ฉีดฟิลเลอร์ปาก เซ็กซี่แบบธรรมชาติ ทรงปากแบบไหนที่เหมาะกับคนไทยมากที่สุด
สำหรับคนที่มีริมฝีปากบาง ปากแห้ง เริ่มมีริ้วรอยที่ริมฝีปากและขอบปาก ทำให้เวลาที่ทาลิปสติกแล้วเนื้อลิปสติกตกร่อง ฟิลเลอร์ปาก สามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้โดยตรง ทำให้ปากกลับมาชุ่มชื้น เรียบเนียน หรือในกรณีที่ต้องการให้ริมฝีปากอวบอิ่ม ขอบปากชัด เป็นทรงสวย ก็สามารถฉีดฟิลเลอร์ขอบปาก ยกมุมปาก เพิ่มเนื้อปากให้ดูเซ็กซี่ มีเสน่ห์และเป็นทรงกระจับได้
ฉีดฟิลเลอร์ปาก (Lip Filler) คืออะไร?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก (Lip Filler) คือการฉีดสารประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid : HA) ที่มีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำ เข้าที่ริมฝีปาก ซึ่งฟิลเลอร์ เพื่อฉีดที่ปากหรือที่ใบหน้าจะฉีดเข้าที่ใต้ผิวหนังตื้นๆเท่านั้น จึงเรียกว่า “Dermal Fillers” นิยมใช้ฉีดเพื่อให้ริมฝีปากเพื่อเพิ่มเนื้อและปรับขนาดโครงสร้างปาก ให้ปากอวบอิ่มขึ้น แก้ปัญหาปากบาง ปากแห้งลอก ปากไม่เป็นรูปให้สมดุล เป็นรูปทรงที่สวยงาม นอกจากการเพิ่มความอวบอิ่ม ฟิลเลอร์ปากสามารถแก้ปัญหารูปปากคว่ำ ดูหน้าบึ้ง ให้กลับมาดูยิ้มแย้มสดใสขึ้น ด้วยเทคนิคฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปากหลังฉีดสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงทันที ไม่ต้องพักฟื้น เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย และช่วยแก้ไขปัญหาได้หลากหลาย ซึ่งสารที่ใช้ฉีดเป็นฟิลเลอร์จะมีหลากหลายชนิด สามารถแบ่งเป็นประเภทของฟิลเลอร์ตามสารที่ฉีดได้ 3 ประเภท ได้แก่
- Temporary Dermal Fillers คือ ฟิลเลอร์ชนิดชั่วคราว สารที่ใช้ฉีดจะเป็นสารที่ร่างกายสามารถสลายออกไปเองได้ ในช่วงประมาณ 6 – 18 เดือน หรือสามารถฉีดสารอีกตัวเข้าไปเพื่อสลายฟิลเลอร์ได้ จึงเป็นฟิลเลอร์ปากที่ปลอดภัยมากที่สุด แต่ก็มีข้อเสียคือต้องหมั่นฉีดทุกปี ผลของการฉีดไม่ได้อยู่อย่างถาวร สารที่ใช้ฉีดเป็นฟิลเลอร์ชนิดชั่วคราว ตัวอย่างเช่น กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic acid), คอลลาเจน (Collagen), แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxylapatite) เป็นต้น แต่ฟิลเลอร์ตัวอื่นๆ นอกเหนือจากฟิลเลอร์กรดไฮยาลูรอนิค ยังไม่ผ่าน อย. ไทยในปัจจุบัน
- Semi-Permanent Dermal Fillers คือ ฟิลเลอร์ชนิดกึ่งถาวร ที่สลายไปเองได้เช่นเดียวกับชนิดชั่วคราว แต่ต้องใช้เวลานานประมาณ 2 ปีขึ้นไป เนื้อแข็งกว่า เหมาะกับการเติมร่องที่ค่อนข้างลึกและต้องการให้คงรูป ผลการฉีดอยู่ได้นานกว่า แต่ก็อันตรายกว่าแบบชั่วคราว สารที่ใช้ฉีด เช่น โพลีแลคติคแอซิด (Poly Lactic Acid), และโพลีอัลคิลลิไมด์ (Polyalkylimide) ซึ่งฟิลเลอร์กึ่งถาวรเหล่านี้ ไม่ผ่านการรับรองจาก อย. เนื่องจากมีผลข้างเคียงที่ค่อนข้างอันตราย
- Permanent Dermal Fillers คือ ฟิลเลอร์ชนิดถาวร เป็นชนิดที่แข็งตัวมากที่สุด ใช้เติมร่องลึก และจะคงอยู่ในผิวหน้าไปตลอด ไม่สามารถสลายได้ ผลการฉีดอยู่อย่างถาวร มีข้อเสียคือสารที่ฉีดจะไม่ปรับตามผิวหน้าที่เปลี่ยนไปตามอายุ ทำให้อาจเห็นเป็นก้อน และไม่สามารถฉีดสลายได้ ตัวอย่างสารที่ฉีด เช่น โพลีเมทิลเมทาคริลิค (Polymethylmethacrylate หรือ PMMA) แต่ไม่ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย จึงไม่สามารถหาฉีดได้
ทำไมถึงต้องฉีดฟิลเลอร์ที่ปาก? ฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยในเรื่องอะไรบ้าง?
เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตสารบางตัวได้ลดลง อย่างเช่นคอลลาเจน กรดไฮยาลูรอนิค หรือไฟเบอร์ต่างๆ ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย ที่ผิวหนังบริเวณปากก็เช่นกัน เมื่ออายุมากขึ้น ผิวไม่เต่งตึง ริมฝีปากบางลง ปากแห้งได้ง่ายขึ้น ผิวหนังอุ้มน้ำได้น้อยลงจนย่นเป็นร่อง แห้งลอกเป็นขุย ส่งผลให้ปากดูสุขภาพไม่ดี และทำให้ดูอายุมากขึ้นด้วย ซึ่งปัญหาดังกล่าวสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ที่เป็นกรดไฮยาลูรอนิคจะทำให้ปากกลับมาเต่งตึง ร่องลึกที่ริมฝีปากหายไป ขอบปากชัดขึ้น และช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้นขึ้น นอกจากแก้ไขปากหย่อนเป็นร่องแล้ว ยังสามารถใช้เพื่อปรับทรงปากให้ได้รูปที่ต้องการมากขึ้นได้ อย่างการฉีดปากให้อวบอิ่ม การทำปากกระจับ หรือฉีดยกมุมปาก ช่วยสร้างความสวยงาม เพิ่มความมั่นใจให้ผู้เข้ารับการรักษาได้ ทั้งนี้ผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ปาก จะต้องมีความเข้าใจเรื่องฟิลเลอร์ในระดับหนึ่ง และต้องคาดหวังผลลัพธ์อย่างเหมาะสม เนื่องจากฟิลเลอร์ไม่สามารถแก้ไขทรงปากได้ในทุกกรณี หากลักษณะทรงปากเดิมไม่เอื้อให้แก้ไขเป็นทรงใหม่ หรือมีพังผืดที่ตึงรั้งบริเวณริมฝีปาก ก็อาจจะไม่สามารถทำให้ปากเป็นไปตามทรงที่ต้องการได้