ศัลยกรรมตาสองชั้น (Double Eyelid) ตาสวย มีเสน่ห์ ชวนมอง

“ในปัจจุบันกระแสศัลยกรรม ตาสองชั้น มาแรงมาก เพราะนอกจากความสวยงามแล้ว ยังสามารถแก้ปัญหาหนังตาตก”

ศัลยกรรมตา 2 ชั้น แก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง (Double Eyelid)

ตาสวยสะกดทุกสายตา กับ เทคนิคศัลยกรรมตา 2 ชั้นที่เหมาะสมเฉพาะคุณ

ดวงตาที่สวยงาม ไม่ได้หมายความว่าต้องมีตาสองชั้นเท่านั้น แต่การมีดวงตาที่รูปทรง สัดส่วน โครงสร้าง ทุกๆ องค์ประกอบรวมกัน แล้วทำให้ใบหน้าของบุคคลนั้นๆ สวยงาม มีเสน่ห์ ชวนให้มอง จึงถือได้ว่าเป็นดวงตาที่สวยงามเหมาะสม แต่หลายคนก็ไม่ได้มีดวงตาที่เพอร์เฟ็กอย่างที่ต้องการเสมอไป เพราะบางคนแม้มีตาสองชั้น แต่ก็อาจมองดูแล้วไม่ค่อยสวยเข้ากับหน้า หรือบางคนมีปัญหาชั้นตาไม่เท่ากัน บางคนก็มีปัญหาหนังตาตกบ้าง หรือแม้กระทั่งไม่มีชั้นตาเลยก็มี ซึ่งการศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid) ก็เป็นวิธีที่สามารถช่วยแก้ปัญหาดวงตาในลักษณะต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่จำเป็นต้องศัลยกรรมตา 2 ชั้น หรือแก้ตา 2 ชั้นเท่านั้น แต่เป็นการศัลยกรรมตา 2 ชั้นเพื่อแก้ไขจุดบกพร่อง ไม่ใช่เสริมความงามแค่ดวงตา แต่ยังเสริมความงามให้ทั้งใบหน้าดูสวยเฉพาะในแบบคุณ ซึ่งการศัลยกรรมตา 2 ชั้นที่คนส่วนใหญ่จะนิยมทำเพื่อแก้ปัญหาดังต่อไปนี้

  • แก้ปัญหาตาชั้นเดียว เป็นลักษณะตาไม่มีชั้นเลย สไตล์สาวหมวย ทำให้ตาดูมีขนาดเล็ก  หรือบางคนเคยมีตาสองชั้น แต่เมื่ออายุมากขึ้นหนังตาตกลงมาบดบังชั้นตาเดิม ก็สามารถทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นเพื่อช่วยให้ดวงตาดูสดใสขึ้น ช่วยให้ดูเด็กลงได้อีกด้วย
  • แก้ตา 2 ชั้นหลบใน ตาสองชั้นหลบในจะเป็นลักษณะที่มีตาสองชั้นอยู่แล้ว แต่เวลาลืมตาขึ้นมาจะมองไม่เห็นชั้นตา ซึ่งอาจเกิดจากเปลือกตามีชั้นไขมันเยอะ หรือหนังตาหย่อนตกลงมาปิดชั้นตา ซึ่งแต่ละสาเหตุของปัญหาก็จะใช้เทคนิคการศัลยกรรมตา 2 ชั้นที่แตกต่างกันไป เพื่อช่วยแก้ไขให้ชั้นตาชัดเจนขึ้นอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมชาติมากที่สุด
  • แก้ปัญหาหนังตาตก เปิดตาได้ไม่สุด เป็นลักษณะตาที่มีเปลือกตาปิดตาดำลงมา เห็นตาดำน้อยกว่าคนปกติ ซึ่งจะทำให้ตาดูง่วง หน้าตาดูไม่สดใส ทั้งๆ ที่ก็สุขภาพร่างกายแข็งแรงดี พักผ่อนเต็มที่ตลอด โดยสาเหตุของปัญหาหนังตาตกอาจมาจากกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ชอบขยี้ตาบ่อย เป็นภูมิแพ้ขึ้นตา หรือหนังตาตกมาแต่กำเนิด ซึ่งการศัลยกรรมตา 2 ชั้นจะช่วยแก้ปัญหาได้โดยตรง ด้วยการยกหนังตาให้เปิดโตมากขึ้น ให้เห็นดวงตากว้างมากขึ้น
  • แก้ปัญหาตาสองข้างไม่เท่ากัน มักจะมีลักษณะการเปิดของตาไม่เท่ากัน ตาข้างนึงอาจเปิดได้กว้างกว่า ตาโตกว่าอีกข้างอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งการทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นจะช่วยปรับกล้ามเนื้อตาให้เปิดกว้าง ให้ตาทั้งสองข้างมีความสมดุลอย่างเป็นธรรมชาติ
  • แก้ปัญหาชั้นตาไม่เท่ากัน ซึ่งในลักษณะนี้จะแตกต่างจากตาสองข้างไม่เท่ากันคือ การเปิดตาสองข้างเท่ากัน เพียงแต่ชั้นตาไม่เท่ากัน โดยการศัลยกรรมตา 2 ชั้นจะช่วยทำชันตาใหม่ให้ดูสมดุลเท่ากัน ซึ่งในกรณีนี้อาจเกิดร่วมกับตาสองข้างไม่เท่ากันด้วยก็ได้ ดังนั้น การศัลยกรรมตา 2 ชั้นก็จะมีการใช้เทคนิคผสมผสานเพื่อให้ดวงตาทั้งสองข้างมีความสมดุลเท่ากันมากที่สุด
  • แก้ปัญหาตาเล็ก ไม่สมดุลกับใบหน้า ในลักษณะนี้จะไม่ได้มีปัญหาที่ดวงตาอย่างเฉพาะเจาะจง แต่มีความต้องการอยากให้ดวงตากลมโตมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีชั้นตาใหญ่ชัดเจนก็ได้ ซึ่งการศัลยกรรมตา 2 ชั้นเพื่อความต้องการลักษณะนี้ แพทย์จะมีการใช้เทคนิคเฉพาะที่ช่วยปรับให้ตาโตขึ้นอย่างเหมาะสมกับใบหน้า
  • แก้ปัญหาเบ้าตาลึก ลักษณะดวงตาที่เห็นขอบกระดูกเบ้าตาชัดเจน ซึ่งจะส่งผลให้ใบหน้าดูโทรม ดูมีอายุ โดยการศัลยกรรมตา 2 ชั้นเพื่อแก้ปัญหาเบ้าตาลึกมักจะใช้วิธีย้ายไขมันในตาด้วยเทคนิคเฉพาะ ซึ่งช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานมากกว่าแค่การเติมหรือฉีดสารเติมเต็มให้ใต้ตา
  • แก้ปัญหาหัวตาปิด ลักษณะดวงตาที่มีหนังตาลวมาปิดบริเวณหัวตา ทำให้ตาดูเล็ก หรืออาจมองดูตาเหล่ก็ได้ ซึ่งการศัลยกรรมตา 2 ชั้นจะช่วยเปิดหัวตาให้มากขึน ช่วยให้ดวงตาดูยาวได้รูปอย่างเป็นธรรมชาติ
  • แก้ตา 2 ชั้นที่เคยทำมาแล้ว บางคนอาจมีปัญหาหนังตาตกลงมาอีกครั้งหลังทำตาสองชั้นแล้ว หรือ ชั้นตาเล็กลง ชั้นตาหลุด ก็สามารถทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นอีกครั้งเพื่อแก้ไขหนังตา ทำตาสองชั้นใหม่ได้ แต่หากเป็นกรณีที่ทำตาสองชั้นมาแล้วเกิดมีปัญหาว่าชั้นตาใหญ่ไป ดูตาปรือ ตาปลิ้น ซึ่งก็อาจจะต้องใช้เทคนิคการผ่าตัดที่ละเอียดขึ้นและซับซ้อนมากขึ้นในการแก้ตา 2 ชั้นลักษณะนี้

ทั้งนี้ การศัลยกรรมตา 2 ชั้นเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับดวงตาในลักษณะต่างๆ สามารถทำเพื่อแก้ไขโดยเฉพาะ หรือทำร่วมกับการศัลยกรรมตา 2 ชั้นควบคู่กันไปก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล แต่อย่างไรก็ตาม การศัลยกรรมตา 2 ชั้นเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการที่น่าพึงพอใจสูงสุด ต้องมีการพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมและดีที่สุดในทุกกรณี


เทคนิคการศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid) ตาสวยอย่างเป็นธรรมชาติสูงสุด

ไม่ว่าจะเป็นการทำตาสองชั้น แก้ตา 2 ชั้น แก้ปัญหาดวงตาทุกรูปแบบ จะมีการใช้เทคนิคการศัลยกรรมตา 2 ชั้นที่แตกต่างกันไปตามจุดประสงค์ของแต่ละบุคคล โดยก่อนทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid) ทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะมีการพูดคุยถึงแนวทางการรักษาอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตอบความต้องการของคนไข้มากที่สุด และให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติสูงสุด โดยเทคนิคการทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid) ส่วนใหญ่จะมี 2 เทคนิก ดังนี้

  • ศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid) เทคนิคเปิดแผลเล็ก หรือ เทคนิคกรีดสั้น

การศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid) แบบเทคนิคเปิดแผลเล็ก จะเป็นวิธีการผ่าตัดแบบกรีดสั้น ศัลยแพทย์จะทำการกรีดแผลที่เปลือกตาขนาด 3-5 mm. หรือ เปิดแผลเพียงแค่ 1 เซนติเมตร ก็สามารถให้การทำตาสองชั้นที่มีลายเส้นคมชัด แต่ไม่หนา ไม่หลอกตา ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติสูงสุด เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้มีหนังตามากเกินไป โดยการศัลยกรรมตา 2 ชั้นเทคนิคเปิดแผลเล็กนี้ แพทย์จะกรีดแผลขนาดเล็กบริเวณเปลือกตาบน และทำการกำจัดไขมันที่ไม่จำเป็นบางส่วนออกไป หลังจากนั้นจึงค่อยเย็บปิดแผล ซึ่งเทคนิคนี้จะนิยมในการทำตาสองชั้นเพื่อแก้ปัญหาในคนที่ไม่มีชั้นตา หรือต้องการทำชั้นตาใหม่ให้เห็นชัดเจนขึ้น หลังผ่าตัดสามารถกลับบ้านได้ทันที อาการบวมช้ำน้อยมาก มีรอยแผลขนาดเล็ก เวลาผ่านไปรอยแผลจะจาง ทำให้สังเกตุเห็นได้ยาก

  • ศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid) เทคนิคเปิดแผลยาว หรือ เทคนิคกรีดยาว

การศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid) แบบเทคนิคเปิดแผลยาว จะเป็นวิธีการผ่าตัดแบบกรีดยาวตลอดแนว เปิดแผลประมาณ 2.5-4 ซม. ที่จะให้ผลลัพธ์เส้นตาคมชัดตลอดแนวชั้นตา เพื่อเปิดดวงตาให้โตขึ้น และสามารถตัดหนังตาส่วนเกินออกได้อย่างแม่นยำ เอาไขมันออกได้ในคราวเดียว เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันที่เปลือกตามาก เปลือกตามีผิวหนังที่หนา หรือเปลือกตามีกล้ามเนื้อมาก  มีการเปิดความยาวและความกว้างของตา เพื่อช่วยยกหนังตาขึ้น จากนั้นจึงมีการเย็บชั้นกล้ามเนื้อตา ซึ่งเทคนิคนี้จะนิยมใช้ในการแก้ปัญหาตาหลบใน แก้ปัญหาหนังตาหย่อนคล้อย แก้ตา 2 ชั้น


ระยะเวลาในการทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid)

ระยะเวลาในการทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น อาจมากหรือน้อยแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ศัลยกรรมตา 2 ชั้น และความยากง่ายในแต่ละกรณี ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 30-45 นาทีในการผ่าตัด แต่หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้ว สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ และจะมีการนัดตัดไหมภายใน 7 วัน และมีการนัดติดตามผลอย่างต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง เพื่อมั่นใจว่าไม่มีปัญหาใดๆ หลังทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นไปแล้ว


การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid )

การทำศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid) ไม่ว่าจะต้องการทำตาสองชั้น แก้ตา 2 ชั้น แก้หนังตาตก ยกหางตา หรือไม่ว่าจะจัดการปัญหาเกี่ยวกับดวงตารูปแบบใดก็ตาม หลังจากได้พูดคุยเพื่อหาแนวทางในการรักษากับแพทย์เรียบร้อยแล้ว จะต้องมีการเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนทำศัลยกรรมตา 2 ชั้นทุกรูปแบบดังนี้

  • ก่อนผ่าตัด 1 สัปดาห์

• งดรับประทานยาบางชนิด อย่างเช่น ยาในกลุ่มเอสไพริน อาหารเสริมที่มีวิตามิน C, E, A และน้ำมันตับปลา เพื่อป้องกันภาวะเลือดออกง่ายในระหว่างการผ่าตัดศัลยกรรมตา 2 ชั้น

• หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

• ไม่ควรมีโรคเกี่ยวกับดวงตา หรือ มีภาวะดวงตาอักเสบก่อนรับการผ่าตัดศัลยกรรม

  • ก่อนผ่าตัด 1 วัน

• หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ชา กาแฟ อย่างน้อย 6 ชั่วโมง ในกรณีที่ต้องให้ยาสลบ

• พักผ่อนให้เพียงพอ

นอกจากนี้ หากมีโรคประจำตัว หรือแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบโดยละเอียด และหลีกเลี่ยงการสวมใส่เครื่องประดับที่เป็นโลหะทุกชนิดก่อนทำการผ่าตัด และแนะนำว่าให้พกแว่นกันแดดติดตัวมาด้วย ช่วยป้องกันฝุ่นละอองเข้าตาในระหว่างเดินทางกลับบ้านหลังผ่าตัดศัลยกรรมตา 2 ชั้น


การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid)

การศัลยกรรมตา 2 ชั้น (Double Eyelid) ทุกรูปแบบ แพทย์จะใช้เทคนิคเฉพาะทางที่ช่วยให้เจ็บน้อย ฟื้นตัวได้เร็ว และไม่จำเป็นต้องค้างคืนเพื่อพักฟื้น สามารถกลับไปดูแลตัวเองต่อที่บ้านได้เลย ซึ่งการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้แผลหายไว ลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาหลังการผ่าตัดได้อย่างดี โดยควรมีการดูแลตัวเองดังต่อไป

  • แนะนำให้พักฟื้น หลังผ่าตัดศัลยกรรมตา 2 ชั้น ทุกรูปแบบ 1-2 วันขึ้นไป เพื่อลดการใช้สายตาและมีเวลาประคบแผลมากขึ้น แผลจากการผ่าตัดศัลยกรรมตา 2 ชั้นจะได้หายไวขึ้น
  • หลังการผ่าตัดศัลยกรรมตา 2 ชั้น ภายใน 24 ชั่วโมง ให้เริ่มทายาฆ่าเชื้อแบบขี้ผึ้งตามแพทย์สั่ง บริเวณแผลตรงเปลือกตา และใน 7 คืนแรกให้นอนศีรษะสูงกว่าปกติ เพื่อลดอาการบวม
  • ห้ามแผลโดนน้ำอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้ติดเชื้อได้ง่าย และห้ามขยี้ตาหรือเกาบริเวณผ่าตัดจนกว่าจะตัดไหม
  • การทำความสะอาดแผล ให้ใช้ไม้พันสำลีสะอาดชุบน้ำเกลือ แล้วเช็ดคราบเลือดซึมบริเวณแผล โดยควรทำความสะอาดแผลศัลยกรรมตา 2 ชั้น วันละ 1-2 ครั้ง
  • ควรประคบเย็น บริเวณหน้าผาก และ รอบดวงตาในช่วง 2 วันแรกหลังการผ่าตัด และวันที่ 3 เป็นต้นไป หากมีรอยเขียวช้ำ ให้ประคบอุ่น จะช่วยให้หายเร็วขึ้น แต่ถ้าไม่มีรอยเขียวช้ำก็สามารถประคบเย็นต่อไปได้
  • รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด สามารถรับประทานยาแก้อักเสบ และยาลดบวมได้ หากปวดก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ และสำหรับยาหรือวิตามินที่หยุดกินก่อนผ่าตัด สามารถกินได้หลังผ่าตัดวันที่ 3 ไปแล้ว หรือเมื่อไม่มีเลือดซึมออกมาแล้ว
  • เริ่มล้างหน้าได้หลังผ่าตัด 3 วัน และเริ่มแต่งหน้าได้บางๆ แต่หลังจากผ่าตัดไปแล้ว 1 – 2 สัปดาห์ จะสามารถแต่งบริเวณตาได้ตามปกติ
  • ภายใน 5-7 วัน ก็สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้แล้ว แต่พยายามใส่แว่นตากันแดดเพื่อป้องกันฝุ่น กันลม กันสิ่งสกปรกเมื่อต้องออกไปกลางแจ้ง
  • ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ และงดกิจกรรมหนักต่างๆ ในช่วง 6 สัปดาห์หลังการผ่าตัด และหลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง ไข่ อาหารทะเล 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันแผลนูนคัน
  • อาการบวมหลังการผ่าตัดจะมีอยู่ประมาณ 3 วัน และจะเริ่มยุบบวมในวันที่ 4 ไปเรื่อยๆ และจะค่อยๆ หายไปภายใน 2 – 3 สัปดาห์ ซึ่งหลังจากผ่านสัปดาห์ที่ 4 ไปแล้วถึงจะเริ่มเห็นชั้นตาชัดเจนขึ้น และจะเข้าที่จริงๆ ประมาณ 3 เดือนขึ้นไป
  • ผลข้างเคียงที่อาจพบได้บ้าง ก็จะเป็นพวกอาการฟกช้ำ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เพียงแค่ 2 – 3 สัปดาห์ รอยฟกช้ำก็จะหายไปหมด ซึ่งหลังการผ่าตัดในระยะแรกอาจจะมีการบวมที่ทำให้ตาดูไม่เท่ากันได้ ต้องรอให้อาการบวมหายเป็นปกติก่อน จึงจะทำให้ชั้นตาเท่าๆ กันได้ปกติ
  • สำหรับคนที่ใส่คอนแทคเลนส์ ควรได้รับการพิจารณาจากศัลยแพทย์ก่อนถึงจะสามารถกลับไปใส่ได้อีกครั้ง
Top 10 Clinics
Logo