เลเซอร์ขน หนึ่งในหัตถการกำจัดขนยอดฮิตที่หลายคนให้ความสนใจ และเลือกทำกันอย่างหลาย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การเลเซอร์ขน สามารถช่วยกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวเรียบเนียน ไม่เป็นขนคุด ไม่เป็นตอ รวมถึงยังเลือกกำจัดขนได้อย่างหลากหลายบริเวณ ไม่ว่าจะเป็นเลเซอร์ขนรักแร้ แขน ขา หรือบิกินี่ อีกทั้งยังสามารถเลือกประเภทเลเซอร์ให้เหมาะสมกับปัญหาสภาพผิว และเส้นขนของตนเองอีกด้วย
เลเซอร์ขน คืออะไร?
เลเซอร์ขน (Laser hair removal) คือ การกำจัดขนแบบถาวรรูปแบบหนึ่ง โดยใช้แสงเลเซอร์ที่ปล่อยพลังงานแสงในช่วงความถี่ที่สามารถเผาผลาญ และทำลายบริเวณต่อมรากขน (Hair Follicle) ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของเส้นขน ทำให้วงจรการเกิดขนใหม่ช้าลงเรื่อย ๆ จนเส้นขนน้อยลงไปในที่สุด แต่ไม่ทำลายผิวหนังบริเวณข้างเคียง การเลเซอร์ขนส่วนใหญ่นิยมทำในบริเวณ ใบหน้า ใต้วงแขนหรือเลเซอร์รักแร้ แขน ขา และเลเซอร์บิกินี่
เลเซอร์ขน ทำงานอย่างไร ?
สำหรับเลเซอร์ที่ใช้กำจัดขน จะปล่อยพลังงานแสง ในช่วงความถี่ไปที่รากขน ซึ่งสามารถทำลายบริเวณรากขนที่เป็นแหล่งกำเนิดของเส้นขนได้ เซลล์สร้างสีบริเวณรากขนจะทำหน้าที่ดูดรับพลังงานแสง แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนเพื่อทำลายรากขน โดยไม่ทำลายผิวหนังบริเวณข้างเคียง ทำให้มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงหรือแผลเป็นน้อย โดยปกติแล้วเส้นขนแต่ละเส้นจะมีช่วงเวลาที่งอกตัวและมีระยะพักตัวก่อนที่จะหลุดร่วง หลังจากนั้นก็จะมีขนเส้นใหม่งอกขึ้นมาแทนที่ ซึ่งเลเซอร์ขนนี้จะสามารถทำลายเฉพาะเส้นขนที่อยู่ในช่วงเวลางอกตัวเท่านั้น ทำให้จำเป็นต้องเลเซอร์ขนมากกว่าหนึ่งครั้ง ตามทั่วไปแล้วควรเลเซอร์ขนประมาณ 4-6 ครั้ง ก็จะเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนว่า เส้นขนเริ่มน้อยลง ทั้งนี้ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
ทำความรู้จักระยะของเส้นขน
- ระยะเติบโต (Anagen Phase)
เส้นขนในระยะเติบโต เป็นช่วงที่เส้นขนเติบโตหรืองอกเต็มที่ นับได้ว่าเป็นช่วงที่เส้นขนสมบูรณ์ และร่างกายของเรามีเส้นขนอยู่ในระยะนี้มากถึง 80% ของร่างกายทั้งหมด
- ระยะเสื่อมสภาพ (Catagen Phase)
เส้นขนในระยะเสื่อมสภาพ จะเป็นช่วงที่เส้นขนหยุดการเจริญเติบโต เตรียมเข้าสู่ช่วงเวลาที่หลุดร่วง เมื่อเลเซอร์ขนแล้วเส้นขนจะอยู่ในระยะนี้ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ขนจึงจะค่อย ๆ งอกกลับมาอีกครั้ง
- ระยะเส้นขนหลุดร่วง (Telogen Phase)
ระยะเส้นขนหลุดร่วงหรือ ระยะพักตัวจะใช้ระยะเวลาประมาณ 5-6 สัปดาห์ ขนถึงจะงอกกลับขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ ลักษณะความหนาของเส้นขนในแต่ละบุคคล
เลเซอร์กำจัดขน (Hair Removal Laser)
เป็นนวัตกรรมการกำจัดขนตามร่างกายที่มีประสิทธิภาพ ลดโอกาสในการเกิดขนคุด เป็นตอ และทำให้ขนเกิดได้ช้ากว่าวิธีการโกนหรือแว็กซ์ การเลเซอร์จึงกลายมาเป็นตัวเลือกยอดนิยมที่หลายคนนึกถึงหากต้องการมีผิวที่เกลี้ยงเกลาเรียบเนียนไร้ขนได้อย่างถาวร ทั้งนี้เลเซอร์กำจัดขนนั้นมีให้เลือกหลายแบบ แต่ละแบบก็มีคุณสมบัติและใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกันไป มาทำความรู้จักกับเลเซอร์กำจัดขนเพื่อเป็นข้อมูล ก่อนตัดสินใจไปทำจริง
1. IPL
IPL (Intense Pulsed Light) คือ การใช้คลื่นแสงกำจัดขน ทำให้เส้นขนมีสีอ่อนและบางลง เป็นหนึ่งในวิธีกำจัดขนที่ได้รับความนิยมไม่แพ้เลเซอร์ชนิดอื่น โดย IPL มีความยาวคลื่นได้สูง 515 – 1,200 นาโนเมตร ใช้วิธีการยิงลำแสงสเปกตรัมในวงกว้าง ทำให้ผิวหนังบริเวณรอบๆ ได้รับผลกระทบไปด้วย อาจทำให้เจ็บปวดและเกิดการระคายเคืองได้ง่าย แต่ในขณะที่การเลเซอร์ชนิดอื่นจะเป็นวิธีการปล่อยลำแสงเป็นจุดต่อจุดจึงสามารถกำจัดขนได้ดีกว่า
ข้อดี
- ราคาถูก
- เหมาะสำหรับบริเวณบอบบาง
ข้อเสีย
- ประสิทธิภาพการกำจัดขนค่อนข้างต่ำ ต้องทำหลายรอบ และเห็นผลช้ากว่าเลเซอร์ชนิดอื่น
เหมาะสำหรับ : ผู้ที่มีผิวขาวอยู่แล้ว เพราะ IPL ไม่ได้มีคุณบัติช่วยปรับเม็ดสีผิว
2.Laser Long Pulse ND Yag
ND Yag หรือ ที่นิยมเรียกว่า Yag เป็นเทคโนโลยีกำจัดขนใหม่ล่าสุดและได้รับความนิยมสูง มีความยาวของลำแสง 1,064 นาโนเมตร ความยาวคลื่นสามารถลงสู่ชั้นผิวหนังได้ลึก สามารถจับเม็ดสีของขนได้ดีมาก จึงมีอนุภาคการกำจัดขนได้อย่างหมดจด ที่สำคัญยังไม่ทำให้ระคายเคืองผิว หลังเลเซอร์จะช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนและกระจ่างใสอย่างเห็นได้ชัด
ข้อดี
- กำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระคายเคืองน้อย เห็นผลรวดเร็ว
ข้อเสีย
- มีราคาที่ค่อนข้างสูง
- ไม่ค่อยเหมาะสำหรับการกำจัดขนในบริเวณกว้าง เพราะใช้เวลานานกว่าเลเซอร์ชนิดอื่น
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีขนเส้นหนา รวมถึงต้องการกำจัดขนบริเวณที่มีความบอบบาง หรือจุดเล็กๆ
3. Diode Laser
Diode คือ เลเซอร์ชนิดที่มีความยาวของคลื่นหลากหลาย ยนิยมใช้ที่ 800-810 นาโนเมตร สามารถปรับความยาวคลื่นให้เหมาะกับสีผิวและความเข้มของสีขนได้อย่างดี สามารถกำจัดขนได้อย่างเกลี้ยงเกลา ไม่แพ้ชนิด ND Yag แต่ Diode ไม่เหมาะสำหรับการเลเซอร์บริเวณเล็กๆ หรือบริเวณที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
ข้อดี
- สามารถเลือกความยาวคลื่นในการกำจัดขนให้ตรงกับสีผิวและสีขนจึงทำให้การกำจัดขนมีประสิทธิภาพสูง
ข้อเสีย
- เหมาะสำหรับการเลเซอร์บริเวณกว้าง ไม่เหมาะสำหรับบริเวณเล็กๆ หรือจุดเฉพาะที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการเลเซอร์บริเวณแขนหรือขา
4. Long-pulsed Alexandrite Laser
เลเซอร์ชนิด Alexandrite เป็นเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมในยุโรป มีช่วงความยาวคลื่น 755 นาโนเมตร มีประสิทธิภาพการกำจัดขนได้ดีกว่าแบบ IPL และไม่สร้างความเจ็บปวดหรืออาการระคายเคืองหลังทำ แต่อาจไม่ค่อยเหมาะสำหรับชาวเอเชีย (ที่มีสีขนเข้ม) เพราะทำให้ผิวเบิร์นได้ง่าย
ข้อดี
- กำจัดขนได้ดีจุดต่อจุด
ข้อเสีย
- มีราคาสูง
- ไม่เหมาะสำหรับชาวเอเชียเพราะขนสีดำจะทำให้เบิร์นง่าย
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีขนสีอ่อน และต้องการการกำจัดขนบริเวณกว้าง เช่น ขาหรือแขน
5. Long-pulsed Ruby Laser
อีกหนึ่งชนิดเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมในยุโรป โดยมีความยาวคลื่น 694 นาโนเมตร มีประสิทธิภาพการกำจัดขนปานกลางที่ดีกว่า IPL แต่ยังไม่สามารถทำลายขนได้ถึงรากแบบเลเซอร์ชนิดอื่น
ข้อดี
- ระคายเคืองน้อย
ข้อเสีย
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีเส้นหนาหรือสีเข้ม
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มีขนสีอ่อน ขนเส้นเล็ก และไม่หนามาก
เลเซอร์ขน ทำส่วนไหนได้บ้าง ?
- เลเซอร์รักแร้ : เป็นบริเวณที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เจ็บน้อย การเลเซอร์ขนรักแร้จะช่วยให้รักแร้เรียบเนียน ลดตุ่มหนังไก่และขนคุด ช่วยแก้ปัญหารักแร้ดำ รวมถึงยังช่วยลดกลิ่นกายได้
- เลเซอร์หน้าใส หรือขนใบหน้า : จะช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนมากขึ้น ดูกระจ่างใส
- เลเซอร์หนวด เครา : เหมาะสำหรับผู้ที่มีหนวดเยอะ เส้นขนดกดำ แข็ง รวมถึงเกิดปัญหาขนคุด และต้องการกำจัดหนวดถาวร หรือลดปริมาณหนวดให้บางลง
- เลเซอร์ขนขา : จะช่วยแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่มีปัญหาขนขาดก ขนยาวและเยอะ รวมถึงผู้ที่โกนขนขาหรือแว็กซ์ขนขาเป็นประจำแล้วเกิดขนคุด
- เลเซอร์ขนแขน : จะทำให้แขนมีความเรียบเนียนขึ้น แก้ปัญหาขนดก ขนยาว ขนเยอะ รวมถึงโกนขนแล้วเป็นขนคุดได้
- เลเซอร์บิกินี่ : เป็นอีกหนึ่งจุดที่ผู้หญิงในปัจจุบันหลายคนให้ความสนใจ เนื่องจากการเลเซอร์บิกินี่จะช่วยลดความอับชื้นและลดการเสียดสีภายในกางเกง
- เลเซอร์หน้าอก : เหมาะสำหรับผู้ชายที่มีขนหน้าอกแต่ไม่อยากกำจัดขนด้วยการโกน แว็กซ์ หรือใช้ครีมกำจัดขน การเลเซอร์ขนหน้าอกจะช่วยให้ผิวเรียบเนียน ไม่เป็นตอ รวมถึงมีการระคายเคืองน้อย