CoolSculpting คืออะไร? ได้ผลจริงไหม? มีผลข้างเคียงอะไรหรือเปล่า? Coolsculpting เจ็บไหม? มีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไร
CoolSculpting คืออะไร
Coolsculpting คือ เทคโนโลยีการใช้ความเย็นกำจัดไขมันออก หรือเรียกว่า Cryolyposis ปล่อยความเย็น -11 องศาเซลเซียส ลงชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้เซลล์ไขมันเกิดการ apoptosis ไมทำให้เซลล์และเนื้อเยื่อเกิดการเสียหาย โดยตัวเครื่องถูกคิดค้นและพัฒนาร่วมกันกับ Harvard สหรัฐอเมริกา
CoolSculpting เทคโนโลยีกระชับสัดส่วนและสลายไขมันด้วยความเย็น
CoolSculpting คือ นวัตกรรมการกำจัดไขมันด้วยการแช่แข็ง (Cryolipolysis®) ด้วยการส่งผ่านความเย็นที่ได้รับการควบคุมอย่างแม่นยำไปยังเซลล์ไขมันเป้าหมายใต้ชั้นผิวหนัง เซลล์ไขมันที่ได้รับพลังงานความเย็นจะตกผลึก (Crystalized fat) และถูกทำลาย จากนั้นเซลล์ไขมันเหล่านั้นจะถูกกำจัดออกจากร่างกายด้วยวิธีการตามธรรมชาติ
ใครเหมาะทำ Coolsculpting
– คนที่ออกกำลังกาย แต่ยังมีไขมันส่วนเกิน บริเวณต่างๆ
– คนที่ไม่สามารถออกกำลังกายได้ ด้วยข้อจำกัดทางร่างกาย
– คนที่ภาวะอ้วน หรือส่วนเกิน อยากให้รูปร่างกระชับ สัดส่วนลด
– คนที่อยากลดไขมันในร่างกาย ให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น
การเตรียมตัวก่อนทำ CoolSculpting
นับเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของ CoolSculpting เลยก็ว่าได้ที่ก่อนเข้ารับการทำนั้น ผู้เข้ารับบริการไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไรมาก เนื่องจากในการกำจัดไขมันด้วยความเย็นวิธีนี้ไม่ใช้การผ่าตัด แต่คล้ายกับการทำทรีตเมนต์ทั่วไป ดังนั้นผู้เข้ารับบริการสามารถรับประทานอาหาร และดื่มน้ำได้ตามปกติ
ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Coolsculpting
– ไขมันลดลงถาวร
– สัดส่วนลดลงใน 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับไขมันบริเวณที่ทำ
– ทำเพียงครั้งเดียวก็เห็นผล
Coolsculpting ทำบริเวณไหนได้บ้าง
– หน้าอกผู้ชายที่มีไขมันสะสม
– ท้องแขน ต้นแขน
– รอบเอว สะโพกบน
– หน้าท้องบน หน้าท้องล่าง
– ขาด้านใน
ทำ Coolsculpting เจ็บหรือไม่
– ระหว่างทำ : เจ็บเล็กน้อย รู้สึกเย็นๆ แสบได้บ้าง รู้สึกชา จี๊ดๆที่ผิว
– หลังทำครบ 35 นาที : รู้สึกปวด 1-3 นาทีแรก เมื่อนวด ผิวบริเวณที่ทำแดงๆ เป็นก้อนๆได้จากความเย็น
– หลังทำ 1-2 สัปดาห์ : อาจรู้สึกเมื่อยๆคัน ปวดๆ บริเวณที่ทำได้บ้าง
– หลังทำ 3สัปดาห์-1เดือน : อาจยังคงชาได้บ้างเล็กน้อย
– หลังทำ 3 เดือน : เห็นผลชัดมากขึ้น สัดส่วนลดลง ไขมันลงอย่างชัดเจน
Coolsculpting เห็นผลเมื่อไหร่
หลังทำทันทีอาจรู้สึกตึงๆบวมๆ ได้บ้าง จะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ รู้สึกกระชับ รู้สึกใส่เสื้อผ้าสบายขึ้น ประมาณ 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันบริเวณนั้น
อยู่นานเท่าไหร่ ต้องทำกี่ครั้ง แต่ละจุด แนะนำทำ 4 ครั้งขึ้นไป การกำจัดไขมันเป็นการกำจัดถาวร หากไม่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ไขมันบริเวณนั้นจะไม่กลับมา
Coolsculpting ต่างจากการดูดไขมันอย่างไร
ตัวCoolsculpting ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ใช้เข็ม ผิวเรียบเสมอกัน ผิวกระชับมากกว่า แต่การลดไขมันจะช้ากว่าการดูดไขมัน ซึ่งเป็นการเอาไขมันออกทันที แต่ต้องพักฟื้น มีรอยแผลจากการดูด และผิวอาจไม่กระชับ ผิวอาจไม่เรียบเป็นคลื่นๆจากการที่ไขมันหายไปบริเวณนั้นๆ
ข้อดีของการทำ Coolsculpting
- ได้รับการรับรองจากสถาบันระดับโลกในเรื่องความปลอดภัย
- เห็นผลได้จริง และชัดเจน
- ใช้ระยะเวลาในการทำเพียง 35 นาที – 1 ชั่วโมง
- ไม่ส่งผลกระทบต่อส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
- ไม่ใช่การผ่าตัด จึงไม่มีบาดแผล และไม่ต้องพักฟื้น