. งดการทำทรีตเม้นท์ เลเซอร์ ที่ใช้ความร้อน ประมาณ 3 เดือน
  11. งดออกกำลังกายในช่วง 3 เดือนแรก
  12. ห้ามลดน้ำหนัก งดออกกำลังกาย หรือทำอะไรที่เป็นการเร่งระบบการเผาผลาญของร่างกาย เนื่องจากอาจทำให้ไขมันที่กำลังจะเกาะติดกับชั้นผิวเกิดการสลายตัวไปได้

ฉีดไขมันหน้า หรือ ฟิลเลอร์ แบบไหนดีกว่ากัน ?

หลายคนที่อยากแก้ไขปัญหาบนใบหน้า อาจจะสงสัยว่าจะเลือกฉีดไขมันหน้าเด็ก หรือ เติมฟิลเลอร์ดีกว่ากัน? เราอาจจะต้องพิจารณาจากความต้องการ เช่น อยากเติมเต็มใบหน้าส่วนไหนบ้าง? หรือมีปัญหาใบหน้าส่วนไหนที่ต้องแก้ไข เช่น

ถ้าต้องการเติมเต็มบางจุด หรือ ปรับรูปหน้าบางส่วน 1-2 จุด เช่น ร่องแก้ม , ใต้ตา , ปาก โดยปริมาณที่ใช้เติมเต็มเพียง 1-2 ซีซี แพทย์ก็จะแนะนำการฉีดฟิลเลอร์ แต่ถ้าคนไข้ต้องการเติมเต็มทั้งใบหน้า คือส่วนของหน้าผาก ขมับ ใต้ตา ร่องแก่มลึก เติมแก้มส้ม คาง และเติมปากด้วย ซึ่งปริมาณที่ใช้อาจจะต้องมากกว่า 20-30 การฉีดฟิลเลอร์อาจจะไม่ตอบโจทย์ หรือไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก เพราะ

  1. บางจุดต้องเติมเต็มในปริมาณมาก หากนับดูแล้วการใช้ฟิลเลอร์หลายซีซีอาจมีราคาที่สูงกว่า ทะลุหลักแสน-สองแสนบาท
  2. ผลลัพธ์อยู่ได้แค่ 6 เดือนถึง 1 ปี และอาจสลายไม่หมด อาจมีสารตกค้างในใบหน้าได้
  3. การฉีดฟิลเลอร์ปริมาณมากอาจทำให้ใบหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ

ดังนั้นการเติมไขมันหน้า หรือการฉีดไขมันหน้าด้วยไขมันตัวเอง จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีที่สามารถปรับรูปหน้า เติมเต็มไขมันส่วนที่หายไป ทำให้ใบหน้ากลับมาดูเด็ก เต่งตึง ละมุน สวยแบบธรรมชาติได้อีกครั้ง โดยที่ผลลัพธ์อยู่นาน และมีความปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เนื่องจากเป็นไขมันของตัวเราเอง ไม่ใช่สารแปลกปลอมที่ถูกสังเคราะห์ขึ้น

Top 10 Clinics
Logo