Chelation ล้างพิษฟื้นฟูหลอดเลือด

Chelation ล้างพิษฟื้นฟูหลอดเลือด

หลายคนคงสงสัยกับคำนี้ เพราะว่าไม่ค่อยได้ยินบ่อยๆ ว่ามันคืออะไร? แต่ก่อนจะไปที่คีเลชั่นคืออะไร หมอขอสรุปก่อนว่า ปัจจุบันนี้มลภาวะค่อนข้างเยอะ รวมถึงพฤติกรรมการรับประทานอาหารที่เปลี่ยนไป ทำให้มีสารตกค้างได้ในร่างกาย โดยเฉพาะโลหะหนักที่ได้มาจากการรับประทานอาหาร การสูดลมหายใจ การสัมผัสทางผิวหนัง เป็นต้น

ซึ่งพวกเราไม่เคยรู้ตัวกันเลยว่า ภัยร้ายที่เข้ามาแบบเงียบๆ กำลังค่อยๆสะสมอยู่ในร่างกายของเรา

โดยการสะสมพิษ มาจากหลากหลายรูปแบบ เช่น พิษจากการที่เรารับประทานยาเป็นประจำ และเป็นเวลานาน หรือเกินความจำเป็น เนื่องจากบางคนเวลาป่วยไข้ ก็ชอบทานยาทำให้เกิดการสะสมของยา รวมถึงสารปรุงแต่งจากอาหาร หรือเครื่องสำอางค์ เช่น ลิปสติก, แชมพู, ยาย้อมสีผม, ยาทาเล็บ ซึ่งสารพิษเหล่านี้มักจะเข้าไปสะสมที่ตับ และไต ทำให้ร่างกายมีอาการปวดเมื่อยและอ่อนเพลียได้

คีเลชั่น คือ การให้สารน้ำทางหลอดเลือด (ให้น้ำเกลือ) ที่มีสารประกอบประเภทกรดอะมิโน ที่เรียกว่า EDTA ผสมกับวิตามินและแร่ธาตุ ซึ่ง EDTA ทำหน้าที่สำคัญ ในการจับสารโลหะหนักเช่น ตะกั่ว ปรอท สารหนู หรือ แม้แต่แคลเซี่ยมส่วนเกิน ซึ่งสะสมตกค้างในเนื้อเยื่อ และพอกอยู่ ตามผนังหลอดเลือดของเรา เพื่อขจัดออก จากระบบปัสสาวะ ระยะเวลาในการให้น้ำเกลือแต่ละครั้ง ประมาณ 2.5-3 ชั่วโมง ระหว่างที่ให้น้ำเกลือสามารถ พักผ่อน ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือหรือฟังเพลงได้ตาม ปกติธรรมดา ภายหลังจากการเสร็จการรักษาสามารถ ประกอบกิจกรรมได้ตามปกติไม่จำเป็นต้องนอนพัก

อาการแสดงเมื่อมีสารพิษโลหะหนักสะสมในร่างกาย เช่น 

–  ปวดศีรษะบ่อย หงุดหงิด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ง่วงนอน สมาธิไม่ดี ความจำเสื่อม
–  ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดตามข้อและกระดูก รูมาตอยด์
–  ท้องผูกเรื้อรัง  ปากเหม็น กลิ่นตัวแรง
–  ปัญหาผิวพรรณ สิว ฝ้า
–  หอบหืด ภูมิแพ้ เป็นลมพิษง่าย
–  ระบบเผาผลาญทำงานน้อยลง ทำให้อ้วนง่าย
–  เบื่ออาหาร ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอ ผายลมบ่อยๆ
–  โรคผิวหนังเรื้อรัง ผื่นคัน เป็นแผล เป็นฝีบ่อยๆ

คีเลชั่น (Chelation) มีส่วนช่วยอะไร?

การทำคีเลชั่น ตัวสาร EDTA จะมีหน้าที่ไปจับกับโลหะหนัก และถูกนำออกมา โดยขับออกทางไต นอกจากนี้โคเลสเตอรอลที่เกาะตรงผนังหลอดเลือดก็จะลดลง ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดมีปริมาณมากขึ้น

ดังนั้นสามารถสรุปง่ายๆได้เลยว่า การทำคีเลชั่นมีส่วนช่วยกำจัดสารโลหะหนัก ล้างสารพิษในหลอดเลือด และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ส่งผลให้ป้องกันโรคหัวใจ และหลอดเลือด

คีเลชั่นเหมาะกับใครบ้าง

–  ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการอุดตันของหลอดเลือด เช่น อุดฟันด้วยโลหะ อมัลกัม มีไขมันในเส้นเลือดสูง มี oxidative stress (ระดับอนุมูลอิสระสูง) เช่น ดื่มชา กาแฟ แอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือใกล้ชิดกับผู้ที่สูบบุหรี่ ฯลฯ
–  ผู้ที่มีปัญหาสารพิษโลหะสะสมและปัญหาสารพิษอื่นๆ สะสมในร่างกาย
–  ผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ การไหลเวียนโลหิตบกพร่อง มีอาการ เช่น เวียนหัวง่าย ฯลฯ
–  ผู้ที่มีปัญหาโรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากหลอดเลือดไม่ยืดหยุ่น
–  ผู้ที่แข็งแรงดี แต่ต้องการป้องกันตนเองจากโรคมะเร็งและโรคเส้นเลือดตีบตัน รวมทั้งต้องการกำจัดสารพิษและโลหะหนักออกจากตัว และต้องการรักษาสภาพของเส้นเลือดทั่วตัว ไม่ให้เกิดการอุดตันในอนาคต
–  ผู้ที่ไปทำบอลลูนเส้นเลือด ใส่ขดลวด ทำบายพาสมาแล้ว เพราะจะเกิดการอุดตันใหม่เกิดขึ้น ซึ่งการทำคีเลชั่นจะลดปัญหาเหล่านั้นได้

ล้างพิษด้วย Chelation Therapy ดีอย่างไร ?

โลกที่เต็มไปด้วยมลพิษ ทั้ง น้ำ และอากาศ ดิน อาหาร ทุกอย่างล้วนมี โอกาสที่จะปนเปื้อนสารพิษ โลหะหนักได้ สารพิษโลหะหนักพบได้ในวัสดุก่อสร้าง เครื่องสำอาง ยารักษาโรค อาหารที่ผ่านกระบวนการ ต่าง ๆ แหล่งเชื้อเพลิงผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลสุขภาพ สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ รวมถึงมนุษย์ ก่อให้เกิดความผิดปกติ ในการแบ่งตัวของเซลล์ทำให้ความสามารถในการนำสารอาหารไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายน้อยลง ส่งผลให้เกิดความเสื่อมสภาพของอวัยวะในร่างกายอย่างต่อเนื่อง

ประโยชน์และผลที่จะได้รับ

–  ลดการอุดตันในหลอดเลือดทั้งในสมองและหัวใจ
–  ลดการเกิดโรคหัวใจกำเริบ
–  ลดความดันโลหิต
–  ลดอาการอักเสบของผิวหนัง
–  ลดการเกิดข้ออักเสบ
–  ลดอาการหอบหืด ภูมิแพ้
–  ระบบการหมุนเวียนโลหิตทั่วไปดีขึ้น (เส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงหัวใจ,มือและเท้า ฯลฯ
–  ช่วยให้ประสาทการรับรู้ต่างๆ เช่น รสชาติ ภาพ เสียงดีขึ้น
–  บรรเทาอาการเหน็บชา
–  ระบบการทำงานของปอดดีขึ้น
–  ลดโอกาสเกิดมะเร็ง
–  ลดระดับไขมันในเลือด
–  ลดโอกาสสูญเสียอวัยวะ
–  เพิ่มมวลกระดูก
–  คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) ดีขึ้น
–  ช่วยให้สมองแจ่มใส ช่วยให้ความจำดี
–  บรรเทาอาการอัลไซเมอร์
–  ฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ
–  ช่วยให้อาการอ่อนเพลียเรื้อรังหมดไป
ข้อควรทราบเมื่อต้องการทำ คีเลชั่น
  • ควรตรวจร่างกายเพื่อประเมินปัญหาที่เป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตรวจประสิทธิภาพการทำงานของไต ก่อนเข้ารับบริการ
  • ระหว่างการรักษา ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากขึ้น แนะนำให้ดื่มน้ำผลไม้ เพราะระหว่างการทำอาจ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีวิตามิน แร่ธาตุ พอเพียงต่อการเสริมสร้างและซ่อมแซมร่างกาย

ผลข้างเคียงจากการทำคีเลชั่น

ระยะแรกบางท่านอาจมีอาการอ่อนเพลีย อันเนื่องจากกระบวนการขับสารพิษออกจากร่างกาย อาการที่เกิดขึ้น แก้ได้โดยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำผลไม้และรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วนตามความ ต้องการของร่างกาย

สำหรับขั้นตอนการบำบัดรักษาประกอบด้วย

  • พบแพทย์เพื่อซักถามประวัติและตรวจร่างกาย อย่างละเอียด โดยจะมีการคำนวณปริมาณยาที่เหมาะสมเป็น รายบุคคล
  • ทำการตรวจ LAB พื้นฐานเพื่อหาปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ
  • ทำการตรวจวิเคราะห์ผลเลือด (Live Blood Analysis) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากสามารถบงบอก ภาวะของเลือด
  • ในขณะที่เซลล์ยังมีชีวิตซึ่งสามารถประเมินภาวะของร่างกายได้หลากหลายครอบคลุมในหลายๆ โรค
  • ทำการบำบัดด้วย คีเลชั่นบำบัดตามสูตรยาที่เหมาะสม แก่ผู้เข้ารับการบำบัดแต่ละราย
  • นัดติดตามผลเป็นระยะ ซึ่งระยะเวลาขึ้นกับลักษณะของโรคที่เรามีปัญหาอยู่
Top 10 Clinics
Logo