ฝ้า กระเกิดขึ้นได้อย่างไร แตกต่างกันไหม ?

ฝ้า กระเกิดขึ้นได้อย่างไร แตกต่างกันไหม ?

จุดด่างดำ ฝ้า กระ หนึ่งในปัญหาผิวที่สามารถมองเห็นได้บนใบหน้าอย่างชัดเจน มีผลทำให้ผิวหน้าไม่สม่ำเสมอและยากต่อการปกปิด หลายคนอาจจะคิดว่าปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นปัญหาผิวของคนที่มีอายุมากเท่านั้น แต่ปัญหาผิวนี้สามารถพบได้ในทุกเพศ ทุกวัย เนื่องจากมีสาเหตุการเกิดได้ทั้งฮอร์โมนภายในร่างกาย สภาพแวดล้อมภายนอก ร่วมกับปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดภาวะนี้ขึ้นได้

ความแตกต่างระหว่าง ” ฝ้า กับ กระ “

ฝ้า

ฝ้า จะมีลักษณะเป็นรอยดำบนใบหน้ามีทั้งลักษณะเป็นปื้นดำ แบบตื้นและลึก โดยส่วนมากจะเกิดขึ้นบริเวณหน้า โดยยิ่งเฉพาะบริเวณที่ถูกแสงแดดบ่อย ๆ อย่าง หน้าผาก ไรหนวด โหนกแก้ม โดยการเกิดฝ้า ส่วนใหญ่จะเกิดจากแสงแดด อย่างรังสียูวีเอและยูวีบี และยังรวมถึงหลอดไฟ แสงสีฟ้าจากคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน ก็สามารถทำให้เกิดฝ้าบนผิวหน้าเราได้ค่ะ

ฝ้าแบบตื้น จะอยู่ในระดับผิวหนังกำพร้า (ผิวหนังชั้นนอก) ซึ่งฝ้าแบบนี้จะออกเป็นสี น้ำตาล ขอบชัด เกิดขึ้นได้ง่ายแต่ก็รักษาให้หายได้และใช้เวลาไม่นาน

ฝ้าแบบลึก จะอยู่ในระดับที่ลึกกว่าผิวหนังกำพร้า เนื่องด้วยความลึกจะทำให้เกิดสีออกมาเป็นสีน้ำตาลอมฟ้า หรือ สีน้ำตาลอมม่วง จัดว่าเป็นฝ้าที่รักษาได้ยาก ซึ่งฝ้าแบบนี้การทายาอาจให้ผลแค่ดูจางลงเท่านั้น

กระ

กระ หรือกระตื้น ส่วนมากจะเจอในคนที่มีผิวขาว สามารถเกินขึ้นได้ตั้งแต่เด็ก มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลอ่อน – เข้ม อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม จะอยู่บนใบหน้าและบริเวณที่โดนแดดบ่อย ๆ สามารถเข้มขึ้นหรือจางลงได้

กระแดด โดยส่วนมากจะเจอในคนที่อายุมากกว่า จะเกินขึ้นบริเวณที่ถูกแดดสะสมเป็นเวลานาน หรือ บ่อยครั้ง ทำให้มีลักษณะเป็นจุดหรือปื้นสีน้ำตาลขอบชัดกว่าแบบกระตื้นค่ะ

กระลึก จะอยู่ชัดที่สุดตรงบริเวณโหนกแก้ม 2 ข้าง มีลักษณะเป็นจุดสีเทา ๆ ขอบไม่ชัด แต่รอยดำบนใบหน้า ก็สามารถมาได้จากหลายสาเหตุเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นรอยดำที่เป็นแต่กำเนิด รอยดำที่เกิดจากยาบางชนิด รอยดำที่เกิดจากการอักเสบของผิวหนัง ดังนั้นถ้าไม่แน่ใจ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนังเพื่อรับการรักษา และดูแลอย่างถูกวิธีนะคะ

สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดกระและฝ้า

การเกิดกระหรือฝ้าขึ้นบนใบหน้า นับว่าเป็นเรื่องธรรมชาติของผิว แต่ในบางคนอาจจะขึ้นมากหรือน้อยนั้นก็แตกต่างกันไป โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดตกกระหรือฝ้าขึ้น ก็มาจากเซลล์สร้างเม็ดสีที่อยู่ใต้ผิวหนังหรือที่เรียกว่า เมลานิน มีการผลิตเม็ดสีขึ้นอย่างไม่ปกติสม่ำเสมอ จนทำให้ผิวหนังบางร่วมกับมีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ สีน้ำตาล ขึ้นกระจายตัวอยู่ทั่วไปบนใบหน้า และนอกจากผิวหน้าแล้ว พบว่ายังสามารถขึ้นได้ทั้งบริเวณเนินอก หรือผิวที่แขน ซึ่งรังสี UV นี่เองที่เป็นสาเหตุกระตุ้นให้เมลานินผลิตเม็ดสีผิวออกมาเพิ่มมากขึ้น สำหรับทางการแพทย์ก็ยังเชื่ออีกด้วยว่า การเกิดกระยังสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ด้วยเช่นกัน เช่น กระที่มักขึ้นบนผิวหน้าเด็กฝรั่ง เป็นต้น

สำหรับสาเหตุของการเกิดฝ้า ก็มาจากปัจจัยหลากหลายประการซึ่งนอกจากแสงแดดเป็นตัวการหลักแล้ว ความร้อนจากเตาไฟในขณะทำอาหารและการที่ฮอร์โมนเพศในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง ก็มีส่วนกระตุ้นทำให้การผลิตเม็ดสีผิวมีความผิดปกติขึ้นได้ สังเกตได้จากหญิงตั้งครรภ์หรือคนที่กินยาคุมกำเนิดก็มักจะมีฝ้าขึ้นปริมาณมาก หรือในกรณีที่มีการแพ้สารเคมีบางชนิดจากเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่มักมีสารเคมีต้องห้ามปะปนในการผลิตบ่อยๆ เหล่านี้หากไม่ระมัดระวังเลือกใช้ให้ดีก็ล้วนถือเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้เช่นเดียวกัน

เพราะฉะนั้น หากไม่อยากให้ฝ้าและกระขึ้นหน้า ก็ควรพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดบ่อยๆ ควรทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวีทุกวัน โดยควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงเพื่อการป้องกันแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหากเป็นฝ้ากระก็ควรหาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนช่วยลดเลือนฝ้ากระมาใช้ หรือพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรักษาให้หายโดยเร็วก็ได้เช่นกันค่ะ

วิธีการป้องกัน / วิธีการรักษา

วิธีการป้องกันฝ้ากระ ต้องหลีกเลี่ยงแสงแดด ยิ่งแสงแดดจัด ๆ ล่ะก็พกกันแดดไว้เลยจ้า หรือจะใช้ร่มที่ป้องกันรังสียูวี สวมหมวก ใช้ผ้าคลุม ก็ได้เช่นกันค่ะ โดยต้องเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF30+ ขึ้นไปเพื่อป้องกันแสงยูวี ควรมี PA2+ ขึ้นไป เพื่อป้องกันยูวีเอ ด้วยนะคะ และที่สำคัญที่สุด ควรทาก่อนออกแดด 30 นาทีด้วยนะจ๊ะ

หลีกเลี่ยงยา ที่มีส่วนผสมของฮอร์โมน เพราะมีส่วนทำให้เกิดฝ้าได้ค่ะ เช่น ยาคุมกำเนิด โดยวิธีนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อน ถ้าจะเปลี่ยนวิธีการคุมกำเนิด และเลี่ยงเครื่องสำอางที่มีผลให้เกิดฝ้าด้วยค่ะ

การรักษาด้วยการทายา เช่น ประเภท ยากรดวิตามินเอ ยากลุ่มทรานิซามิก ครีมทาที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ ครีมไวท์เทนนิ่งอื่นๆ ก็มีส่วนในการรักษาฝ้า กระ ได้ค่ะ

การดูแลตัวอย่างเต็มที่ ก็มีส่วนสำคัญเช่นกันค่ะ พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อวัน ลด และเลี่ยงความเครียด อย่าลืมหากิจกรรมเพื่อผ่อนคลาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ผัก ผลไม้ และดื่มน้ำให้มาก ๆ ด้วยก็ยิ่งทำให้ผิวสวยสุขภาพดีขึ้นได้จ้า

อย่างสุดท้ายในการเลเซอร์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะ IPL ,QS ND Yag ,Mesotherapy ด้วยการยิงแสง คลื่นแสง ฉีดยาเข้าไปในชั้นผิว เพื่อลดรอยด่างดำของฝ้า กระ บนผิวหน้าก็เป็นอีกวิธีหนึ่งแต่สาว ๆ ควรเลือกสถานที่ ที่ปลอดภัย ได้รับการันตีและศึกษาให้ดีก่อนทำด้วยนะคะ

Top 10 Clinics
Logo