Roselinclinic โรสลินคลินิก ( RWC ) โดยคุณหมอขนมแพทย์ 1 เดียวในไทยในการสร้างผลงานคืนความอ่อนวัยในระดับสากล

Roselinclinic โรสลินคลินิก ( RWC ) โดยคุณหมอขนมแพทย์ 1 เดียวในไทยในการสร้างผลงานคืนความอ่อนวัยในระดับสากล


Call Now
091-0109379
Bookmark

About

สถาบันส่งมอบผลลัพธ์สุขภาพและความงามที่ดี

สถาบันเสริมความงามของเราให้ความสำคัญ ในเรื่องผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับลูกค้าเป็นหลัก ออกแบบความงามได้ในแบบของคุณอย่างปลอดภัย ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย มีคุณภาพตอบโจทย์ความต้องการอย่างตรงจุด ทั้งเรื่องของการปรับรูปหน้า พร้อมทั้งบริการดูแลผิวพรรณ ความงาม แก้ไขโหงวเฮ้ง ผิวหนังและเวชศาสตร์ชะลอวัยแบบครบวงจร

“ ตื่นตัวพร้อมรับการพัฒนา เพื่อสร้างคุณค่ามากกว่าการหยุดนิ่ง ”

“หมอขนม” พญ.ภัทรชนน อัศววรฤทธิ์

ความมุ่งมั่นและเพียรพยายาม คือ เครื่องพิสูจน์ว่า กว่าจะก้าวไปสู่ความสำเร็จในแต่ละขั้นต้องฝ่าฟันอุปสรรค และพัฒนาตัวเองเพื่อให้มาเป็นหมอขนมในวันนี้ ต้องเปิดโอกาสให้ตัวเอง และได้รับโอกาสสำคัญจากบุคคลที่เป็นเบื้องหลัง คอยมอบเวลาและประสบการณ์ที่ดี ให้หมอได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ เพื่อให้หมอได้นำความรู้ที่สั่งสมมาถ่ายทอดให้ผู้อื่นและส่งมอบความงามให้แก่ลูกค้า

หมอขนมมั่นใจว่า การเชื่อมั่นและไม่หยุดที่จะพัฒนาย่อมได้รับผลตอบแทนที่มากกว่าความสำเร็จ นั่นก็คือ ผลลัพธ์ที่ลูกค้าปรารถนา ที่ไม่ใช่เพียงความคุ้มค่า แต่คือความปลอดภัยและความพึงพอใจของลูกค้า

“หมอขนม” พญ.ภัทรชนน อัศววรฤทธิ์

ความสำเร็จของการศึกษาวัดกันที่ตรงไหน? 

ก้าวที่หนึ่ง…..การเริ่มต้น

“ผลผลิต… เป้าหมาย หรือ ปลายทาง”

จากทายาทธุรกิจยา สู่หนทางแพทย์ความงาม ก้าวแรกของหมอขนม เริ่มต้นมาจากครอบครัวและคนรอบข้าง และการที่ได้มีโอกาสเข้าไปช่วยเหลือในเรื่องของผิวหนัง รูปร่างความงาม ช่วยเปลี่ยนชีวิตใครได้อีกหลาย ๆ คน ให้ดูดีขึ้น มั่นใจมากขึ้น เป็นจุดที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการเดินทางนี้ ซึ่งแพชชั่น (Passion) และแรงบันดาลใจที่ได้มากกว่าผลลัพธ์จากการช่วยเหลือคือ “ความพึงพอใจ”

การเริ่มต้นด้วยความมุ่งมั่นนี้ ทำให้เธอสอบเข้าเป็นหนึ่งในรั้วจามจุรี มหาวิทยาลัยไทยที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ เธอสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี แพทยศาสตรบัณฑิต คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประเทศไทย ด้านผิวหนัง เวชศาสตร์ความงามและการชะลอวัย  ต่อมาเธอพัฒนาตัวเองไปอีกขั้นจนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท หลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาตจวิทยา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ไม่เพียงเท่านี้เธอยังคงพัฒนาไปเรื่อย ๆ เพื่อสิ่งที่ดีกว่าเดิม ในระยะเวลาเพียงไม่นาน เธอจึงเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชาจตวิทยา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กรุงเทพฯ ประเทศไทย

ก้าวที่สอง… ก้าวแห่งการเปลี่ยนแปลง

อยากได้ในสิ่งที่ไม่เคยได้ ต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ

การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่สิ่งน่ากลัวอย่างที่คิด ทุก ๆ การตัดสินใจย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด หมอขนมคำนึงถึงเรื่องนี้ จึงมุ่งมั่นและตั้งใจเปิดสถาบันเสริมความงามเป็นของตนเอง เพราะการรักษาที่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดทำให้เราไม่สามารถควบคุมตัวยาและการรักษาได้ด้วยตัวเองทั้งหมด เนื่องด้วยมีการขีดเส้นกำหนดตามแบบแผน ฉะนั้น หมอเลยมองว่าการที่เลือกเปิดสถาบันนี้ ทำให้หมอสามารถเลือกตัวยาที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างถี่ถ้วน และเราสามารถควบคุมมาตรฐานการรักษาได้ด้วยตัวเองเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า

RWC เปิดให้บริการมาแล้วกว่า 6 ปี จากคลินิกเล็ก ๆ สู่สถาบันความงามที่มีลูกค้าให้ความวางไว้ใจกว่าหมื่นเคส สถาบันตั้งอยู่ที่อาคาร Summer Point แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา ติดรถไฟฟ้า เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทางของลูกค้า

ทว่าการที่มีสถาบันเป็นของตนเองใช่ว่าเป็นสิ่งที่เรียกว่าความสำเร็จ เพราะความสำเร็จที่แท้จริง ก็คือปณิธานที่ตั้งไว้ให้กับอาชีพของตัวเอง มาตรฐานการรักษาที่ดี และความผิดพลาดที่ไม่งดงามของลูกค้า เพื่อพิสูจน์ถึงความตั้งใจ และความมุ่งมั่นที่มีต่อตัวเองและลูกค้า หมอจึงให้ความสำคัญในทุก ๆ การรักษา เพื่อผลลัพธ์ออกมาตามแบบที่ลูกค้าต้องการมากที่สุดโดยต้องอยู่พื้นฐานบนความปลอดภัย

ก้าวที่สาม…..อบรมบ่มศักยภาพอย่างไม่สิ้นสุด

ในทุกการเดินทาง จะคอยสร้างประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ เพื่อให้ก้าวต่อไปอย่างสมบูรณ์แบบ

การพัฒนาศักยภาพให้หมุนตามทันโลกที่ดีขึ้น คือการนำแรงบันดาลใจมาทำตามความฝัน ค่อย ๆ ศึกษาเพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศ ส่วนใหญ่จะเป็นต่างประเทศเป็นหลัก เพราะนวัตกรรมเทคโนโลยีหรือวิวัฒนาการต่าง ๆ มักจะรวดเร็วและอัปเดตอยู่เสมอ แต่เหนือสิ่งอื่นใดมากกว่าความตั้งใจที่ไม่ใช่ใคร ๆ ก็ทำได้ แม้อายุจะน้อยแต่ประสบการณ์ที่มีมากกว่านั้น เธอเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ

  • เป็นอาจารย์สอนพิเศษนักศึกษาปริญญาโท ทางด้านผิวหนัง ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
  • เป็นผู้ถ่ายทอดเทคนิคพิเศษด้านการฉีดฟิลเลอร์ (Restylane Trainer) ที่อายุน้อยที่สุด
  • เป็น 1 ในแพทย์ไทยกลุ่มแรกที่ผ่านการฝึกอบรมกับศัลยแพทย์ผู้คิดค้นนวัตกรรมร้อยไหมโครงตาข่ายจากประเทศเกาหลีใต้
  • เป็น 1 ใน 2 ผู้ได้รับเลือกให้เป็นเทรนเนอร์ร้อยไหมโครงตาข่ายที่อายุน้อยที่สุด
  • ได้รับโอกาส เป็น 1 ใน 2 แพทย์ไทย ที่ได้รับเชิญให้พบกับ Gwyneth Paltrow ผ่านการถ่ายทอดงานแถลงข่าวแบบออนไลน์ ส่งตรงมาจากลอส แอนเจลิส สหรัฐอเมริกา
  • ​ได้รับประกาศนียบัตรหลักสูตรปริญญาโทด้านการฉีดไขมันบนผิวหน้า : การฉีดไขมันเพื่อทดแทนและฟื้นฟูเนื้อเยื่อ โดย ดร. สตีฟ โคเฮน (ซานดิเอโก สหรัฐอเมริกา)
  • ​ได้รับประกาศนียบัตร MD Codes Immersion กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
  • ​ได้รับประกาศนียบัตร KOREADERMA 2019, กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ (การประชุมวิชาการด้านความงามผิวพรรณระดับนานาชาติของสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งเกาหลี)
  • จบหลักสูตรนรลักษณ์ศาสตร์ขั้นสูง  จากผู้เชี่ยวชาญระดับต้น ๆ อันดับ 1 ของประเทศไทย (โหงวเฮ้ง)
  • ผู้นำยุคใหม่ด้านการใช้เครื่องเลเซอร์ ได้รับเชิญไปบรรยาย ในงาน IMCAS Asia 2022
  • 1 ในแพทย์ไทยไม่กี่คน ที่ได้ขึ้นบรรยายในงานระดับเอเชีย AMAS
  • มีประสบการณ์การฉีดฟิลเลอร์กว่า 30,000 เคส
  • เป็นผู้นำด้านการร้อยไหม ถูกรับเชิญไปในงาน Thread lifting Advance class

หมอขนมเล็งเห็นว่า “เทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันเปลี่ยนไปเร็ว หมอที่ดีนั้นจะต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดมาให้ลูกค้า คอยอัปเดตข้อมูลการรักษาเพราะหากเราหยุดพัฒนาหรือใช้ความรู้ดั่งเดิมที่สั่งสมมาอาจจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่เพียงพอต่อการรักษา”

ก้าวที่สี่…. ที่สุดของความภาคภูมิใจ คือรางวัลจากสิ่งที่ทุ่มเท

  • รางวัล The Best Facial Transformation Result  จากนิตยสาร Hello ในงาน Beauty Awards 2021
  • รางวัล Best Filler จากนิตยสาร ELLE Thailand ในงาน ELLE Beauty & Wellness Centers Awards  2021
  • รางวัล Iconic Premium Filler Center และรางวัล  Iconic Facial Fat Grafting จากนิตยสารแพรว ในงาน Iconic Beauty Awards 2021
  • รางวัลยอดขายฟิลเลอร์สูงสุดในประเทศไทยจาก Galderma
  • รางวัลยอดขายฟิลเลอร์สูงสุดในประเทศไทยจาก Allergan
  • รางวัลยอดขายแฟคทอร่าสูงสุดในประเทศไทยจาก Inmode
  • รางวัลยอดขายฟอร์มาวีสูงสุดในประเทศไทยจาก Inmode

รางวัลเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรางวัลที่หมอได้รับมา และนับเป็นความภาคภูมิใจของการทุ่มเทที่มอบให้ลูกค้าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและยืนยันว่าสิ่งที่หมอทำนั้น คำนึงถึงผลลัพธ์ของลูกค้ามาเป็นอันดับแรก ในทุก ๆ ขั้นตอนของการรักษาต้องปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

การก้าวแต่ละขั้นล้วนมีความสำคัญ ต้องก้าวอย่างมีระบบแบบแผน เพื่อความถูกต้องและแม่นยำ ซึ่งทั้งหมดนี้

“เป็นเพียงก้าวของการเริ่มต้นเท่านั้น หมอขนมยังคงจะก้าวต่อไปเรื่อย ๆ จะไม่มีคำว่าก้าวสุดท้าย เพราะหมอมีความมุ่งมั่นที่พัฒนาตัวเองอยู่เสมอเพื่อให้ลูกค้าได้สิ่งที่ดีกว่า” 

จากที่คุณอ่านมาข้างต้นทำให้เห็นว่าแต่ละสิ่งที่เธอเลือกสรร ต้องผ่านการไตร่ตรองมาอย่างถี่ถ้วน เพราะเธอเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ทำในสิ่งที่อยากทำ แล้วคุณเองพร้อมหรือยังที่จะเปิดโอกาสให้ตัวเองและหมอขนมได้เป็นคนดูแลในทุกการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า…

เทคโนโลยีเเละนวัตกรรม

ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร รวมเรื่องต้องรู้ก่อนฉีด ครบจบที่เดียว

โดย : อาจารย์แพทย์หมอขนม

ฟิลเลอร์ ฉีดเติมเต็มหน้า

ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารไฮยาลูรอนิก หรือที่เรียกว่า “HA” ที่ฉีดเข้าไปยังบริเวณต่าง ๆ ที่มีปัญหา สารฟิลเลอร์จะช่วยเต็มเติมใบหน้า ใต้ตา ร่องแก้ม ปากฯ ให้เต่งตึง ทั้งนี้ ฟิลเลอร์ยังช่วยปรับสภาพผิว ทำให้หน้าดูเด็กลง ริ้วรอยและรอยหมองคล้ำดูจางลงได้

โดยสารชนิดนี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของคอลลาเจน และสามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ 100%

สารบัญฟิลเลอร์

ฉีด ฟิลเลอร์ RWC

ฟิลเลอร์ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง

สารเต็มเติมฟิลเลอร์ สามารถช่วยได้หลายเรื่อง ทั้งใบหน้าและบางส่วนตามร่างกาย ดังนี้

  • การเติมเต็มใบหน้า ริ้วรอย รอยหมองคล้ำให้ดูจางลง
  • ช่วยแก้ไขโครงสร้างใต้ผิวหนัง
  • ผิวบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เต่งตึงขึ้น ดูมีน้ำมีนวล
  • ช่วยเติมเส้นใยคอลลาเจนที่หายไป
  • ผิวนั้นดูอ่อนเยาว์ ริ้วรอยร่องลึกดูตื้นขึ้น
  • ผิวดูอ่อนกว่าวัย
  • ช่วยปรับสภาพผิวให้ชุ่มชื้น

ประเภทของ ฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์สามารถแบ่งออกเป็น  3 ประเภทดังนี้

1. Temporary filler (แบบชั่วคราว)

ฟิลเลอร์ ประเภทชั่วคราว อยู่ได้ประมาณ 6-24 เดือน (แล้วแต่ยี่ห้อ) เพราะสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ มีความปลอดภัยสูง เป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน เช่น ฟิลเลอร์กลุ่มไฮยารูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ที่เรารู้จักกัน

2. Semi Permanent Filler (แบบกึ่งถาวร)

ฟิลเลอร์ ประเภทกึ่งถาวร สามารถอยู่ได้นานประมาณ 5 ปี (แล้วแต่บุคคล) มีความปลอดภัยรองจากฟิลเลอร์แบบชั่วคราว อาทิ แคลเซียมฟิลเลอร์ ที่มีส่วนผสมของแคลเซียม ไฮดรอกซิลอะพาไทต์ (Hydroxyapatite)

ทั้งนี้ ประเภทนี้สามารถใช้ได้ในต่างประเทศ แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในประเทศไทย

3. Permanent Filler (แบบถาวร)

ฟิลเลอร์ ประเภทถาวร เป็นสารเติมเต็มพวก ซิลิโคน หรือ พาราฟิน หลังฉีดไปแล้วผิวจะไม่สามารถดูดซึมฟิลเลอร์ชนิดนี้ได้ ทำให้คงค้างอยู่ในชั้นผิวของเรา โดยไม่สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ มีผลข้างเคียงในระยะยาว เช่น ฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์ย้อยผิดรูป

*แพทย์จึงไม่แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ประเภทนี้

ฟิลเลอร์ชนิดสลายและไม่สลาย

ฟิลเลอร์มี 2 ชนิด คือ ชนิดสลายและไม่สลาย สารที่นำมาใช้ฉีดเพื่อเติมเต็มนั้น หากเป็นประเภทฟิลเลอร์ที่ทำจากสารที่ร่างกายสามารถค่อย ๆ สลายออกไปได้ หรือ ฟิลเลอร์ธรรมชาติที่มาจากร่างกายของเราเอง ซึ่งแต่ละชนิดนั้น มีข้อดีและข้อเสียต่างกันออกไป

ฟิล เลอร์

1. ฟิลเลอร์ที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้

1.1 ฟิลเลอร์สารสังเคราะห์

  • ฟิลเลอร์สารสังเคราะห์ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน คือ ฟิลเลอร์กลุ่ม HA สารชนิดนี้จะสามารถจับตัวกับน้ำและพองขึ้นเป็นเจล มีคุณสมบัติส่งผลให้ผิวหนังเต่งตึง มีอายุประมาณ 6-12 เดือน และเป็นฟิลเลอร์ชนิดเดียวที่ อย.ไทยรับรอง
  • แคลเซียมฟิลเลอร์ สารชนิดมาจาก Calcium Hydroxyapatite หรือ CaHA ฟิลเลอร์ชนิดนี้สามารถฉีดเพื่อแก้ไขเติมเต็มได้ นอกจากการฉีดบนใบหน้าและมือแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ในการเติมหน้าอกและสะโพกได้อีกด้วย ผลการรักษาอยู่ได้นาน 2 ปี
  • กรดโพลี แอล แลคติก (Poly L lactic acid หรือ PLLA) คือ สารอุ้มน้ำที่มีความเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อในร่างกาย และสามารถสลายได้ตามธรรมชาติ PLLA เป็นฟิลเลอร์ที่ได้ผลอยู่นานกว่าไฮยารูลอนิกแอซิด ให้ผลลัพธ์ยาวนานถึง 2-4 ปี

1.2 ฟิลเลอร์จากร่างกายของคนไข้เอง

ฉีดไขมันหน้า 7วัน
ฉีดไขมันหน้า 1เดือน

การฉีดฟิลเลอร์ชนิดนี้ ก็คือ ฉีดไขมัน ที่นำมาจากบริเวณต้นขา สะโพก หรือหน้าท้องของคนไข้เอง และจะมีกระบวนการ 2 ขั้นตอน คือ การนำไขมันออกมาโดยวิธีการดูดไขมัน และฉีดไขมันเข้าไปยังส่วนที่ต้องการเติมเต็มนั่นเอง

สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

2. ฟิลเลอร์ที่ร่างกายไม่สามารถดูดซึม

สารพลาสติกสังเคราะห์ โพลีเมธิลเมธาไครเลต บีทส์ หรือ Polymethylmethacrylate beats (PMMA microspheres) เป็นสารที่ร่างกายไม่สามารถดูดซึม จำพวกเดี่ยวกับซิลิโคน/พาราฟิน เป็นสารสังเคราะห์เช่นเดียวกับ PLLA ที่มีความเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อในร่างกาย แต่ไม่สามารถสลายเองได้ ไม่สามารถทำการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ ต้องผ่าตัดเนื้อเยื่อออกเท่านั้น

ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายหรือไม่

ฟิลเลอร์ เป็นสาที่ไม่อันตรายหากเป็นฟิลเลอร์แท้ และรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งปกติแพทย์จะเป็นผู้แนะนำว่าผิวของเราเหมาะกับฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนรุ่นไหน ซึ่งส่วนหนึ่งก็ขึ้นกับความถนัดและเทคนิคการฉีดของหมอแต่ละคนด้วย

  • ฟิลเลอร์ปลอม เสี่ยงการอุดตันในเส้นเลือด (อ่านเพิ่มเติม)
  • แพทย์ที่ทำการฉีดต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
  • แพทย์มีความเชี่ยวชาญด้านกายวิภาค และลดความเสี่ยงในการฉีดโดนเส้นเลือด

เจาะลึกฟิลเลอร์ : ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม

ตำแหน่งยอดฮิตที่นิยมฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ ฉีดตรงไหน

ฟิลเลอร์ สามารถฉีดได้หลากหลายตำแหน่ง ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล หรือต้องการที่จะเสริมในบริเวณไหน ส่วนใหญ่ตำแหน่งที่นิยมฉีดกันมาก มีทั้งหมด 8 ตำแหน่ง ดังนี้

1. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ ผ่าน อย.ไทย
ฟิลเลอร์ ใต้ตา

สาเหตุการเกิดรอยคล้ำหมองของใต้ตา มีด้วยกันหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น การพักผ่อนไม่เพียงพอ ใต้ตาคล้ำจากโรคภูมิแพ้ ลักษณะทางพันธุกรรม หรือแม้กระทั่ง กระดูกใต้ตายุบลง จากสาเหตุอายุที่เพิ่มมากขึ้น โดยสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

เจาะลึกฟิลเลอร์ใต้ตา : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ข้อดี-ข้อเสีย อันตรายไหม รู้จริงกับหมอขนม

2. ฉีดฟิลเลอร์คาง

ฟิลเลอร์ neuramis

ฟิลเลอร์คาง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางบุ๋ม คางตัด คางยื่นไม่เข้ากับรูปหน้า หรือใกล้ปากมากเกินไป การฉีดฟิลเลอร์คาง จึงมีส่วนช่วยในการปรับรูปหน้า เติมส่วนที่ขาดหายให้ใบหน้าดูสมส่วนมากยิ่งขึ้น

เจาะลึกฟิลเลอร์คาง : รวมข้อควรรู้ ฟิลเลอร์คาง เติมส่วนที่ขาดให้สวย

3. ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ฟิลเลอร์ คือ
ฟิลเลอร์ ร่องแก้ม รีวิวฟิลเลอร์

ปัญหาร่องแก้มลึก ทั่วไปร่องลึกนี้จะลึกมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออายุย่างเข้าสู่ 25 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะผู้หญิงเห็นชัดกว่าผู้ชาย เพราะร่องแก้มลึกจะทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ต้องแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม จะช่วยให้ร่องแก้มตื้นขึ้น ใบหน้าดูอวบอิ่ม ไม่โทรม

เจาะลึกฟิลเลอร์ร่องแก้ม : ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฉีดแล้วปลอดภัย สวยได้ไม่เสี่ยง

4. ฉีดฟิลเลอร์จมูก

ฟิลเลอร์จมูก

การฉีดฟิลเลอร์จมูก เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการผ่าตัดปรับแก้ไขรูปทรงจมูก การฉีดฟิลเลอร์จมูกช่วยให้จมูกสวยพุ่ง มีมิติ ทั้งยังสามารถเติมปลายหยดน้ำ หรือปรับรูปให้จมูกสวยงามตามลักษณะของโหงวเฮ้งให้ดีได้อีกด้วย

เจาะลึกฟิลเลอร์จมูก : รวมทุกเรื่อง ฉีดฟิลเลอร์จมูก สวย ปลอดภัย

5. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ฉีด ฟิลเลอร์ หน้า รีวิวฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ หน้า รีวิวฟิลเลอร์

เมื่ออายุมากขึ้น หน้าผากก็จะเล็กและแคบลง เนื่องจากกระดูกกะโหลกและชั้นผิวจะบางลงเมื่อเวลาผ่านไป เป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าผากไม่สวย โค้งมน เกิดการยุบตัวลง ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่มีมิติ และขาดสมมาตร ต้องแก้ไขด้วยการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ทั้งนี้ฟิลเลอร์หน้าผากยังช่วยในเรื่องการปรับโหงวเฮ้งให้ดีด้วย

เจาะลึกฟิลเลอร์หน้าผาก : ปรับโหงวเฮ้งให้เฮง ด้วยการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

6. ฉีดฟิลเลอร์ปาก

ฟิลเลอร์ปาก
ฉีด ฟิลเลอร์ ปาก RWC

สำหรับริมฝีปากที่เห็นริ้วรอยได้ง่าย ดูแห้ง เกิดจากคอลลาเจนน้อยลงจะดูไม่อิ่มเอิบ ส่งผลทำให้ความมีเสน่ห์ น่าดึงดูดลดน้อยลงด้วย ฉะนั้นการฉีดฟิลเลอร์ปากจะช่วยให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม ชุ่มชื้นและมีเสน่ห์น่ามอง

เจาะลึกฟิลเลอร์ปาก : รวมสิ่งที่ต้องรู้ก่อนฟิลเลอร์ปาก

7. ฉีดฟิลเลอร์ขมับ

ฟิลเลอร์ ฉีดขมับ

ปัญหาขมับตอบ เกิดจากโครงสร้างกะโหลกศีรษะของแต่ละบุคคล การฉีดฟิลเลอร์ขมับ จะช่วยปรับรูปหน้าโดยรวมให้ได้สัดส่วนมากขึ้น และช่วยลดความเด่นของโหนกแก้มลง และช่วยในเรื่องการเสริมโหวงเฮ้งอีกด้วย

เจาะลึกฟิลเลอร์ขมับ : ฟิลเลอร์ขมับ ปรับรูปหน้า โหนกแก้มดูเล็กลงได้โดยไม่ต้องผ่าตัด [อัปเดต 2023]

8. ฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

ฟิลเลอร์ juvederm
ฟิลเลอร์ ฉีดแก้มตอบ แก้โหนกแก้ม

สาเหตุแก้มตอบเกิดจากผอมเกินไป หรือ ลดน้ำหนักรวดเร็วเกินไป ผลกระทบจากการจัดฟัน พันธุกรรม หรือมีโหนกแก้มสูงเกินไป ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย  โทรม ไม่สดใส การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบจะช่วยให้ผิวก็จะดูเรียบเนียนขึ้น ทั้งยังช่วยในการปรับโหงวเฮ้ง ช่วยส่งเสริมในเรื่องต่าง ๆ ตามหลักความเชื่อชาวจีนอีกด้วย

เจาะลึกฟิลเลอร์แก้มตอบ : ฟิลเลอร์แก้มตอบ แก้ปัญหาเนื้อแก้มแบบไม่ต้องพักฟื้น

ฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละตำแหน่ง ต้องฉีดปริมาณเท่าใด

ฉีดฟิลเลอร์ ใช้กี่

การแก้ไขปัญหาด้วยฟิลเลอร์ในแต่ละตำแหน่ง จะใช้ปริมาณยาไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของแต่ละคน โดยแพทย์จะประเมินว่าในแต่ละตำแหน่ง ใช้ปริมาณฟิลเลอร์เท่าไหร่จึงจะเพียงพอ โดยรวมแล้วขึ้นอยู่กับสภาพผิวของคนไข้และปัญหาที่จะทำการแก้ไขในบริเวณนั้น ๆ ด้วย

อาการแพ้ฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์ เป็นก้อน

อาการแพ้ฟิลเลอร์ เป็นการแพ้สารบางชนิดในฟิลเลอร์ โดยโอกาสที่จะพบคนที่แพ้ฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid น้อยกว่า 1%

หากใครที่มีอาการแพ้ จะมี 2 รูปแบบ ดังนี้

  • ลมพิษแบบรุนแรง (Angioedema) : อาการแพ้จะแสดงให้เห็นลมพิษขึ้นมาอย่างรุนแรง
  • อาการแพ้ฟิลเลอร์ (Delay Hypersensitivity) : อาการแพ้ฟิลเลอร์ชนิดนี้จะเป็นก้อนบวม นูนแดงอักเสบ มักเกิดอาการ ได้ภายในระยะเวลา 6 เดือนหลังจากฉีดฟิลเลอร์ไปแล้ว

โดยเบื้องต้นสามารถทานยาฆ่าเชื้อ เพื่อบรรเทาอาการบวมได้ แต่ถ้าหากรุนแรงมากอาจต้องเข้ามาพบแพทย์เพื่อทำการฉีดสลายฟิลเลอร์

ราคาฟิลเลอร์

การใช้ฟิลเลอร์ในการรักษานั้นมีราคาค่อนข้างสูง ปริมาณที่ใช้ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพผิว ซึ่งหากใช้ฟิลเลอร์แท้จะมีราคาค่อนข้างสูง (เริ่มต้นประมาณ 1X,000 บาท/CC.)

ฟิลเลอร์แบรนด์ที่หมอใช้เป็นประจำและอยากแนะนำ คือ แบรนด์ Juvederm Restylane และ Belotero เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของคุณภาพและความปลอดภัย มีผลงานการศึกษาถึงความปลอดภัยเป็นเวลานาน

เจาะลึกฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์ 1 cc ปริมาณเท่าไร 

แบรนด์ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองในประเทศไทย (อย.ไทย)

ปัจจุบันมีฟิลเลอร์หลากหลายยี่ห้อและหลายรุ่นด้วยกัน แต่ละรุ่นราคาก็แตกต่างกันไป

**สำคัญ อย่าลืมปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษา และเลือกให้เหมาะกับปัญหาที่จะแก้ไข เพื่อความปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างตรงจุด สำหรับยี่ห้อที่ได้รับความนิยมและผ่านการรับรองในประเทศไทย มีดังนี้

1. Juvederm

Juvederm นำเข้าจากอเมริกา มีหลากหลายรุ่นให้เราเลือกใช้ ตามความเหมาะสมของแต่ละส่วน  เจาะลึกฟิลเลอร์ Juvederm ของแท้

ฟิลเลอร์ juvederm ultra-plus
  • Ultra / Ultra plus  เป็น 2 รุ่นของฟิลเลอร์แบรนด์อเมริกา ที่ให้ความเข้มข้นของสาร HA  ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เก็บกักน้ำได้ดี ทนต่อการขยับ เหมาะในการเติมเต็มขมับ ร่องแก้ม ปาก และแก้มตอบ  อยู่ได้นาน 12-15 เดือน
ฟิลเลอร์ juvederm voluma
  • Voluma filler ฟิลเลอร์เนื้อแข็งฟูปานกลาง มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับฉีดใต้ตา ฉีดปาก ร่องแก้ม คางและขมับ อยู่ได้นาน 16-18 เดือน
ฟิลเลอร์ juvederm volife
  • Volift filler ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความละเอียดสูง เหมาะในการใช้สำหรับแก้ไขร่องลึกและรอยย่น อันเนื่องมาจากสภาวะต่าง ๆ มุมปาก เติมระหว่างคิ้วได้ เช่นการแก่ก่อนวัย อยู่ได้นาน 12 เดือน
ฟิลเลอร์ juvederm voballajpg
  • Vobella filler  ฟิลเลอร์ตัวนี้มีลักษณะเป็นเนื้อนิ่ม ที่มีความละเอียดสูง เน้นใช้กับคาง หน้าผาก, ขมับตอบ หรือการฉีดลิฟติ้งยกใบหน้า ฉีดแล้วมีความธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน อยู่ได้นาน 12 เดือน
ฟิลเลอร์ juvederm volite
  • Volite filler ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะกับฉีดในผิวชั้นตื้น เหมาะสำหรับการฉีดเติมเต็มรอยและเก็บรายละเอียดริ้วรอยเล็ก เพิ่มความชุ่มชื้น ลดรอยยับของผิวหนัง ตำแหน่งที่นิยมใช้ คือ ใต้ตา และเพื่อบำรุงผิว (Skin booster) อยู่ได้นาน 8-12 เดือน

2. Restylane

Restylane ฟิลเลอร์จากสวีเดน  การันตีจากอย FDA อเมริกา และ CE MARKS จากยุโรป มีมากมายหลายรุ่นให้เลือกใช้กับแต่ละตำแหน่งปัญหาเช่นกัน อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 12-18 เดือน เจาะลึกฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์ Restylane ดีไหม หมอขนม Restylane Trainner มีคำตอบ

  • Restylane classic ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เหมาะสำหรับปัญหาริ้วรอยระดับกลางถึงมาก ใช้เก็บรายละเอียดเล็ก ๆ เช่น ใต้ตา Midface แก้มส้ม ร่องแก้ม ร่องพับมุมปาก ร่องพับคาง อยู่ได้นาน 12 เดือน
ฟิลเลอร์ Restylane
  • Restylane Refyne ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับผิวหนังที่บาง แก้ปัญหารอยยับเล็ก ๆ ที่ต้องการความละเอียด เหมาะสำหรับฉีดปาก ร่องแก้ม มุมปาก รอบดวงตา อยู่ได้นาน 12 เดือน
ฟิลเลอร์ Restylane Refyne
  • Restylane Defyne ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง เนื้อเจลมีความนิ่มปานกลาง สามารถอุ้มน้ำได้มาก  นิยมใช้รักษาบริเวณ midface หรือนำมาใช้ในการเติมเต็มแก้มส้ม ร่องน้ำหมาก ร่องพับคาง ใต้ตา ปาก อยู่ได้นาน 16-18 เดือน
ฟิลเลอร์ Restylane Defyne
  • Restylane Lyft
    ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง นิยมนำมาเติมเต็มแก้ไขในจุดที่ต้องการแรงยกสูง เช่น บริเวณขมับ ตามตำแหน่งเส้นเอ็นต่าง ๆ ของใบหน้า คาง ร่องแก้ม ใต้ตา จมูก เป็นต้น อยู่ได้นาน 12 เดือน
ฟิลเลอร์ Restylane Lyft
  • Restylane Volyme ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ใช้เติมชั้นผิวให้ เติมผิวให้อิ่มฟูขึ้น นิยมนำมาใช้ในการรักษาในตำแหน่งที่ต้องการการเติมเต็มที่สมบูรณ์แบบ เช่น บริเวณแก้มตอบ ร่องแก้ม ปาก และมุมปาก เป็นต้น อยู่ได้นาน 18 เดือน
ฟิลเลอร์ Restylane Volyme
  • Restylane Vital  ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับแก้ไขปัญหา ริ้วรอย ร่องลึก ตื้น ๆ ฉีดใต้ตา หน้าผาก ให้เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ ช่วยปรับความชุ่มชื้นของผิว  อยู่ได้นาน 12 เดือน
ฟิลเลอร์ Restylane Vital
  • Restylane Vital light ฟิลเลอร์เจลอนุภาคเล็ก เนื้อละเอียดมากที่สุด แก้ไขปัญหาจะใช้แก้ไขบริเวณ หลุมสิว รอยคล้ำใต้ตา หรือบริเวณที่ต้องการความชุ่มชื้นเป็นหลัก เช่น ใต้ตา ปาก หลังฝ่ามือ ฝ่าเท้า รวมถึงการแก้ไขปัญหาที่ลำคอ และเนินอก อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
ฟิลเลอร์ Restylane Vital light
  • Restylane Kysse *new  ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม ผลิตขึ้นเพื่อปรับรูปปากโดยเฉพาะ เป็นเทคโนโลยีผสมผสาน OBT ช่วยเติมเต็มริมฝีปากให้ดูชุ่มชื้น เรียบเนียน เพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปากดูสวย สุขภาพดี อยู่ได้นาน 12 เดือน  อ่านเพิ่มเติม >>>  ฟิลเลอร์ Kysse
ฟิลเลอร์ Restylane Kysse

3. Belotero

Belotero filler หรือ colorful filler จากสวิสเซอร์แลนด์ ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะราคาไม่แพงจับต้องได้ ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM Technology ซึ่งเป็นนวัตกรรมการผลิตพิเศษที่มีแค่ยี่ห้อนี้เท่านั้น ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความเรียบเนียน กลืนกับผิวหน้าได้ดี สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกสภาพผิว มี 4 รุ่นให้เลือกใช้   เจาะลึกฟิลเลอร์ : ทำความรู้จักฟิลเลอร์ Belotero

ฟิลเลอร์ Belotero Soft
  • Belotero Soft ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด โมเลกุลเล็ก นิยมใช้สำหรับในการเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวใส หน้าฉ่ำวาว มีน้ำมีนวล เก็บริ้วรอยเล็ก ๆ นิยมใช้บริเวณหน้าแก้ม ใต้ตา  และรักษาหลุมสิวที่ไม่ลึกมากได้ด้วย อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
ฟิลเลอร์ Belotero Balance
  • Belotero Balance  นิยมใช้ในบริเวณใต้ตา เพิ่มความกระจ่างใส เรียบเนียน ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน สร้างขอบปากและสร้างร่องเหนือริมฝีปากให้ชัดมากขึ้น อีกทั้งยังใช้บริเวณหน้าผากที่มีปัญหาไม่มากได้ รวมไปถึงหลุมสิวไม่ลึก อยู่ได้นาน 12-18 เดือน
ฟิลเลอร์ Belotero Intense
  • Belotero Intense ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นสูง นิยมใช้สำหรับบริเวณที่มีการขยับบ่อย ๆ เช่น ขมับ หรือริมฝีปาก และใช้ยกกระชับใบหน้า รวมไปถึงริ้วรอยร่องลึกตามใบหน้า อยู่ได้นาน 18 เดือน
ฟิลเลอร์ Belotero Volume
  • Belotero Volume  ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นสูง เหมาะสำหรับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก นิยมใช้ในการเติมเต็มในบริเวณที่ต้องการการคงที่ของฟิลเลอร์ เช่น คาง ขมับ แก้มส้ม ปาก อยู่ได้นาน 18 เดือน
ฟิลเลอร์ Belotero Revive
  • Belotero Revive *new   ฟิลเลอร์ตัวแรกของโลกที่เพิ่มส่วนผสมของ HA+Glycerol (Duo Action) ที่มีประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้นจากชั้นผิวหนังด้านในสู่ด้านนอก เหมาะสำหรับการฉีดบำรุงผิว เน้นการฟื้นฟู เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิว ไม่เน้นปรับโครงสร้างผิวเหมือนรุ่นอื่น ๆ อยู่ได้นาน 9 เดือน

4. Perfectha

Perfectha filler new generation จากฝรั่งเศส ผ่านการตรวจรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) ไทย และต่างประเทศ

เจาะลึกฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์ Perfectha

ฟิลเลอร์ Perfectha
ฟิลเลอร์นิวรามิส

Neuramis filler  จากประเทศเกาหลี ราคาประหยัด ซึ่งตอนนี้ผ่านการรับรองในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว

เจาะลึกฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์ Neuramis ของแท้ดูอย่างไร

6. Definisse filler

Definisse ฟิลเลอร์บริสุทธิ์น้องใหม่ ผู้ผลิตเดียวกับไหม Definisse จากประเทศอิตาลี บริษัท RELIFE Menarini Group และ A.Menarini (Thailand) Ltd. ฟิลเลอร์ Definisse ใช้เทคโนโลยี XTR™ Technology (eXcellent Three-Dimensional Reticulation) ที่ช่วยในการยกพยุง และยกกระชับปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ Definisse restore
ฟิลเลอร์ Definisse core

ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 รุ่น คือ

  • Touch เหมาะสำหรับการเติมหน้าผากให้ดูสวยเป็นธรรมชาติ
  • Restore เหมาะสำหรับฉีดเติมริ้วรอยร่องลึก รอยหย่อนคล้อยร่องแก้ม ร่องมุมปาก
  • Core เหมาะในการใช้ปรับโครงสร้างหน้า หรือยกพยุงหน้า

ซึ่งความพิเศษ คือ ตัวไซริงค์ทำจากแก้ว มีลักษณะใสทำให้สามารถมั่นใจได้ถึงความบริสุทธิ์ของตัวฟิลเลอร์ ดันตัวยาได้ง่ายทำให้ผู้เข้ารับบริการเจ็บน้อยลง ถูกพัฒนาและทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญและผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย.ไทย )

เจาะลึกฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ มีอะไรบ้าง 

7. Yvoire

ฟิลเลอร์ Yvoire
Yvoire แบรนด์น้องใหม่ที่คุณภาพพรีเมียมเทียบเท่าแบรนด์ในยุโรป เพิ่งนำเข้ามาในประเทศไทยไม่นาน โดยตัวที่นำร่องเข้ามาก่อนจะเป็นกล่องสีม่วง ที่มีโมเลกุลใหญ่ เหมาะกับเติมเต็มในชั้นลึก เช่น ขมับ ร่องแก้ม คาง เป็นต้น

อ่านเพิ่มเติม >>> เจาะลึกยี่ห้อฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ที่ RWC แนะนำ

ฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี

รับชมวิดีโอ : ทำไมฟิลเลอร์ถึงมีหลายรุ่น พร้อมวิธีการเลือกฟิลเลอร์

การเลือกฟิลเลอร์แท้ และ ฟิลเลอร์คุณภาพ

ฟิลเลอร์ แท้ ดีอย่างไร

สิ่งสำคัญก่อนฉีดฟิลเลอร์ คือ การตรวจสอบว่าฟิลเลอร์ที่ฉีด แท้หรือไม่? การฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้งจะต้องมั่นใจได้ว่าฟิลเลอร์ที่เราฉีดนั้น มีคุณภาพ ได้รับการรับรอง และตรวจสอบมาตรฐานโดยองค์การอาหารและยาประเทศไทย

วิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยงต่อฟิลเลอร์ลอม การสังเกตฟิลเลอร์เบื้องต้น จะช่วยป้องกันการถูกหลอกลวง สำหรับกรณี ของแท้จากต่างประเทศ แต่ลักลอบหิ้วเข้ามาฉีด โดยปกติกระบวนการเก็บรักษา ในกระบวนการหิ้วฟิลเลอร์หนีภาษีจากต่างประเทศนั้น ต้องขนส่งหลายต่อ อาจทำให้ฟิลเลอร์เสื่อมไม่ได้คุณภาพ

เจาะลึกฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์ปลอม คืออะไร ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไร ?

ระยะเวลาของฟิลเลอร์ อยู่ได้นานแค่ไหน

ฟิลเลอร์ จะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับรุ่นและละยี่ห้อ โดยจะแตกต่างกันทั้งปริมาณความเข้มข้นของ Hyaluronic Acid และเทคโนโลยีการผลิต ส่วนใหญ่ฟิลเลอร์จะอยู่ได้นาน 6-18 เดือน แล้วแต่ยี่ห้อและการดูของแต่ละคน

เจาะลึกฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์ อยู่ได้นานแค่ไหน ?

ข้อปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์

ก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์ จะมีข้อควรปฏิบัติ ดังนี้

ข้อปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์

* หลีกเลี่ยงอาหารเสริมหรือยาบางชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เช่น ยาแก้ปวด กลุ่ม NSAIDs, แอสไพริน (aspirin) และ ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) สมุนไพรก็จะเป็น  น้ำมันตับปลา แปะก๊วย โสม เป็นต้น

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

หลังจากฉีดฟิลเลอร์ จะมีข้อควรปฏิบัติ/ดูแล ดังนี้

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

อาการข้างเคียงของการฉีดฟิลเลอร์

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดฟิลเลอร์แท้ ในบางคนอาจมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำการฉีดเล็กน้อยเป็นปกติค่ะ

ฟิลเลอร์ อาการข้างเคียง

แนะนำให้หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดนั้น ๆ อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หาก 3 วัน อาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้พบแพทย์คลินิกที่ได้ทำการรักษา ทั้งนี้ หากฟิลเลอร์ที่ฉีดเป็นฟิลเลอร์แท้ จะไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตราย

อ่านเพิ่มเติม >>> ฟิลเลอร์เป็นก้อน แก้อย่างไร

สลายฟิลเลอร์ คืออะไร

การฉีด สลายฟิลเลอร์ คือ การฉีดเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส ( Hyaluronidase:HYAL) เข้าไปในร่างกายเพื่อสลายฟิลเลอร์แท้ ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึ่งประสงค์ ฉีดแล้วไม่สวย เป็นต้น (เจาะลึกการสลายฟิลเลอร์)

**สามารถสลายได้เฉพาะฟิลเลอร์แท้ที่ทำมาจากกรดไฮยาลูรอนิกเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม

ฉีดฟิลเลอร์ เจ็บไหม

การฉีดฟิลเลอร์ไม่เจ็บ เนื่องจากแพทย์ผู้ทำการรักษาจะทายาชาก่อน จะออกฤทธิ์โดยระงับการทำงานของระบบประสาท ทำให้ผิวหนังและเนื้อเยื่อบริเวณโดยรอบที่ทายา จะไร้ความรู้สึกชั่วคราว ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ รวมไปถึงตัวของฟิลเลอร์เองมีส่วนผสมของยาชา (Lidocane) อยู่ด้วย

ดังนั้น ระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ สามารถมั่นใจได้ว่าแทบจะไม่รู้สึกเจ็บเลย รวมทั้งหลังยาชาหมดฤทธิ์แล้ว ก็จะไม่มีความรู้สึกเจ็บเช่นกัน

ฉีดฟิลเลอร์ ที่ไหนดี

อีกปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการฉีดฟิลเลอร์ก็คือ การเลือก ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี เพราะฉีดครั้งหนึ่งจะต้องคำนึงถึงผลลัพธ์ที่ตามมา จะส่งผลดีหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยและความพึงพอใจของผู้เข้ารับบริการเอง  โดยมีปัจจัยดังนี้

ฉีด ฟิลเลอร์ เลือกที่ไหนดี

1. มีรีวิวที่น่าเชื่อถือได้

ก่อนตัดสินใจฉีด ต้องดูรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง พิจารณาจากแหล่งที่เป็นกลางและน่าเชื่อถือ มีความเป็นปัจจุบัน และควรดูรีวิวที่เป็นคลิปวิดีโอก่อน-หลังทำ จะสามารถเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจน

2. มีราคาที่เหมาะสม

ราคาต้องไม่สูงหรือต่ำต่างไปจากคลินิกอื่น ๆ มาก ซึ่งอาจจะแตกต่างกันได้ในด้านความชำนาญของแพทย์ หากเป็นฟิลเลอร์ที่มีราคาถูกจนเกินไป ให้เดาได้เลยว่าน่าจะเป็นฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

3.ดูเคสรีวิวของแพทย์แต่ละคน

แพทย์ต้องมีประสบการณ์และความชำนาญเฉพาะทางด้านการฉีดฟิลเลอร์ การวางตัวยาในตำแหน่งชั้นผิวแบบใดแก้ปัญหาใด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติ และบวมช้ำน้อยที่สุด และ ไม่เกิดปัญหาหลังการฉีดฟิลเลอร์ในแบบต่าง ๆ

อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์แล้วบวมกี่วัน

ก่อนตัดสินใจฉีดต้องรู้อะไรบ้าง

ฟิลเลอร์ ความรู้

1. ประเภทของฟิลเลอร์

ประเภทของฟิลเลอร์มีหลายรูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการ ได้แก่ ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว ฟิลเลอร์แบบกึ่งชั่วคราว และฟิลเลอร์แบบถาวร

2. ฟิลเลอร์แท้ หรือ ฟิลเลอร์ปลอม

ฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องเป็นฟิลเลอร์แท้เท่านั้น สามารถดูรายละเอียดได้จาก การเลือกฟิลเลอร์แท้ และ ฟิลเลอร์คุณภาพ และ วิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์แท้หรือปลอม

3. แพทย์ผู้ทำการรักษา

แพทย์จริงต้องสามารถตรวจสอบรายชื่อแพทย์ได้ที่ เว็บไซต์ของแพทย์สภา แพทย์ที่ทำการรักษาจะต้องเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกายวิภาค เส้นเลือดบนใบหน้า และการวางตำแหน่งยาได้อย่างแม่นยำ

ข้อดี-ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์มีข้อดี คือ ปลอดภัยสูง เพราะไม่มีสารอันตรายเข้าสู่ร่างกาย แต่ข้อเสีย คือ ตัวยาไม่สามารถอยู่ได้ถาวร โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้

ฟิลเลอร์ ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์ปรับโหงวเฮ้ง

โหงวเฮ้งใบหน้า ฟิลเลอร์

เจาะลึกโหงวเฮ้งเพิ่มเติม >>>ได้ที่นี่<<<

รีวิวฉีดฟิลเลอร์ ที่ RWC

ภาพรีวิว

ฉีดฟิลเลอร์ฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า

ฟิลเลอร์ ใต้ตา รีวิวรีวิวฉีดฟิลเลอร์

รีวิวใต้ตาก่อน
รีวิวใต้ตาหลัง
ฉีดฟิลเลอร์จมูกฉีดฟิลเลอร์จมูก

ฉีดฟิลเลอร์คางฉีดฟิลเลอร์คาง

รีวิวใต้ตาก่อน
รีวิวใต้ตาหลัง
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ฉีดฟิลเลอร์ปากฉีดฟิลเลอร์ปาก

รีวิวใต้ตาก่อน
รีวิวใต้ตาหลัง

ตัวอย่างรีวิวฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์ขมับ รีวิวฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์รีวิว
ฉีดฟิลเลอร์ ใต้ตา
ฟิลเลอร์ปาก
รีวิวฉีด ฟิลเลอร์ แก้มตอบ
รีวิวฉีด ฟิลเลอร์ คาง


นวัตกรรมสารลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับ และปรับรูปหน้าด้วย โบท็อกซ์

โบท็อกซ์ คือ สารสกัดที่เรียกว่า “โบทูลินัม ท็อกซิน เอ” (Botulinum toxin A) จากแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) เป็นนวัตกรรมเพื่อการลดริ้วรอยและปรับรูปใบหน้าซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน มีงานวิจัยที่รองรับถึงเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยอย่างกว้างขวาง เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ  ไม่เพียงลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้า

ทำไมต้องเลือกฉีด โบท็อกซ์ โรสลินเวลเนสเซ็นเตอร์

  1. ทีมแพทย์เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยโดยตรง
  2. ทีมแพทย์จบการศึกษาจากคณะแพทย์ศาสตร์และเป็นแพทย์ผิวหนัง (ตจวิทยา) โดยตรง สามารถวิเคราะห์ปัญหาผิว รวมถึงชี้แนวทางการรักษาได้อย่างตรงจุด
  3. ทีมแพทย์ให้ความสำคัญกับคนไข้ ให้คำปรึกษารวมถึง ใช้เวลารักษาต่อเคสนาน เพื่อให้รักษาได้ละเอียดตรงจุด ให้ความเป็นส่วนตัวและติดตามเคสอย่างต่อเนื่อง
  4. โรสลินเวลเนสเซ็นเตอร์ใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ ที่ผ่านมาตรฐานการรับรองจากองค์การอาหารและยา โดยซื้อกับบริษัทตัวแทนจำหน่ายที่ถูกต้องในประเทศไทย

ผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกซ์

โดยปกติทั่วไปแล้วโบท็อกซ์ของแท้ ผ่านอย. จะไม่ทิ้งสารตกค้างให้แก่ร่างกายของเรา แต่การโบท็อกซ์นั้นก็มีความเสี่ยงต่างๆที่จะตามมา จะเป็นผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจากการโบท็อกซ์ ดังนี้

ติดเชื้อ

เกิดจากการเลือกคลินิกที่ไม่สะอาด ไม่ได้มาตรฐาน อุปกรณ์ที่ใช้ในการฉีดไม่สะอาด รวมไปถึงเกิดจากหมอที่ฉีดไม่ใช่หมอจริงๆ เพราะผู้ที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์จะไม่รู้จัก เทคนิคการทำให้ปราศจากเชื้อโรค ซึ่งเป็นเทคนิคที่สำคัญในการป้องกันการติดเชื้อจากการทำหัตถการทุกชนิด

ตาตก

จะพบได้ในการฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยระหว่างคิ้ว ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใกล้เปลือกตาด้านบน ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหนังตาอ่อนแรงและตกลงมาได้ หากฉีดไม่ถูกวิธีและใช้เทคนิคที่ไม่ปลอดภัย

มุมปากเบี้ยว ยิ้มไม่สุด

จะพบได้จากการฉีดโบท็อกซ์บริเวณกราม ซึ่งเกิดจากการกระจายตัวไปผิดจุดของโบท็อกซ์ จะเกิดได้ทั้งการยิ้มไม่ขึ้น แสดงสีหน้าได้ไม่ปกติ หรือเรียกกันว่า หน้าแข็ง นั่นเอง

โบท็อกซ์ แก้ไขปัญหาใดได้บ้าง

  • ลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก
  • ลดริ้วรอยย่นหว่างคิ้ว
  • ลดริ้วรอยตีนกา
  • ลดริ้วรอยบริเวณสันจมูก
  • ปรับยกมุมปากขึ้น
  • ลดรอยพับและรอยย่นบริเวณคาง
  • ปรับรูปหน้าให้ยกกระชับ
  • ลดภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ รักแร้เปียก กลิ่นตัว
  • ลดกล้ามเนื้อน่อง

ฉีดโบท็อกซ์ อยู่ได้นานแค่ไหน ?

ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์จะไม่ได้อยู่อย่างถาวร ซึ่งปกติแล้วโบท็อกซ์จะอยู่ได้นาน 4-8 เดือน โดยอายุการออกฤทธิ์ของโบท็อกซ์นั้น ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก ดังนี้

ยี่ห้อของโบท็อกซ์ที่ฉีด : หากเลือกโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง จะอยู่ในร่างกายได้นานกว่า เพราะร่างกายจะทำลายโปรตีนที่จับกับโบท็อกซ์ โดยโบท็อกซ์ที่มีโปรตีนมากกว่าจะถูกทำลายได้ง่ายกว่าโบท็อกซ์ที่มีโปรตีนสูง

ตำแหน่งที่ฉีดโบท็อกซ์ : ถ้าเป็นบริเวณกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น แขน ไหล น่อง จะมีปริมาณเส้นใยกล้ามเนื้อมาก ดังนั้นกล้ามเนื้อจึงกลับมาใช้งานได้เร็ว ระยะเวลาที่โบท็อกซ์ออกฤทธิ์จึงสั้นกว่า กล้ามเนื้อมัดเล็ก เช่น กราม หน้าผาก หางตา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณโบท็อกซ์ที่ใช้ ซึ่งต้องอยู่ในการประเมินโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์

ยี่ห้อโบท็อกซ์ ที่ผ่าน อย.ของประเทศไทย

ผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์ทุกยี่ห้อได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศไทยแล้ว แต่ผู้เข้ารับบริการก็ยังต้องระมัดระวังผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์ปลอมที่หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปเพราะสารในผลิตภัณฑ์ โบท็อกซ์ปลอมนั้นอาจส่งผลข้างเคียงร้ายแรง และทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ด้วย

1. อัลเลอร์แกน (Allergan)

เป็นผลิตภัณฑ์โบทูลินั่มท็อกซิน ที่ถูกผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นโบท็อกตัวดั้งเดิมที่ผลิตมายาวนาน มีงานวิจัยรองรับจำนวนมาก และผ่านการพัฒนาให้มีโอกาสของการดื้อยาน้อยที่สุด ข้อดีของ โบท็อกซ์ ยี่ห้อนี้คือ กระจายตัวแคบ ทำให้ควบคุมการฉีดได้แม่นยำ ตรงจุด แต่ในทางกลับกัน หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ ก็จะเห็นข้อผิดพลาดได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาคิ้วกระดก ยิ้มแข็งหรือแก้มตอบ

โบท็อกซ์ Allergan

2. ดิสพอร์ต (Dysport)

เป็นผลิตภัณฑ์โบทูลินั่มท็อกซิน ที่ถูกผลิตในประเทศอังกฤษ โดยมีจุดเด่นคือ โบท๊อกมีกระจายตัวได้ดี จึงเหมาะสำหรับใช้ฉีดในบริเวณกว้าง เช่น ฉีดลดเหงื่อ ลดต้นแขน ลดน่องปูด

โบท็อก disport ราคา

3. ซีโอมิน (Xeomin)

ผลิตภัณฑ์โบทูลินั่มท็อกซิน ที่ผลิตในประเทศเยอรมนี มีจุดเด่นคือ มีการนำสารโปรตีนขนาดใหญ่ตัวอื่นๆ ที่ไม่จำเป็นออก ทำให้เหลือเฉพาะสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอบริสุทธิ์ และเป็นโมเลกุลเล็ก เมื่อฉีดแล้วจะไม่กระจุกตัวแคบเกินไป และมักได้ผลดีแม้ในกรณีที่ดื้อยา แต่ผู้เข้ารับบริการจะต้องหยุดการ ฉีดโบท็อก มาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี และราคาของ โบท็อกซ์ ยี่ห้อนี้จะค่อนข้างสูง

ซิโอมิน โบท็อก

4. นูโรน็อกซ์ (Neuronox)

ผลิตภัณฑ์โบทูลินั่มท็อกซิน ที่ผลิตในประเทศเกาหลี คุณสมบัติค่อนข้างใกล้เคียงกับยี่ห้ออัลเลอร์แกน คือ มีการกระจายตัวของ โบท๊อก ค่อนข้างแม่นยำใกล้เคียงกัน แต่ราคาจะถูกกว่าประมาณครึ่งหนึ่ง

นิวโรน็อก โบท็อก

5. โบทูแล็กซ์ (Botulax)

ผลิตภัณฑ์โบทูลินั่มท็อกซิน ที่ผลิตในประเทศเกาหลี จุดเด่นคือ โบท็อก ออกฤทธิ์เห็นผลค่อนข้างไว ราคาประหยัด แต่ข้อเสียคือ สลายตัวเร็ว ไม่ค่อยคงทนยาวนานมากนัก

โบท็อก ราคาถูก

6. นาโบตะ (Nabota)

ผลิตภัณฑ์โบทูลินั่มท็อกซิน ที่ผลิตในประเทศเกาหลี จัดเป็น โบท็อก ยี่ห้อพรีเมียม มีสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอบริสุทธิ์สูง ออกฤทธิ์เร็ว เน้นใช้เพื่อลดเลือนริ้วรอยที่หน้าผาก หางตา ปรับรูปหน้า ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามดูเล็กลง

โบท็อกซ์ nabota

การปฏิบัติตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์

ก่อนเข้ารับบริการฉีดโบท็อกซ์จำเป็นจะต้องเข้าพบแพทย์เสียก่อน เพื่อทำการตรวจผิวหนังและปรึกษาเกี่ยวกับบริเวณที่จะฉีด

  • งดรับประทานยา หรือวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก
  • งดรับประทานอาหารประเภทหมูกะทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ
  • งดรับประทานอาหารที่เผ็ดมากๆ หรือแสบร้อนจนหน้าแดง
  • งดรับประทานอาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
  • งดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด ไม่ควรประคบร้อน
แอลกอฮอล์

การปฏิบัติตัวหลังฉีดโบท็อกซ์

หลังจากฉีดโบท็อกซ์แล้ว ผู้เข้ารับบริการควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ซึ่งมักได้แก่

  1. ไม่นอนราบในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรกหลังจากฉีดโบท็อกซ์ เพราะโบท็อกซ์อาจไหลไปในบริเวณที่ไม่ต้องการให้นอนหงายหนุนหมอนสูงในคืนแรกของการรักษา
  2. ไม่ประคบร้อนและระวังอย่าให้ลมร้อนจากไดร์เป่าผมไปเป่าบริเวณที่เพิ่งฉีดโบท็อกซ์มาเป็นเวลา 2 สัปดาห์
  3. ไม่นวด กด บีบ คลึง บริเวณที่เพิ่งทำการฉีดโบท็อกซ์มาเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมง เนื่องจากการทำให้ยากระจายไปออกฤทธิ์ยังบริเวณอื่นได้
  4. หากมีอาการบวมแดงหรือช้ำในช่วง 1-2 วันแรกหลังการฉีดโบท็อกซ์ ซึ่งเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้เนื่องจากเข็มฉีดยา ให้ใช้น้ำแข็งประคบได้
  5. ควรไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินผลการรักษา และหากพบความผิดปกติก่อนวันนัด เช่น หนังตาตก ปวดศีรษะ ปวดคอ เห็นภาพซ้อน ตาแห้ง มีอาการแพ้หรือหายใจไม่สะดวก ควรติดต่อแพทย์ทันทีเพื่อปรึกษาว่าควรเลื่อนการ ฉีดโบท็อกซ์ออกไปก่อนดีหรือไม่
โบท็อกซ์ pro
โบท็อกซ์ pro ทีมแพทย์

รีวิวลูกค้า 


ร้อยไหม โครงตาข่าย ยกกระชับ ปรับรูปหน้าเรียวแบบไม่ต้องผ่าตัด

ร้อยไหมโครงตาข่าย tesslift

บทความนี้รวบรวมข้อมูลของการ ร้อยไหม  หรือการร้อยไหมโครงตาข่าย (Tess lift soft) นวัตกรรมยกกระชับใบหน้าและการการกระตุ้นคอลลาเจน ซึ่งสาเหตุของผิวหนังหย่อน เกิดจากอายุหรือมีน้ำหนักตัวมาก และหากใครที่ต้องการกระชับผิวหน้าโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่อยากพักฟื้นนานหรือมีแผลเป็นจากการผ่าตัด และต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว การร้อยไหมจึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ที่แพทย์แนะนำ

ร้อยไหมกรอบหน้า

เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผิวบนใบหน้าทั้งชั้นนอกและชั้นในเกิดความหย่อนคล้อย การร้อยไหม Tess Lift Soft เป็นการยกกระชับหน้าด้วยไหมโครงตาข่าย นวัตกรรมใหม่ล่าสุดของไหมในขณะนี้ ช่วยยกกระชับใบหน้าไปพร้อมกับการกระตุ้นคอลลาเจน วัสดุไหมสามารถย่อยสลายได้โดยกระบวนการธรรมชาติภายในร่างกาย เห็นผลได้จริงและรวดเร็ว

สารบัญร้อยไหม

ร้อยไหม คือ อะไร

การ ร้อยไหมโครงตาข่าย เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวให้เต่งตึงขึ้น และดูอ่อนเยาว์ได้โดยไม่ต้องผ่าตัด โดยการใช้ไหมชนิดละลายร้อยเข้าไปในใต้ผิวหนัง ผิวก็จะถูกเงี่ยงเกี่ยวขึ้นมาตามเส้นไหมในทิศทางที่ร้อยไหมเข้าไป ซึ่งส่งผลให้บริเวณนั้น ๆ เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อใต้ผิว และมีการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่บริเวณรอบเส้นไหม ทำให้ผิวหน้าถูกดึงรั้งจนเต่งตึง กระชับตัวขึ้นใช้ได้ทั้งกับผิวหน้าและผิวกาย

ประเภทของไหม

ประเภทของเส้นไหมที่เราใช้ในการร้อยไหม สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ ไหมที่ไม่ละลาย และ ไหมละลาย

ไหมที่ไม่ละลาย

เป็นเส้นไหมที่ทำมาจากพลาสติกหรือโลหะ หากทำการร้อยเข้าไปในชั้นผิวแล้ว จะไม่สามารถละลายเองได้

  • ไหมพลาสติก พอลิโพรไพลีน : ไหมชนิดนี้เป็นไหมที่ไม่ละลาย เป็นไหมเทียมที่แพทย์ใช้ทำการเย็บแผล ถูกออกแบบให้มีลักษณะคล้ายก้างปลา เพื่อดึงรั้งมัดกล้ามเนื้อบนใบหน้าให้กระชับปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมแล้ว เนื่องจากมีผลข้างเคียงหลายประการ เช่น เกิดการอักเสบบริเวณปมไหม เมื่อใช้ไปสักระยะตัวก้างปลามักจะหัก ทำให้ผิวหน้ากลับมาหย่อนคล้อยลงได้อีก หรือ เส้นไหมแทงออกมาจากผิวหน้า ต้องอาศัยแพทย์ที่เชี่ยวชาญทำการผ่าตัดเอาออก
  • ไหมทองคำ : เป็นการนำไหมที่ทำด้วยทองคำบริสุทธิ์ 99% ด้วยความเชื่อที่ว่าทองคำช่วยฟื้นฟูผิวหน้าให้เต่งตึง ช่วยชะลออายุผิว และยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ขนาดที่นำมาใช้เล็กเท่าเส้นผม ร้อยเป็นโครงตาข่ายใต้ผิวหนังจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์พบว่าทองคำบริสุทธิ์ไม่มีปฏิกิริยากับสารเคมีใดๆ ต่อเซลล์ของร่างกาย แต่การร้อยไหมทองก็มีข้อจำกัด เช่น มีราคาที่สูงเมื่อเทียบกับไหมชนิดอื่น ใช้ระยะเวลานานกว่าจะเห็นผล ไม่ทนต่อความร้อนผิวที่ผ่านการร้อยไหมชนิดนี้ไม่สามารถทำเลเซอร์หรือ ทรีทเม้นท์ผิวหน้าที่ต้องสัมผัสกับความร้อน เพราะอาจเกิดการบิดเบี้ยวของรูปหน้า และในบางรายอาจเกิดอาการแพ้ได้

ไหมละลาย

เป็นเส้นไหมที่เกิดจากการสังเคราะห์ เมื่อร้อยไหมเข้ากับใบหน้า ไหมชนิดนี้สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ

ไหมเรียบ thread
  • ไหมเรียบ : เป็นไหมละลายเส้นเรียบ ไม่มีเงี่ยงหรือเกลียว เป็นไหมที่ใช้ในสมัยแรก ๆ ที่การร้อยไหมยังไม่เป็นที่นิยม ลักษณะเป็นเส้นสั้นสอดเข้าชั้นผิวตื้นเพื่อให้ใบหน้าตึงขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยยกกระชับผิวแต่อย่างใดอาการบวมหลังจากการร้อยไหมประเภทนี้ ทำให้ผู้ที่ร้อยไหมรู้สึกใบหน้าดูเต่งตึงขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น จึงไม่ได้รับความนิยม ในปัจจุบันนี้แทบไม่มีผู้ที่ร้อยไหมเพื่อยกกระชับใบหน้าโดยใช้ไหมเรียบแล้ว
ร้อยไหม ยกหน้า
  • ไหมเกลียว : เป็นไหมชนิดละลาย ที่มีความแข็งแรงกว่าไหมเรียบ มีลักษณะเป็นม้วนคล้ายสปริง อาจเป็นเส้นเดียวหรือสองเส้นพันกันเป็นเกลียว โดยลักษณะเกลียวจะช่วยเพิ่มปริมาตรบริเวณผิวหนังที่ยุบเป็นแอ่งได้ และสามารถช่วยยกกระชับผิวหนังที่หย่อนยาน
ร้อยไหมหน้า
  • ไหมเงี่ยง : เป็นไหมละลายที่นิยมมากในปัจจุบัน ลักษณะเป็นเส้นคล้ายก้างปลาจึงใช้ดึงผิวให้ยกขึ้นได้ดี ช่วยลดความหย่อนคล้อยของใบหน้าได้ ไหมชนิดนี้อาจมีการใช้ชื่ออื่นๆ เช่น ไหมก้างปลา ไหมปากฉลาม หรือไหมกุหลาบ
ร้อยไหมยกหน้า
  • ไหมกรวย : เป็นไหมชนิดละลายแบบใหม่ มีปมกลม ๆ ตามแนวเส้นของไหม และมีพลาสติกทรงกรวยเล็ก ๆ อยู่ระหว่างปมของเส้นไหม ทำให้จับเนื้อเยื่อได้มากขึ้น โดยไม่มีผลทำให้เนื้อเยื่อภายในบาดเจ็บมากนัก ไหมชนิดนี้จึงเน้นช่วยยกกระชับผิวมากกว่าการสร้างคอลลาเจนสามารถยกกระชับผิวได้ดีกว่าไหมรูปแบบอื่น ไม่เกิดความระคายเคือง และถูกออกแบบมาเพื่อให้ได้ผลยกกระชับที่ยาวนานกว่า โดยผลจะคงอยู่ 1-3 ปีแต่ข้อเสียของไหมกรวย อาจใช้เวลาในการทำนานกว่า และมีอาการปวดหรือบวมหลังจากการทำ แต่อาการจะหายไปภายใน 2-3 วัน นอกจากนี้ ไหมชนิดนี้ราคาค่อนข้างสูงจึงไม่ค่อยเป็นที่นิยม
ร้อยไหมจมูกดีไหม
  • ไหมโครงตาข่าย : เป็นไหมชนิดใหม่ล่าสุด มีลักษณะคล้ายไหมก้างปลาแต่มีตาข่ายล้อมรอบตัวไหม ซึ่งตัวตาข่ายจะช่วยให้เนื้อเยื่อมาเกาะได้ดีมากยิ่งขึ้น ช่วยยกกระชับได้ยาวนานและเห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ

ร้อยไหม เหมาะกับใคร

ร้อยไหม ยกหางตา

การร้อยไหม โครงตาข่ายเหมาะกับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป โดยผิวต้องไม่ยุบตัว หรือผิวหนังต้องไม่หย่อนคล้อยมากเกินไป โดยสาเหตุของผิวหนังหย่อนมาก เนื่องจากอายุหรือมีน้ำหนักตัวมาก หรือเหมาะกับใครก็ตามที่ต้องการกระชับผิวหน้าโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่อยากพักฟื้นนานหรือมีแผลเป็นจากการผ่าตัด และต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว

รวมไปถึงคนที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยของแก้ม หรือมีแก้มค่อนข้างเยอะ แก้มบริเวณปากกับแก้มใต้โหนกเยอะ การร้อยไหมจะช่วยเก็บกระเปาะแก้มได้ มีรูปหน้าไม่เรียวกระชับ ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น หรือใครที่มีปัญหาผิวหนังหย่อนคล้อยมาก ๆ และมีการยุบของผิวตามวัย การร้อยไหมเพียงอย่างเดียว อาจจะยังไม่พอ แพทย์จึงแนะนำให้มีการใช้โบท็อกซ์ หรือ ฟิลเลอร์ ร่วมด้วย

ร้อยไหม อันตรายไหม

การร้อยไหม ถือเป็นหนึ่งในวิธีการยกกระชับใบหน้าที่ปลอดภัย ถ้าหากทำการร้อยไหมด้วยวิธีที่ถูกต้อง แต่ก็มีกรณีที่เกิดผลข้างเคียงจากเทคนิคการร้อยไหมที่ไม่ถูกต้อง หรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่ไม่รุนแรงมากนัก สามารถแก้ไขได้

  • ใบหน้าไม่เท่ากัน คนไข้อาจมีใบหน้าไม่สมมาตรกันอยุู่แล้วหรือเกิดความไม่เท่ากันของใบหน้าจากการ ร้อยไหม ได้ แพทย์จึงอาจให้ผู้ป่วยส่องกระจกไปด้วยในระหว่างทำเพื่อสังเกตความผิดปกติดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้น
  • การติดเชื้อจากการ ร้อยไหม เป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้น้อย เพราะแพทย์มักใช้กระบวนการฆ่าเชื้อเพื่อความปลอดภัยเสมอ
  • การอักเสบของเนื้อเยื่อ เนื่องจากไหมจะถูกร้อยลงไปที่บริเวณผิวหนังชั้นค่อนข้างลึก จึงเสี่ยงทำให้เกิดกลุ่มเนื้อเยื่อที่อักเสบขึ้นได้
  • ไหมหลุดออกมา หลังจากสอดเส้นไหมเข้าไปใต้ผิวหนัง แพทย์จะตัดปลายไหมส่วนเกินออก เพราะหากไหมยื่นออกมา คนไข้อาจเสี่ยงเกิดการติดเชื้อและการอักเสบของเนื้อเยื่อตามมา
  • ไหมแตกหัก เส้นไหมอาจเกิดการแตกหักในระหว่างขั้นตอนการสอดเข้าไปใต้ผิวหนังหรือขณะดึงรัดเส้นไหม

ร้อยไหม เจ็บไหม

Tess lift เป็นอย่างไร

การร้อยไหม ผู้เข้ารับบริการจะไม่รู้สึกเจ็บ เพราะแพทย์จะใช้ยาชาก่อนร้อยไหมเสมอ ทำให้ในระหว่างการร้อยไหม แต่อาจจะเจ็บหากฉีดยาชา แต่หลังจาก ร้อยไหม หรือเวลาที่ยาชาหมดฤทธิ์แล้ว จะมีความรู้สึกเจ็บและไม่สบายใบหน้า

นอกจากนี้ อาจมีอาการบวม ฟกช้ำ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นโดยปกติ โดยอาการดังกล่าวจะหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป แต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษที่จะไม่ให้เกิดการติดเชื้อ ถ้าหากเกิดการติดเชื้อ เชื้ออาจเกิดการดื้อยาและยากต่อการรักษา

โดยการติดเชื้อนั้น สามารถเกิดได้จากการใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาด หรือ ขั้นตอนที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม หลังร้อยไหมในบางรายอาจมีรอยย่นของผิวหนัง ดังนั้น จึงควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับผลข้างเคียงจากการร้อยไหมแต่ละชนิดอย่างละเอียด

ร้อยไหม ดีไหม

ร้อยไหมโครงตาข่าย ดีไหม

การร้อยไหมจะช่วยยกกระชับใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมกับช่วยกระตุ้นการเกิดคอลลาเจนที่ผิวหนัง เช่น การร้อยไหมละลาย PDO หรือ ไหมทองคำ ไหมจะถูกร้อยเข้าไปอยู่ในชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสติน หรือ ใช้ร้อยชั้นไขมันเข้ากับชั้นใต้ผิวหนังเข้าหากันเพื่อเสริมความแน่นของผิวหนัง

เป็นเทคนิคการแก้ปัญหาคาง 2 ชั้น หรือทำให้ใบหน้าที่หย่อนคล้อยนั้นดูกระชับขึ้น แต่ลักษณะการร้อยแบบนี้ จะทำให้การกระตุ้นเซลล์ผิวและการผลิตคอลลาเจน และอิลาสตินนั้นมีประสิทธิภาพน้อยกว่าการร้อยเข้าไปที่ชั้นใต้ผิวหนังโดยตรง

อ่านเพิ่มเติม  รีวิวร้อยไหมโครงตาข่าย

ร้อยไหม ที่ไหนดี

RWC หมอขนม

ก่อนจะทำการร้อยไหม ควรพิจารณาหัวข้อดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ

  • แพทย์ที่ทำการร้อยไหมจะต้องเป็นแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทาง : รวมทั้งมีประสบการณ์การในการร้อยไหม เป็นแพทย์ผิวหนังที่เข้าใจสภาพผิวและปัญหาใบหน้าของคนไข้ รู้ถึงกายวิภาคใบหน้าเป็นอย่างดี เพราะบนใบหน้าของเรามีทั้งเส้นเลือด เส้นประสาท เป็นส่วนที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะสามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงหลังการร้อยไหมได้
  • คลินิกนั้นจะต้องผ่านการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง : มีเลขใบอนุญาตการเปิดคลินิกที่สามรถตรวจสอบได้แปะไว้ทางด้านหน้าของคลินิกเสมอ โดยเฉพาะสถานประกอบการคลินิกเสริมความงามศัลยกรรม เนื่องจากปัจจุบันมีคลินิกศัลยกรรมเปิดใหม่จำนวนมาก ทั้งที่ถูกกฎหมาย และ ไม่ถูกกฎหมาย

โดยคลินิกที่มีบริการร้อยไหม จะมีป้ายชื่อคลินิกและเลขใบอนุญาต 11 หลัก และคลินิกนั้นต้องมีความน่าเชื่อถือ มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง มีรูปก่อนและหลังทำการรักษาเปรียบเทียบให้เราดูได้ ก็จะทำให้เราสามารถตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น และพิจารณาด้วยว่าแพทย์นั้นมีเคสที่มีผลข้างเคียงรุนแรงหรือไม่ เพราะสามารถการันตีความชำนาญของแพทย์ได้

ไหมโครงตาข่าย Tess Lift Soft คืออะไร

ไหมโครงตาข่าย เป็นเส้นใยโครงตาข่าย 360 องศา ที่ทำจากวัสดุ Absorbable Polydioxanone – POD ไหมละลายแบบเส้นใยที่นำมาใช้เย็บแผลและใช้ในทางการแพทย์ด้านความงาม สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติภายในร่างกาย โดยเงี่ยงของไหมโครงตาข่ายจะเกาะติดกับเนื้อเยื่อ และตัวของไหมจะกระตุ้นให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นมาเกาะและเจริญเติบโตที่รูของไหมโครงตาข่าย ทำให้เกิดแรงยืดและแรงตรึงที่มีความแข็งแรงเป็นร้อยเท่าเมื่อเทียบกับการร้อยไหมแบบดั้งเดิม มีความปลอดภัยสูง ไม่มีสารตกค้างภายในร่างกาย และมีประสิทธิภาพในการรักษาที่ดีมากกว่าไหมอื่น ๆ

ร้อยไหมจมูก

ทำไมถึงต้องยกกระชับถึงชั้น SMAS

ร้อยไหมโครงตาข่าย ชั้น smas

อีกสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาความหย่อนคล้อย หลัก ๆ มาจากชั้นกล้ามเนื้อ Superficial Muscular Aponeurotic System (SMAS)  ซึ่งเป็นชั้นสำหรับการผ่าตัดดึงหน้า เพื่อการแก้ไขและรักษาปัญหากล้ามเนื้อใบหน้าหย่อนคล้อย

โดยเส้นใยที่ให้ความแข็งแรงเหล่านี้จะทำหน้าที่สำคัญในการแสดงออกทางสีหน้า การรักษาด้วยการยกกระชับใบหน้าที่หย่อนคล้อยแบบดั้งเดิมด้วยวิธีการดึงยกกระชับบริเวณ เนื้อเยื่ออ่อน ที่อยู่ระหว่างชั้นของ SMAS และชั้นผิวหนังจะช่วยแก้ปัญหาได้แบบชั่วคราวเท่านั้นและไม่ได้ผลการรักษาที่ดีเพียงพอ

ยกกระชับด้วยวิธีอื่น ๆ >>> อ่านที่นี่ <<<

ไหมโครงตาข่าย Tess lift ทำงานอย่างไร

Tess lift ร้อยไหม

ใช้เทคนิคการร้อยไหมโครงตาข่ายไปที่ชั้นใต้ผิวหนังและร้อยตรึงเนื้อเยื่อชั้นผิวหนังและชั้น SMAS เข้าด้วยกัน ไหมโครงตาข่ายจะทำหน้าที่เหมือนตัวยึดเกาะของเนื้อเยื่อและโครงสร้างแขนงเส้นใยที่ให้ความแข็งแรงการร้อยไหมโครงตาข่าย เพื่อช่วยตรึงให้ความแข็งแรงในแนวชั้นของกล้ามเนื้อ

ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งให้เนื้อเยื่อมาเกาะบริเวณรอบ ๆ โครงตาข่ายเนื้อเยื่องอกเจริญเติบโตเข้ามาบริเวณรูของไหมโครงตาข่าย และแขนงของเอ็นเส้นใยที่ให้ความแข็งแรง และกระตุ้นทำให้มีเนื้อเยื่อที่ขึงตรึงให้ความแข็งแรงและยกกระชับใบหน้าจึงเป็นวิธีที่ง่าย ใบหน้ายกกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และได้ผลการรักษาในระยะยาวต่างจากการยกกระชับเดิม

ตำแหน่งที่สามารถยกกระชับด้วยไหมโครงตาข่าย

  • หน้าผาก
  • คิ้ว
  • ทั่วใบหน้า
  • โหนกแก้ม
  • คอ

ไหมโครงตาข่าย Tess Lift Soft ปลอดภัยหรือไม่

ร้อยไหม ก้างปลา

ไหมโครงตาข่าย (Tess Lift Soft) เป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) , CE Mark และ KFDA (อย.เกาหลี) เมื่อร้อยไหมเข้าไปแล้วจะย่อยสลายตามกระบวนการภายในร่างกาย ไม่ตกค้างภายในร่างกาย

ข้อดีของไหมโครงตาข่าย

  • วัสดุ POLYDIOXANONE สามารถย่อยสลายได้ตามกระบวนการธรรมชาติของร่างกาย ไม่มีสารตกค้างใต้ชั้นผิวหนัง
  • มีผลในการพยุงผิวหน้า เกี่ยวรั้งผิวหนัง พร้อมยกกระชับทันทีภายหลังการร้อยไหมโครงตาข่าย มีการสร้างคอลลาเจนอย่างรวดเร็วภายหลังการร้อยไหมโครงตาข่าย
  • มีผลในการยกกระชับระยะยาว กระตุ้นให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อในรูของไหมโครงตาข่าย ทำให้เกิดแรงยึดและแรงตึงมีผลให้เกิดความแข็งแรงแบบกึ่งถาวร รอยเงี่ยงที่ไหมโครงตาข่าย จะเป็นตัวยึดเกี่ยวกับเนื้อเยื่อและตัวไหมโครงตาขายก็จะเป็นตัว กระตุ้นในการสร้างเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ ไหมโครงตาข่าย
  • ไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลา แค่ 20- 30 นาที ใช้เพียงยาชาเท่านั้น
  • อุปกรณ์ในการร้อยไหมโครงตาข่ายได้รับการออกแบบ ในการใช้งานอย่างง่าย สะดวก ลดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อ

วิธีการร้อยไหมโครงตาข่าย

การร้อยไหมโครงตาข่าย เรียกว่า ZIG-ZAG TECHNIQUE เป็นการร้อยไหมหลาย ๆ ครั้ง และการร้อยซ้ำในทิศทางสลับฟันปลา จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความสามารถในการตรึงของไหมโครงตาข่าย ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและการตรึงและแรงดึง สามารถต้านแรงโน้มถ่วงของโลกได้ดี

  • ร้อยไหมโครงตาข่ายครั้งแรกผ่านเข้าสู่ชั้นใต้ผิวหนัง
  • ไหมโครงตาข่ายที่มีเงี่ยงจะเกี่ยวยึดกับเนื้อเยื่อและจะกระตุ้นให้เนื้อเยื่อรอบ ๆ เข้ามายึดเกาะที่รูของไหมโครงตาข่าย
  • ร้อยไหมครั้งที่ 2 เพื่อร้อยไหมส่วนที่เหลือโดยใช้เทคนิคสลับฟันปลา

ขั้นตอนการรักษาการร้อยไหมโครงตาข่าย

เวลาในการทำหัตถการร้อยไหมโครงตาข่ายจะใช้เวลา 20 นาทีเท่านั้น

  1. ใช้ยาชาบริเวณที่ต้องการร้อยไหม
  2. แทงเข็มที่บริเวณต้องการร้อยไหมเข้าชั้นผิวหนัง
  3. ใส่ท่อร้อยไหมไปในตำแหน่งที่กำหนดและถอดเข็มในตำแหน่งที่เข็มแทงเข้าไปครั้งแรก
  4. ร้อยไหมโครงตาข่ายส่วนที่เหลือในรูของเข็มและร้อยเข็มไปในทางเดิม

สรุป

การ ร้อยไหมโครงตาข่าย คือ หัตถการยกกระชับใบหน้าด้วยการนำไหมเข้าไปร้อยใต้ผิวหนังเพื่อยกชั้นผิวที่หย่อนคล้อยบริเวณต่าง ๆ ให้กระชับมากขึ้น เมื่อร้อยไหมเข้าไปจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและเนื้อเยื่อเข้ามาเกาะติดบริเวณรูตาข่าย ทำให้ช่วยยกกระชับได้ดีมากขึ้น


ดูดไขมัน งานละเอียด มาตรฐานเครื่องดูดไขมันแต่ละรุ่น มั่นใจ ปลอดภัย 100%

ดูดไขมัน liposuction
บทความนี้รวบรวมความรู้เรื่องการ ดูดไขมัน  เป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจาก สามารถเห็นผลได้ชัดเจน รวดเร็ว เพราะเป็นการสลายไขมันแล้วดูดนําไขมันออกจากร่างกายเลยในทันที ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการกําจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย
ี่ดูดไขมัน สำคัญอย่างไร
รีวิวผลลัพธ์ ดูดไขมัน
ดูดไขมัน ราคา
ดูดไขมัน ส่วนเกิน

ดูดไขมัน คือ

การ ดูดไขมัน คือ การนำไขมันส่วนเกินที่ไม่ต้องการออกจากร่างกาย เป็นกระบวนการศัลยกรรมเพื่อความงามที่ใช้เทคนิคในการดูดไขมันส่วนเกินในชั้นใต้ผิวหนังออกจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งเป็นจุดที่ลดไขมันได้ยากแม้ว่าจะควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้วก็ตาม โดยทั่วไปการดูดไขมันมีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน คือวิธีแบบดั้งเดิมโดยการใช้การดมยาสลบ

และวิธีปัจจุบัน โดยการดูดไขมันด้วยเทคนิค Tumescent เป็นการใส่ยาชาและน้ำเกลือที่เนื้อเยื่อไขมัน ซึ่งเป็นวิธีการดูดไขมันวิธีหลักที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเลือกใช้จนถึงทุกวันนี้ แพทย์จะเปิดแผลเป็นรอยเล็กๆ และสอดท่อเข้าไป ในบริเวณที่ต้องการที่จะดูด การดูดไขมันเป็นวิธีการดูดกำจัดไขมันส่วนเกินที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนและรวดเร็ว

อ่านเพิ่มเติม : สลายไขมันด้วยความเย็น คืออะไร ? ดีกว่าการดูดไขมันไหม ?

สามารถดูดไขมันส่วนไหนได้บ้าง

ดูดไขมัน มีวิธีไหนบ้าง?

ในปัจจุบัน วิธีดูดไขมันที่นิยมกัน ได้แก่ ดูดไขมันแบบ Vaser ดูดไขมันแบบ Bodytite และการดูดไขมันแบบ Water Jet โดยแต่ละวิธีมีรายละเอียดดังนี้

การดูดไขมันแบบ VASER

การดูดไขมันแบบ Vaser คือการใช้เครื่องมือที่ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ (Ultrasound) ในการสลายไขมัน เป็นเครื่องรุ่นแรกที่พัฒนามาก่อนการดูดไขมันแบบอื่นๆ

ดูดไขมัน vaser

กระบวนการคือ แพทย์จะทำการฉีดน้ำเกลือที่มีส่วนผสมของยาชาไปยังตำแหน่งที่จะการดูดไขมันส่วนเกินออก จากนั้นกรีดผิวหนังและสอดเครื่องมืออุปกรณ์เล็กๆ โดยจะใส่เข้าไปใต้ผิว แล้วเครื่องมือจะปล่อยคลื่น Ultrasound จากระบบหัวฉีด Vaser ที่มีหัวฉีดขนาดเล็กมาก ประมาณ 3 มิลลิเมตรเท่านั้น คลื่นนี้จะช่วยย่อยไขมันให้อ่อนนิ่มและเหลวมากขึ้น จนละลายออกมาปนอยู่ในน้ำเกลือที่เราฉีดเข้าไปก่อนหน้านั้น จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการดูดไขมันต่อไป

การดูดไขมันแบบ BodyTite

ดูดไขมัน Bodytite

การดูดไขมันแบบ BodyTite เป็นวิธีที่พัฒนาหลังจากเวเซอร์ราว ๆ 7 ปี การดูดไขมันแบบนี้จะใช้เทคโนโลยีปล่อยคลื่นความถี่วิทยุ (Radio frequency: RF) ออกมา เพื่อช่วยสลายไขมัน ให้มีโมเลกุลที่เล็กลง ดูดออกมาได้ง่ายขึ้น ไขมันที่ถูกดูดออกมามีเลือดปนน้อยมากเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ ทำให้เกิดแผลเพียงเล็กน้อย พร้อมช่วยกระชับผิวได้ในตัว

การดูดไขมันแบบ Water Jet หรือ Body Jet

ดูดไขมัน พลังงานน้ำ

การดูดไขมันแบบ Water Jet ด้วยเครื่อง Body Jet เหมาะกับผู้ที่ต้องการนำไขมันไปเติมเต็ม (Filler) ส่วนอื่น ๆ การดูดไขมันแบบ Water Jet จะแตกต่างจากวิธีอื่นคือ ใช้พลังงานน้ำในการแยกเซลล์ไขมันออกจากเนื้อเยื่อผิวหนัง ทำให้เจ็บน้อย และเซลล์ไขมันมีสภาพสมบูรณ์ ไม่ตาย

ที่สำคัญ มีระบบปลอดเชื้อเป็นแบบระบบปิด คือ ดูดไขมันแล้วเอาไปฉีดส่วนอื่น ๆ ของร่างกายได้เลยทันที นิยมใช้ในการเติมไขมันบริเวณใบหน้าให้ดูอิ่มเอิบ หรือใช้เสริมหน้าอก สะโพก ก็ได้เช่นกัน

การดูดไขมันด้วยเครื่องสั่น หรือ PAL (Power assisted Liposuction)

ดูดไขมัน PAL

การดูดไขมันด้วยเครื่องสั่น เป็นเครื่องที่พัฒนารุ่นหลัง ใช้ระบบสั่นช่วยในการดูดไขมันให้ไหลออกมาได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะบริเวณที่พังผืดมีความแข็งแรง เช่น กลางหลัง หรือบริเวณที่เคยดูดไขมันมาก่อนแล้วต้องทำซ้ำ สาเหตุที่เครื่องแบบ PAL ไม่ได้ใช้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากราคาเครื่องค่อนข้างสูง

MicroAir

ดูดไขมัน microair

Microaire PAL (Power-Assisted Liposuction) เป็นเพียงเครื่องมืออีกชนิด ที่ราคาแพงมาก ทำให้หลายคลินิกไม่ซื้อเครื่องมือชนิดนี้มาร่วมกับการดูดไขมันแบบอื่น เพราะดูเกินความจำเป็นไป แต่มีข้อดีที่ไม่เกิดความร้อนสะสมมากเท่าเวเซอร์ และแก้ปัญหาของบอดี้ไทท์ในเรื่องปริมาณได้
Microaire PALใช้วิธีการสั่นสะเทือนที่ทำให้รอบการดูดถี่ยิ่งขึ้น เข้าไปในชั้นไขมันของร่างกายได้ง่าย เพิ่มประสิทธิภาพการดูดไขมันได้มากยิ่งกว่าเดิม ฟกช้ำน้อยกว่าการดูดไขมันแบบปกติเพราะความถี่ในการสั่นช่วยให้ดูดไขมันได้ดีขึ้น

ดูดไขมัน อันตรายไหม?

การดูดไขมัน จัดเป็นเทคนิคการลดไขมันที่สะสมในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย โดยการใช้ท่อขนาดเล็กสอดเข้าไปในชั้นผิวหนังและดูดไขมันส่วนเกินออก โดยวิธีนี้แทนที่จะต้องผ่าตัดเปิดแผลกว้างเพื่อดึงชั้นไขมันออกมา ในปัจจุบันก็สามารถทำได้โดยใช้เพียงแค่รอยเจาะเล็ก ๆ ซ่อนในตำแหน่งที่เหมาะสมและใช้เครื่องมือสอดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังในระดับ ชั้นไขมัน เพื่อดูดสิ่งที่ต้องการออกมา ก็สามารถลดไขมันได้ตามต้องการแล้ว

อ่านเพิ่มเติม >>> ดูดไขมัน อันตรายจริงหรือ ?

การดูดไขมัน มาตรฐานส่วนใหญ่ที่ใช้อยู่คือ ใช้เครื่องมือที่จะดูดนั้นเป็นตัวทำให้ไขมันแตกออก และดูดออกมาโดยอาศัยระบบสูญญากาศ (negative pressure) ซึ่งก็ได้ผลดี โดยในปัจจุบันได้มีการคิดค้นเครื่องมือใหม่ที่จะช่วยให้ไขมันแตกตัวก่อนทำ ให้การดูดง่ายขึ้นทำให้แพทย์ทำงานได้สะดวกขึ้น เช่น

  1. การใช้แรงดันน้ำ (waterjet liposuction)
  2. การใช้เลเซอร์
  3. การใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (ultrasonic liposuction)

ปัจจุบันนี้การใช้คลื่นความถี่สูงได้มีการพัฒนาดีขึ้นมากทำให้สามารถช่วย การดูดไขมันได้ดีกว่าหลายๆ วิธีข้างต้นที่ได้กล่าวมาแล้วนั้น การใช้แรงดันน้ำอาศัยหลักการฉีดน้ำปริมาณมากเพื่อช่วยให้ผิวหนังชาและไขมัน อ่อนตัว แต่หลังผ่าตัดอาจมีน้ำเกลือหรือไขมันที่ตกค้างอยู่จะค่อยๆ ระบายออกมาหลังผ่าตัดได้ ถ้าผู้ป่วยได้รับการแนะนำก่อนก็จะไม่ต้องกังวลกับปัญหานี้ สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งได้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการและสาธิตการผ่าตัดจริงโดย เครื่องมือทั้งสองชนิดที่โรงพยาบาลภูมิพลมาแล้ว ซึ่งผู้ที่ต้องการเข้ารับการดูดไขมันอาจต้องเลือกสถานที่สำหรับการดูดไขมันให้มีมาตรฐานในความปลอดภัยต่าง ๆ

ดูดไขมันต้นเเขน

ภาวะแทรกซ้อนหลังจาก ดูดไขมัน

เนื่องจากการดูดไขมันนั้นคือการนำไขมันจำนวนมากออกไปภายในเวลารวดเร็ว ดังนั้นการเกิดอาการบวม ช้ำ เขียว จึงเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ แต่จะมากหรือน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล สิ่งที่ช่วยได้คือการสวมใส่สเตย์หรือชุดรัดกระชับ ซึ่งจะช่วยให้อาการบวมยุบเร็วขึ้น และยังช่วยพยุงร่างกายไว้ไม่ให้กระทบกระเทือนบริเวณที่เป็นแผล นอกจากจะช่วยลดการบวมแล้ว ยังช่วยให้เจ็บน้อยลงเวลาเคลื่อนไหว

ในคนไข้บางราย เมื่อดูดไขมันไปแล้วอาจทำให้ผิวหนังบริเวณที่ถูกดูดไขมันออกไปไม่เรียบ โดยมีรอยลักษณะเป็นคลื่นหลงเหลืออยู่ สาเหตุเกิดจากดูดไขมันในชั้นผิวที่ไม่ลึกมากพอ หรือบางรายผิวอาจแข็ง เนื่องจากเนื้อเยื่อแข็งขึ้น แต่สามารถรักษาได้โดยการนวด ไม่ว่าจะเป็นนวดแผนไทยหรือนวดน้ำมัน หรือใช้เครื่อง RF รักษาร่วมด้วย

ดูดไขมันเจ็บไหม

สิ่งที่ควรระวังอีกข้อคือ การติดเชื้อของแผลผ่าตัด ควรรักษาแผลผ่าตัดให้สะอาดและแห้งอยู่เสมอ

และในกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือระบบไหลเวียนเลือดผิดปกติ ควรหลีกเลี่ยงการดูดไขมัน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่แผลหายช้า หรือติดเชื้อหรือโรคแทรกซ้อนได้สูงกว่าคนทั่วไปหากต้องการดูดไขมันจริงๆ จำเป็นต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบเสียก่อน เพื่อจะได้พิจารณาถึงความเหมาะสมของร่างกาย หากอาการเบาหวานคงที่ หรือความดันคงที่ก็สามารถดำเนินการผ่าตัดได้ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์

การจะดูดไขมันเป็นการศัลยกรรมใหญ่และทุกการผ่าตัดมีความเสี่ยง จึงต้องเลือกทำการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้รับมาตรฐาน

ดูดไขมัน ดมยาสลบ
  1. ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น การเสียเลือดมาก การมีเซลล์ไขมันหลุดไปตามกระแสโลหิต (fat embolism) การได้ยาชาหรือยาสลบมากเกินขนาด ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้พบได้น้อยมากมักพบในรายที่ดูดไขมันปริมาณมากเกินไปใน คราวเดียวกันการดูดไขมันโดยทั่วไปโอกาสพบน้อย
  2. ภาวะแทรกซ้อนทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องความคาดหวังของผู้รับบริการมากกว่าว่าผลการดูด ไม่มาก เท่าที่ต้องการซึ่งแพทย์ที่มีประสบการณ์จะต้องชี้แจงให้ชัดเจนตั้งแต่ก่อน ผ่าตัดแล้วว่าผลที่ได้จะเป็นเช่นไร
  3. ภาวะผิวหนังเป็นคลื่นไม่เรียบ เกิดได้ในการดูดไขมันในชั้นที่ตื้นเกินไปหรือดูดไขมันในบริเวณที่มีไขมันไม่ มากอยู่แล้ว ส่วนการมีผิวหนังห้อยย้อยจะเกิดในการดูดไขมันในผู้มีอายุมาก ความยืดหยุ่นผิวหนังไม่ดี ในรายเช่นนี้การผ่าตัดไขมันหน้าท้องจะเหมาะสมกว่า

แต่การรับประทานยาสลายไขมัน และการสลายไขมันก่อนการดูดไขมันนั้น หากไม่ได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว ไขมันส่วนที่ย่อยสลายจะแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือด อาจเกิดภาวะไขมันอุดตันในเส้นเลือด หรือทำให้หัวใจล้มเหลวได้ ดังนั้นจึงต้องอยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้ารับการดูดไขมันด้วย

อ่านเพิ่มเติม >>>  ดูดไขมันทั้งตัวได้ไหม ? อันตรายหรือเปล่า ?

ดูดไขมันกี่วันเห็นผล

ดูดไขมัน เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มีพันธุกรรมด้านขนาดของรูปร่างที่ไม่สมส่วน เช่น ต้นแขนใหญ่กว่าปกติ หรือ สะโพกใหญ่ไม่สมส่วนกับบริเวณเอว เป็นต้น
  • ผู้ที่ออกกําลังกายอย่างสม่ำเสมอ มีการบริหารร่างกายเฉพาะส่วน แต่ไม่สามารถกําจัดไขมันส่วนเกินบริเวณนั้นออกไปได้ เช่น บริเวณเอวด้านหลัง ปีกหลัง (FatBra) และ ต้นขาด้านในเป็นต้น
  • ไม่เหมาะกับผู้ที่มีน้ําหนักตัวและส่วนสูง (BMI) เกินเกณฑ์ เนื่องจากการดูดไขมันเฉพาะจุด ไม่สามารถช่วยให้น้ําหนักตัวลดลงได้ ในผู้ที่มีน้ําหนักตัวเกินเกณฑ์ควรควบคุมอาหาร ออกกําลังกาย ให้น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติเสียก่อน
  • ดูดไขมัน ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถทำได้ทันที หากแพทย์มีจรรยาบรรณมากพอ จะชี้แจงกรณีคนไข้มีความเสี่ยงหรือเกิดอันตรายได้หากทำการดูดไขมันส่วนเกิน

ข้อห้ามในการ ดูดไขมัน

การดูดไขมันเป็นหนึ่งในกระบวนการผ่าตัดที่มาพร้อมกับความเสี่ยง ซึ่งผู้เข้ารับการดูดไขมันต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพดี โดยที่อย่างน้อยต้องมีน้ำหนักตัวใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ มีผิวหนังที่เด้งกระชับ ไม่สูบบุหรี่ นอกจากนั้น แพทย์จะไม่แนะนำให้ดูดไขมัน หากมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น การไหลเวียนโลหิต โรคหัวใจ โรคเบาหวาน หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง

อ่านเพิ่มเติม : ดูดไขมัน ดีจริงหรือ ?

ดูดไขมันกระชับสัดส่วน

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการ ดูดไขมัน

ก่อน ดูดไขมัน
  1. สิ่งแรกเลยก็คือ การศึกษาหาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับกระบวนการดูดไขมัน และความเสี่ยงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นจากการดูดไขมัน เพื่อจะได้ทราบถึงขั้นตอนและกระบวนการต่าง ๆ
  2. ในการเลือกดูดไขมัน ควรรับบริการดูดไขมันกับแพทย์ที่ได้รับใบประกอบ และคลินิกที่ได้มาตรฐานมีใบอนุญาตถูกต้องเท่านั้นนะคะ เพื่อลดความเสี่ยงและเอฟเฟคที่จะเกิดผลเสียกับเราหลังจากทำการดูดไขมัน
  3. ปรึกษาแพทย์และสอบถามเกี่ยวกับข้อสงสัยต่าง ๆ ให้ละเอียด ถามให้เรื่องที่เรามีความกังวลเรื่องการดูดไขมัน แล้วค่อยตัดสินใจทำการรักษา
  4. การเตรียมพร้อมร่างกายก่อนทำการดูดไขมันก็เป็นสิ่งสำคัญมากเช่นกัน ก่อนเข้าทำการรักษาดูดการดูดไขมันนั้น จำเป็นต้องงดเครื่องดื่มแอลกฮอล์ อาหารเสริมต่าง ๆ และยากลุ่มแอสไพริน ก่อนทำการดูดไขมันอย่างน้อยเป็นเวลา 2 สัปดาห์
  5. หากมียาที่ต้องรับประทานเป็นประจำ มีโรคประจำตัว หรือมีอาการแพ้ยา ต้องทำการแจ้งแพทย์ก่อนทำการดูดไขมัน

ขั้นตอนการ ดูดไขมัน

ดูดไขมันลดหุ่น

การศัลยกรรมดูดไขมัน เป็นการดูดเอาไขมันที่ไม่ต้องการออกด้วยท่อขนาดเล็กและอุปกรณ์สุญญากาศ โดยจะทำการดูดไขมัน ขั้นตอนหลัก ๆ ของการดูดไขมัน ได้แก่

  • ฉีดสารละลายน้ำเกลือ (Saline) ประกอบด้วย ยาชาและอะดรีนาลีนเข้าไปในเนื้อเยื่อไขมันเพื่อช่วยระงับความรู้สึกและลดการเสียเลือด
  • แพทย์จะใส่ท่อขนาดเล็กลงในเนื้อเยื่อไขมัน และใช้อุปกรณ์สุญญากาศดูดไขมันในบริเวณที่ต้องการและหลังจากทำเสร็จแล้ว
  • แพทย์จะปิดรอยแผลบริเวณที่ดูดไขมันและให้คนไข้สวมชุดกระชับสัดส่วนเพื่อช่วยลดอาการบวมและทำให้แผลหายได้ง่ายยิ่งขึ้น

ข้อดีของการดูดไขมันด้วยเทคนิคนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ช่วยให้สามารถเอาไขมันออกมาได้ง่าย และช่วยลดความรู้สึกไม่สบายต่าง ๆ หลังขั้นตอนการดูดไขมัน นอกจากนั้นยังช่วยลดรอยช้ำและบวม

ดูเเลตัวเองหลังดูดไขมัน

การดูแลตัวเองหลัง ดูดไขมัน

หลังการดูดไขมันอาจจะมีอาการบวม ช้ำ เกิดรอยเขียวอยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์

  1. หลังจากการดูดไขมัน อาจเกิดรอยแผลเป็น บริเวณจุดทางเข้าอุปกรณ์ที่ใช้ดูด เป็นแผลเป็นขนาดเล็กมีขนาดเท่ากับหลอดยาคูล โดยสามารถเลือกได้ว่า จะเย็บปิดแผลให้สวยงาม หรือ เปิดไว้เพื่อให้ระบายน้ำเกลือออกได้ดีกว่า
  2. หลังทำควรหลีกเลี่ยงการโดนน้ำบริเวณแผล จนกว่าแผลจะแห้งสนิท
  3. หากต้องการทาครีมลดรอยแผลเป็น ควรทิ้งระยะไว้ 2สัปดาห์หรือรอจนกว่าแผลจะแห้งสนิท
  4. และขั้นตอนที่สำคัญที่สุดก็คือ “การสวมชุดกระชับหลังทำการดูดไขมัน” เนื่องจากหลังทำการดูดไขมัน จะมีช่องว่างในชั้นผิวอยู่

การสวมชุดกระชับ จะทำให้เนื้อเรียบเนียนและแนบชิดเข้ารูปสวยตามที่ต้องการ แนะนำว่าให้เป็นชุดกระชับที่ออกแบบมาสำหรับการใช้หลังจากการดูดไขมัน และต้องใส่ต่อเนื่อง 1-2 เดือน

โดยเดือนแรกแนะนำให้ใส่ตลอดเวลา “เพราะการสวมชุดกระชับคือขั้นตอนการดูแลหลังจากการดูดไขมันที่สำคัญที่สุด”

  1. สวมใส่เสื้อผ้าหลวมๆ เพราะหลังทำการดูดไขมัน ต้องใส่ชุดกระชับตลอดเวลา จะได้ไม่รู้สึกอึดอัดและรู้สึกคล่องตัวกว่า
  2. งดทานของหมักดอง และเครื่องดื่มแอลกฮอล์ เพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น
  3. ทานยาที่แพทย์สั่งหลังจากการรักษา อย่างสม่ำเสมอ

ระยะเวลาในการพักฟื้น หลังจากดูดไขมัน

โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่เข้ารับการดูดไขมันจะสามารถกลับมาทำงานได้ภายในไม่กี่วัน และสามารถกลับมาทำกิจกรรมหรือใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติภายใน 2 สัปดาห์ แต่ระยะเวลาจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

สรุป

การดูดไขมันเป็นทางเลือกหนึ่งในการกําจัดไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ตามบริเวณต่างๆของร่างกาย เช่น หน้าท้อง สะโพก ต้นแขน และต้นขา กระบวนการศัลยกรรมเพื่อความงามที่ใช้เทคนิคในการดูดไขมันส่วนเกินในชั้นใต้ผิวหนังออก ซึ่งปัจจุบันมีทางเลือกในการกําจัดไขมันส่วนเกินได้หลากหลายวิธี โดยดูดไขมันเป็นวิธีการที่ได้รับความนิยมอย่างมาก


สลายไขมันด้วยความเย็น ด้วยเครื่อง Cooltech Define

สลายไขมันด้วยความเย็น ลดไขมันส่วนเกิน

บทความนี้รวบรวมข้อมูลของเครื่อง Cooltech Define เทคโนโลยีการสลายไขมันด้วยความเย็น ไม่ทำอันตรายต่อผิวหนังชั้นนอก ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงในเรื่องของผิวหนังไหม้จากความเย็น เพราะมีระบบคอยตรวจจับความเย็นใต้ชั้นผิว เพื่อลดอันตรายที่จะเกิดขึ้น ทำให้สบายใจได้เลยว่า วิธีการสลายไขมันด้วยความเย็นนั้นปลอดภัย

การสลายไขมันส่วนเกิน โดยใช้ความเย็น หรือการ สลายไขมันด้วยความเย็น เป็นวิธีการกำจัดไขมัน แบบไม่ต้องผ่าตัดโดยใช้ความเย็นแช่แข็งเฉพาะเซลล์ไขมันส่วนเกินที่ต้องการกำจัดออก เพราะเซลล์ไขมันจะมีคุณสมบัติพิเศษ คือ ไวต่ออุณหภูมิมากกว่าเซลล์ชนิดอื่น ๆ

การใช้เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น จะใช้หัวดูดผิวเพื่อดึงชั้นไขมันเข้ามาไว้ในหัวของเครื่อง คล้าย ๆ กับการหยิบเอาชั้นไขมันส่วนเกินที่จุดต่าง ๆ ขึ้นมา ซึ่งในหัวดูดจะปล่อยความเย็น -11°C แช่แข็งก้อนไขมันที่ถูกดูดขึ้นมา ใช้เวลาประมาณ 35 นาทีในแต่ละจุด เพื่อทำการแช่แข็งให้เซลล์นั้นตาย เซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็งจะฝ่อและตายไปอย่างถาวร เมื่อไขมันตายร่างกายก็จะขับออกได้เอง ด้วยกระบวนการทางธรรมชาติ

การสลายไขมันส่วนเกิน โดยใช้ความเย็น หรือการ สลายไขมันด้วยความเย็น เป็นวิธีการกำจัดไขมัน แบบไม่ต้องผ่าตัดโดยใช้ความเย็นแช่แข็งเฉพาะเซลล์ไขมันส่วนเกินที่ต้องการกำจัดออก เพราะเซลล์ไขมันจะมีคุณสมบัติพิเศษ คือ ไวต่ออุณหภูมิมากกว่าเซลล์ชนิดอื่น ๆ

การใช้เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น จะใช้หัวดูดผิวเพื่อดึงชั้นไขมันเข้ามาไว้ในหัวของเครื่อง คล้าย ๆ กับการหยิบเอาชั้นไขมันส่วนเกินที่จุดต่าง ๆ ขึ้นมา ซึ่งในหัวดูดจะปล่อยความเย็น -11°C แช่แข็งก้อนไขมันที่ถูกดูดขึ้นมา ใช้เวลาประมาณ 35 นาทีในแต่ละจุด เพื่อทำการแช่แข็งให้เซลล์นั้นตาย เซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็งจะฝ่อและตายไปอย่างถาวร เมื่อไขมันตายร่างกายก็จะขับออกได้เอง ด้วยกระบวนการทางธรรมชาติ

สารบัญ

สรุป

เทรนด์หุ่นดีในปัจจุบัน คงหนีไม่พ้นการดูแลรูปร่างด้วยการใช้เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นแน่นอน เพราะนอกจากจะหุ่นดีขึ้น ราคาไม่แรงแล้ว ระยะพักฟื้นก็น้อยมากกว่าการดูดไขมันอย่างมาก ส่วนการเลือกเครื่องดูดไขมันที่ดีได้มาตรฐานก็มีความสำคัญ เพราะเครื่องสลายไขมันที่ไม่มีคุณภาพ จะทำให้ผลลัพธ์ไม่ชัดเจน และเกิดปัญหาที่น่ากลัวอย่างแผลผิวไหม้ความเย็นตามมาได้

เข้าใจอย่างถ่องเเท้ สวยอย่างปลอดภัย 

รางวัลคลินิกยอดเยี่ยม

รางวัลยอดขายสูงสุดในประเทศ

top5single cilnic

Top 5 Galderma Thailand Single Clinic Award 2021

Top 5 Total Galderma Aesthetic Collection Single Clinic Award

Local Mental Trainer 2023

Top Spender Customer Award

Best KOL Trainer Of Tesslift

Tesslift Soft Certified Legitimate User

preaw magazine

The Best Premuim Filler 2022

นิตยสาร preaw magazine

The Best Facial Fat Grafting 2022

preaw magazine แพรว

Iconic First Class In Service Clinic

รางวัลแพรว

Iconic Advanced Closed Rhinoplasty Technique

sudsapdaAwards 2022

Best Of Facial Innovation Technique For Absolute Facial Transformation

sudsapdaAwards 2022 thermage

Best Of Thermage FLX Technique For Ultimate Facial Lifting

hello magazine

The Best Facial Transformation Result

elle award

Best Advance Filler Technique

The Best Facial Transformation Result 2020

Best Of Filler 2021

Iconic Premium

Filler Clinic 2021

และ Iconic Facial Fat Grafting 2021

The Star of Excellent For Therapy Transducer 2021

Trainer 2022

Excusive Clinic 2022

Excellent Allergan Aesthetics Valued Customer 2021

Tesslift Soft Legitimate User 2022

TOP10 Galderma Thailand

Allergan Aesthetics Valued Customer 2020

Allergan Valued

Customer 2019

Allergan Valued

Customer 2018

Best Filler 2018

FormaV Top User Award 2020

TOP USER 2020

Fractora By Inmode

TOP Clinic Rising Star

Award Year 2019

บริการยอดนิยม

ติดต่อเรา

ติดตามเราได้ที

 เฟซบุ๊กไลน์

RWC Clinic (Reliable Wellness Contribution)

สถาบันเสริมความงาม ปรับรูปหน้าและดูเเลผิวพรรณ

ตึก Summer point ซ.สุขุมวิท 69

1557 69 ถ. สุขุมวิท แขวง พระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

เปิดทำการทุกวัน เวลาบริการ 11.00 น. – 20.00 น. สอบถามโทร 091-0109379

ปลอดภัยเรื่องการเดินทาง

สะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า

Details

Languages Spoken: Thai, English

Contact Info

Features

Opening Time

Monday :11.00 AM - 08.00 PM

Tuesday :11.00 AM - 08.00 PM

Wednesday :11.00 AM - 08.00 PM

Thursday :11.00 AM - 08.00 PM

Friday :11.00 AM - 08.00 PM

Saturday :11.00 AM - 08.00 PM

Sunday :11.00 AM - 08.00 PM

Videos

Review

Average rating

0.0 / 5

Rating breakdown

5
0
4
0
3
0
2
0
1
0

Submit your review

Subject
Rating
Comments

Similar Listing

Top 10 Clinics
Logo