วิธีตรวจสอบครีมหน้าขาว แบบไหนปลอดภัยไร้สารปรอทและสเตียรอยด์
ช่วงนี้ มีเรื่องน่ากลัว ให้สาวๆที่รักความสวย ความงาม ต้องสยดสยองกันได้เรื่อยๆเลยนะคะ กับการใช้ครีม ที่ซื้อครีมมาในราคาถูกแสนถูกอย่างครีมกิโลที่ดังอยู่พักหนึ่ง … ซึ่งสาวๆ ที่ซื้อไป ก็ขาวนะคะ ขาวจริง แต่ขาวได้พักเดียวเท่านั้นแหละค่ะ
จากนั้น การรีวิวหน้าพังจากการใช้ครีมราคาถูก ก็เริ่มขึ้นจนเราสามารถเห็นได้ในข่าวทั่วไป เราไม่อยากให้สาวๆ ไปซื้อครีม ที่ดูอันตราย มาใช้เลย เพราะผลลัพธ์ ที่ได้จากการอยากขาวและเชื่อโฆษณามากเกิน ทำเอาหลายคนพลาดมาแล้วเยอะแยะ และเพื่อเป็นการเตือนภัยให้กับสาวๆ
มาดูวิธีสังเกตครีมเถื่อนที่ใช้แล้วพังดีกว่าค่ะ ก่อนใช้ครีมที่ซื้อใหม่ทุกครั้ง จะได้ไม่เป็นอันตรายนะคะ
“ครีมเถื่อน” คืออะไร??
ตรงตัวค่ะ ครีมเถื่อน คือ ครีมที่ทำออกมาแบบไม่ถูกกฎหมาย ซึ่งก็ได้แก่ ครีมที่ …
- ไม่มี อย.
- มีสารประกอบครีม เป็นสารที่ อย. สั่งห้าม อย่าง สารปรอท
- ใส่สารเกินที่ อย. กำหนด อย่าง สารไฮโดรควิโนน
- ใส่สาร สเตียรอยด์
สรรพคุณของครีมแรงเว่อร์ (เพราะใส่สารเกิน เนี่ยแหละค่ะ )
แบ่งขายเป็นกิโลกรัมได้
แต่ราคาถูก
ไม่มียี่ห้อ
ไม่มีฉลาก ที่ระบุสถานที่ผลิต ผู้ประกอบการ ส่วนผสม วันเดือนปีหมดอายุ ครีมเถื่อน
โดยผลลัพธิ์ ที่ได้จากการใช้ครีมเถื่อน ไม่ค่อยได้ตรงตามที่แม่ค้าครีมโฆษณานะคะ อาจจะขาวใส อยู่ 1 อาทิตย์ แล้วหน้าพังเลย แต่ไม่ใช่ทุกยี่ห้อจะเป็น ดังนั้น ก่อนซื้อครีมทุกครั้ง ให้ตรวจก่อนซื้อ ว่ามี อย. ไหม มีฉลากรึเปล่า ตรวจก่อนทุกครั้งนะคะ แต่ก็นั้นแหละค่ะ ยังไงเราก็ต้องรู้เรื่อง ว่าจะตรวจสอบยังไง ว่าเป็นครีมเถื่อน
วิธีสังเกต เพื่อหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางกลุ่มที่มีการผสมสารสเตียรอยด์
- ที่ผลิตภัณฑ์ ต้องมีข้อมูล แหล่งที่มา ที่เชื่อถือได้ระบุไว้อย่างชัดเจน โดยต้องมีข้อมูลดังนี้
- ชื่อเครื่องสำอางและชื่อทางการค้า ที่มีชื่อทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
- ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต กรณีที่ผลิตในประเทศ ชื่อและที่ตั้งของผู้นำเข้า และชื่อผู้ผลิตและประเทศที่ผลิต กรณีที่นำเข้า
- ปริมาณ วิธีใช้ ข้อแนะนำ คำเตือน เดือน ปีที่ผลิตและที่หมดอายุ เลขที่หรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิต และชื่อของสารทุกชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิต
- ข้อความอื่นเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้บริโภค เช่น เลขที่ใบรับแจ้ง จาก อย. เป็นเลข 13 หลัก หรือ 10 หลัก
โดยท่านสามารถตรวจสอบเลขที่ใบจดแจ้งว่าเป็นของปลอมหรือไม่ได้ที่ http://porta.fda.moph.go.th/FDA_SEARCH_ALL/MAIN/SEARCH_CENTER_MAIN.aspx
- ไม่มีคำโฆษณา หรือข้อความที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญของเครื่องสำอาง และไม่ใช้ข้อความที่ขัดต่อศีลธรรม หรือวัฒนธรรมอันดีงามของไทย
- ครีมต้องไม่มีการแยกชั้นกันของเนื้อครีม เมื่อตั้งทิ้งไว้เป็นระยะเวลาหนึ่ง
- เนื้อครีมต้องไม่เปลี่ยนสีในระยะเวลาอันสั้น อาจจะ 1-3 เดือนหลังจากที่ซื้อ เช่น เปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีเทา หรือเหลือง
- ครีมที่ใช้ต้องไม่เห็นผลเร็วจนเกินไป โดยเฉพาะเห็นผิวขาวขึ้นอย่างชัดเจนภายใน 7 วัน เพราะครีมที่ดีควรค่อยๆ ผลัดผิวใหม่ของเราอย่างช้าๆ ใช้เวลา 1-2 เดือน
- ครีมต้องไม่มีกลิ่นแปลกๆ นอกจากกลิ่นสารเคมีเข้มข้นแล้ว ไม่ควรมีกลิ่นน้ำหอมจนฉุนจมูก เพราะอาจเป็นการกลบกลิ่นสารเคมีอันตรายที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอาง
- อย่าเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ที่ราคาไม่เหมาะสมกับคำเคลม อย่างเช่น ครีมทาผิวขาว ช่วยให้ผิวขาวเห็นผลใน 3-7 วัน แต่ราคาถูกแสนถูก สงสัยไว้ได้เลย ว่าอาจมีสารต้องห้ามผสมอยู่
- เลือกซื้อผลิตภัณฑ์กับบริษัทที่เชื่อถือได้ มีทีมนักวิจัย หรือนักวิทยาศาสตร์ที่ดูความปลอดภัยให้กับผลิตภัณฑ์อยู่แล้ว
- หากอยากเช็คให้แน่ใจ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีชุดตรวจสอบสารต้องห้าม(Test Kit Cosmetic)จำหน่าย แต่ก่อนซื้อปรึกษาผู้ขายก่อนว่าสามารถตรวจสอบสเตียรอยด์ในครีมได้หรือไม่ เพราะสเตียรอยด์มีหลายประเภท อาจใช้หาสเตียรอยด์ประเภทที่อยู่ในครีมไม่ได้
การตรวจสอบครีมด้วยผงซักฟอกเพื่อหาสารสเตียรอยด์
การตรวจสอบครีมหน้าขาวอีกวิธีหนึ่งเพื่อให้มั่นใจได้ว่าครีมที่เลือกใช้มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์อยู่หรือไม่ ด้วยหลักการง่ายๆ จากของที่มีอยู่ในบ้าน นั่นคือผงซักฟอก หลักการตรวจสอบใช้วิธีนำครีมที่สงสัยมาเตรียมไว้ จากนั้นละลายผงซักฟอกกับน้ำแบบเข้มข้น นำส่วนผสมที่ได้ไปหยดลงบนครีม สังเกตการเปลี่ยนแปลง หากพบว่าเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีน้ำตาลไหม้ หรือเปลี่ยนสีไปมากจนไม่เหมือนเดิม สันนิษฐานได้ว่าครีมชนิดนั้นเสี่ยงที่จะมีส่วนผสมของสเตียรอยด์อยู่ก็เป็นได้