ทำสวยที่ไหน ? ครบวงจร แนะนำเลย ที่ AGALIGO CLINIC (อกาลิโก คลีนิค) เดอะ พาซิโอ พาร์ค เขามีหลายสาขาด้วยนะ

ทำสวยที่ไหน ? ครบวงจร แนะนำเลย ที่ AGALIGO CLINIC (อกาลิโก คลีนิค) เดอะ พาซิโอ พาร์ค เขามีหลายสาขาด้วยนะ


Call Now
095-295-6594 095-596-6159
Bookmark

About

แนะนำทีมแพทย์

บริการของเรา

โปรโมชั่น ฉีดผิวขาว Super Aura

1 แถม 1

ราคา 6,000 บาท

(จำกัดท่านละ 1 สิทธิ์ เท่านั้น)

**หมายเหตุ โทรสอบถามทางคลินิกก่อนทุกครั้ง  โทร :  095 295 6594
**สาขาบางแค 095-549-9166 **

บริการของเรา 

แนะนำ ฟิลเลอร์

ปรับรูปหน้า เสริมโหงวเฮ้ง จากทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ฉีดฟิลเลอร์ขั้นสูง

ปรับรูปหน้าด้วย Filler ที่ อะกาลิโก คลินิก  Filler แท้ คือ สาร Hyaluronic acid หรือ Collagen สังเคราะห์ ที่สลายไปได้เอง 100%
– หากเลือกตัวผลิตภัณฑ์เหมาะสมกับบริเวณจะฉีด และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ การฉีดฟิลเลอร์จะทำให้ใบหน้าสวย และดูอ่อนเยาว์ได้มาก
– ผลิตภัณฑ์ Filler ที่อะกาลิโก คลินิก เลือกใช้ ได้แก่   1.Juvederm (อเมริกา Allergan)  2.Restylane (สวีเดน Galderma)   3.Yvoire (เกาหลี LG)

วันนี้คุณหมอเบญขออนุญาตแนะนำนะคะ ว่าหลักเกณฑ์ในการเลือกมีอะไรบ้าง1.ความสำคัญของสถานพยาบาลที่ได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้อง
2.ความสำคัญของคุณหมอหรือทีมแพทย์ ที่มีใบประกอบวิชาชีพ รวมถึงมีความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์
และมีประสบการณ์ในการใช้ฟิลเลอร์มาอย่างยาวนาน
3.เทคนิคและวิธีการที่คุณหมอเลือกใช้สำหรับแต่ละเคส

4.การคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่าน อย. และเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ปลอดภัยทั้งในระยะสั้น และระยะยาวการเติมฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ปลอดภัยไหม?

ฟิลเลอร์เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่ได้รับการรับรองโดยองค์กรอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ FDA เป็นสารสกัดจากธรรมชาติที่มีความปลอดภัยสูง และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องเหมาะสม และวิเคราะห์ปริมาณยาและตำแหน่งที่ฉีดได้อย่างแม่นยำ และจะต้องฉีดในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานได้ รับอนุญาตเพราะหากฉีดโดนเส้นเลือดหรือบริเวณอื่นๆ ที่ไม่ต้องการ อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

ฟิลเลอร์ฉีดตรงไหนได้บ้าง?

▪ ขมับ เติมเต็มใบหน้าให้สวย อ่อนเยาว์ ดูมีมิติ

▪ Midface คืนความอ่อนเยาว์ ใบหน้าโดยรวมดูเด็กลง อิ่มเอิบขึ้นทันที

▪ แก้ม แก้มตอบ ใบหน้าเล็กลง ไขมันแก้มลดลง

▪ ใต้ตา ลดปัญหารอยดำ ร่องลึก ถุงใต้ตาเรียบตึงขึ้น

▪ ริมฝีปาก เติมเต็มร่องปากให้ดูอวบอิ่ม ยกมุมปากให้เป็นทรงสวย

▪ คาง ปรับรูปหน้า ใบหน้าเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ กรอบหน้าคมชัด เหนียง, คาง 2 ชั้นลดลง

ข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์

– หยุดใช้ยากลุ่มกรดวิตามิน A, AHA หรือวิตามินและอาหารเสริมที่จะทำให้เลือดออกง่าย

– งดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS ได้แก่ Motrin, Naproxen, Brufen หรือยาแอสไพริน เป็นเวลา 1 สัปดาห์

– ควรดื่มน้ำในปริมาณที่มากโดยเฉพาะ 4 วันแรก หลังเติมฟิลเลอร์

– งดการสครับหน้าและขัดหน้า เป็นเวลา 2-3 วันก่อนการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อลดความเสี่ยง ลดรอยฟกช้ำ และลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

– หากมีโรคประจำตัวหรือแพ้ยา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

– ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่นบริเวณที่เติม งดเข้าอบไอน้ำ อบซาวน่า ทำเลเซอร์ ทำ RF หรือ Ionto

– ใน 2 วันหลังเติมฟิลเลอร์ ต้องหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอร์ การสูบบุหรี่, การดูด การจูบ (กรณีที่ฉีดที่ริมฝีปาก)

– ในสัปดาห์แรก สามารถทาแป้ง,แต่งหน้าได้ตามปกติค่ะ

ฟิลเลอร์เหมาะกับใคร?

– ผู้ที่มีปัญหาผิว ต้องการลดและแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึก บริเวณต่างๆ ของใบหน้า เช่น หน้าผาก รอบดวงตา ร่องลึกมุมปาก

– ผู้ที่ต้องการแก้ไขปรับแต่งรูปหน้า เช่น เติมริมฝีปาก ร่องแก้ม และยังช่วยทำให้แก้มดูตอบได้

– ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวหน้าให้กลับมาคงความอ่อนเยาว์ สดใส เปล่งปลั่ง

– ผู้ที่มีปัญหากังวลเรื่องรูขุมขน หลุมสิวบนใบหน้า

จากประสบการณ์มากกว่า 10 ปีของทีมแพทย์อะกาลิโกคลินิก เรายินดีที่จะให้บริการและให้ความมั่นใจรวมถึงให้ความรู้ คำแนะนำในด้านต่างๆให้กับคนไข้ ก่อนที่จะตัดสินใจเข้ารับบริการด้านการเติมฟิลเลอร์ค่ะ

🏆 Top Spender Award 2 ปีซ้อน ประจำปี 2022 และ 2023 รางวัลสำหรับหนึ่งในคลินิกที่ใช้ Yvoire Filler มากที่สุดในประเทศไทย
🏆 KOL Award รางวัลสำหรับแพทย์ที่ปรึกษา สอน และบรรยายการใช้ฟิลเลอร์ Yvoire จาก LG Chem Thailand ผู้จัดจำหน่าย Yvoire Filler อย่างเป็นทางการประจำประเทศไทย
🏆 รางวัล Certified Allergan Aesthetics Top Valued Customer Award 3 ปีซ้อน ประจำปี 2020, 2021 และ 2022 ให้แก่คลินิกที่มียอดใช้ฟิลเลอร์ Juvederm และโบท็อกซ์ Allergan สูงสุดระดับประเทศ

รีวิวฟิลเลอร์  AGALIGO CLINIC (อกาลิโก คลีนิค)

Promotion

ร้อยไหม ไร้แผล ด้วยเทคนิค Vector Lifting 

ใบหน้าไร้แผล ไม่ช้ำ ผิวยกกระชับขึ้นทันที

ร้อยไหมยกกระชับหน้า ที่ไหนดี? นวัตกรรมใหม่ที่น่าลอง

 หากคุณเป็นคนนึง ที่กำลังมีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวยกกระชับ อยากย้อนอายุตัวเองกลับไปอีก 5-10 ปี ลองทำอะไรมาหลายอย่างแล้วก็ยังไม่ตอบโจทย์ แต่ไม่อยากเสี่ยงกับการผ่าตัด ลองศึกษาข้อมูลของนวัตกรรมตัวนี้ก่อน เพราะจากประสบการณ์ของคนที่ได้มาทำแล้ว เกินครึ่งกลับมาทำซ้ำที่ 1 ปี เพราะได้ผลลัพธ์ชัดเจนจริง จนติดใจ ด้วยเทคนิคดึงหน้าแบบไร้แผล เทคนิคพิเศษ Vector Lifting ด้วยการร้อยไหมอะกาลิโก

ร้อยไหม by agaligo คืออะไร ?

คือการใช้เทคนิคใหม่ในการยกระดับใบหน้าให้ตึงด้วยไหมเส้นใหญ่พิเศษและมีความยาวสองระยะคือ ยาว 12 เซนติเมตรและยาว 23 เซนติเมตร

   เส้นไหมผลิตจากวัสดุ Poly(L-Latide-co-Caprolactone) เรียกสั้น ๆ ว่า P(LA-CL) มีลักษณะเป็นเงี่ยงแบบหันเข้าหากัน (Bidirectional Convergent Barb)ผสมผสานระหว่างวัสดุ PLLA (Poly-L-Lactic Acid) และ PCL (Polycaprolactone) เป็นการดึงจุดเด่นจากทั้ง 2 วัสดุ ในอัตราส่วนเฉพาะมาผลิตเป็นเส้นไหม

   ซึ่ง PLLA มีจุดเด่นในเรื่องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่วน PCL จะเด่นเรื่องการคงอยู่ของเส้นไหมได้นานสูงสุดในกลุ่มไหมละลาย คือ 18-24 เดือน (ยาวนานที่สุดในปัจจุบัน)

ร้อยไหมที่อะกาลิโก ดียังไง ??

• ไหมเส้นใหญ่กว่า ไม่ต้องใช้จำนวนเส้นเยอะ เริ่มต้นเพียงแค่ ข้างละ 1-2 เส้น ก็เห็นผลชัดเจนแล้ว
• ยกดีกว่า
• หน้าตึงกว่า
• อยู่ได้นานกว่า(>18 เดือนหรือ 1 ปีครึ่ง)
• เจ็บน้อยกว่า (คนไข้มากกว่า 90% พูดเป็นเสียงเดียวกัน เจ็บน้อยกว่าที่คิดไว้ รู้แบบนี้ทำตั้งนานแล้ว)
• บวมน้อยกว่า เพราะจำนวนไหมน้อย แต่แรงยกดี ไม่จำเป็นต้องร้อยหลายๆเส้นให้เจ็บหน้า
• มีงานวิจัยรองรับ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

ร้อยไหม by agaligo เห็นผลทันทีหรือไม่?

ผลลัพธ์ของการทำเทคนิคนี้เห็นผลได้ชัดเจนทันทีประมาณ 30 ถึง 40% และจะเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆจนชัดเจนที่สุดประมาณ 3 เดือน

   หลังทำคือยิ่งนานขึ้นตึงขึ้น ไหมจะทำหน้าที่ได้มากขึ้นเรื่อยเรื่อยจะช่วยทั้งในเรื่องของการยกกระชับใบหน้าให้ตึงขึ้นแล้วจะช่วยในเรื่องของการทำให้ผิวเรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง ผิวกระจ่างใส

ร้อยไหม by agaligo เหมาะกับใคร?

1. เหมาะกับคนที่มีปัญหาร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก แก้มหย่อนคล้อย มีกระเปาะแก้ม มีร่องหนวดแมว โดยมักพบในกลุ่มคนอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป และเน้นในคนที่ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน อยู่ได้นาน ผลลัพธ์ที่ได้เทียบเท่ากับการดึงหน้า
2. ไม่อยากเสี่ยงในการเข้าห้องผ่าตัด หรือมีระยะเวลาที่จำกัด ไม่ต้องการพักฟื้นนาน
3. ไม่มีรอยแผล
4. ไม่ต้องพักฟื้น ทำเสร็จแล้วสามารถกลับไปใช้ชีวิต ทำงานได้ตามปกติ
5. คนที่เคยทำเครื่องยกกระชับต่างๆมาก่อน แล้วยังไม่ค่อยเห็นผลการเปลี่ยนแปลง

        การร้อยไหมเหมาะกับคนที่ต้องการยกกระชับใบหน้า และการปรับรูปหน้าให้ได้รูป โครงหน้าชัด ผลลัพธ์ที่ได้เทียบเท่ากับการผ่าตัด เส้นไหมสามารถเก็บบริเวณร่องน้ำหมากให้ยกขึ้น ซึ่งเป็นจุดเด่นพิเศษของการร้อยไหมที่อะกาลิโก 

การดูแลตัวเองหลังร้อยไหม

1. ห้ามโดนน้ำเป็นเวลา 1 วัน แผลหลังร้อยไหมจะเป็นเพียงรูเปิดเข็มบริเวณเล็กๆ ข้างละ 4-6 จุดเท่านั้น โดยแผลจะจางหายไปเองภายใน 1-3 วัน หากมีรอยรูไหม จะค่อยๆปิดเรียบสนิทภายใน 1 อาทิตย์
(เนื่องจากไหม ของอะกาลิโก คลินิก เป็นไหมเส้นใหญ่กว่าปกติ อาจจะมีรูเห็นชัดใน 3 วันแรก)

2. รับประทานยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อตามที่แพทย์แนะนำ ในกรณีที่แพทย์ให้ยากลับบ้าน
3. สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมๆ ทุกๆ 4 ชั่วโมง ช่วง 1-2 วันแรก เมื่อมีเวลา หากไม่สะดวก จะไม่ทำก็ได้
4. ควรงดการสัมผัสใบหน้าแรง ๆ เช่น การล้างหรือถูหน้าแรง ๆ จะมีอาการเจ็บได้ประมาณ 1-2 วัน
5. ควรงดดื่มแอลกอฮอล์หลังทำ 1 สัปดาห์ เพื่อลดการบวมช้ำอักเสบ
6. งดการทำทรีทเม้นท์ เลเซอร์ นวดหน้า ขัดผิว อย่างน้อย 2 อาทิตย์
7. ***ห้ามประคบร้อน เด็ดขาด

ข้อห้ามในการร้อยไหม

• คนที่มีภาวะอักเสบติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณที่จะร้อยไหม
• เคยมีประวัติแพ้ส่วนประกอบของวัสดุเส้นไหมที่วินิจฉัยว่าแพ้โดยแพทย์, อาการข้างเคียง(side effect)อื่นๆไม่ได้ถือว่าเป็นการแพ้(allergy)
• มีประวัติแพ้ยาชา (ถ้าคนไข้ไม่เคยฉีดยาชาทำฟันมาก่อนควรแจ้งแพทย์เพื่อเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ยาชา)
• อยู่ในภาวะเลือดไหลไม่หยุด(bleeding disorder) แพทย์จะพิจารณาตามดุลยนินิจ
• ห้ามทำในผู้ที่ตั้งครรภ์
• ในกรณีให้นมบุตรควรปรึกษาสูติแพทย์ที่ดูแลก่อนทำ

ทำไมถึงควรเลือกทำ ร้อยไหม ที่ อะกาลิโก คลินิก

1.การเลือกวัสดุของไหมในการร้อย สำคัญมาก
2.เทคนิคการวางแผน การวางแนวเส้นไหม เพื่อให้ได้การยกกระชับมากที่สุด
3.ประสบการณ์ของแพทย์ ผู้ดูแล
4.การ้อยด้วยเทคนิค แบบมีจุดยึดไหม ใต้ผิวหนัง คือ มี Anchoring Point
จึงทำให้ยึดติดกับผิวได้ดีและนานกว่า

   การร้อยไหมเหมาะกับคนที่ต้องการยกกระชับใบหน้า และปรับรูปหน้าให้ได้รูป โครงหน้าชัด ผลลัพธ์ ที่ได้เทียบเท่าการผ่าตัด มากกว่าการผ่าตัด ไหมสามารถเก็บบริเวณร่องน้ำหมากให้ยกขึ้น ซึ่งเป็นจุดเด่นพิเศษของการร้อยไหมอะกาลิโก

รีวิว  ร้อยไหม ไร้แผล ด้วยเทคนิค Vector Lifting

 

กระชับสัดส่วน

โปรแกรมยกกระชับ ด้วยกลุ่มเครื่องมือ

COOL SWISS  คืออะไร? 

Cool swiss คือ เครื่องลดไขมันด้วยความเย็นที่กำลังเป็นที่นิยมในสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ ออสเตรเลีย
ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติม ทั้งเรื่องของการทำให้เซลล์ไขมันสลายตัว แบบ Apoptosis โดยไม่ทำให้เซลล์และเนื้อเยื่ออื่นเกิดความเสียหาย

กลไกการทำงานของ Cool swiss

Cool swiss เป็นเทคโนโลยี Cryolypolysis หรือ Fat Freezing
Cool swiss มีหัว Applicator ที่เป็น Vacuum ดูดสุญญากาศ แล้วปล่อยพลังงานความเย็น ภายใต้การควบคุมความเย็นที่ติดลบ ตั้งแต่ -5 ถึง -10 องศาเซลเซียส
Cool swiss ความเย็นลงไปชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อทำลายเซลล์ไขมันบริเวณที่ต้องการ ทำให้เซลล์ไขมันค่อยๆตาย และเปลี่ยนเป็นของเสียเข้าสู่ระบบน้ำเหลือง และร่างกายขับออกตามกลไกธรรมชาติ
Cool swiss มีระบบ Cool Control ระบบ Pre Heating และ Post Heating ซึ่งอุณหูมิของ Applicator จะถูกตรวจจับและปรับให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม อุณหภูมิร่างกายจะถูกตรวจสอบอย่างละเอียด ระบบ Cool Control เป็น ระบบที่ออกแบบเพื่อความปลอดภัย คอยวัดอุณหภูมิที่อยู่ในช่องทำความเย็นของ Applicator ถูกออกแบบเพื่อวัดอุณหภูมิบริเวณที่ทำ จะคอยปรับเพื่อให้ได้ความเย็นตามเป้าหมายและป้องกันไม่ให้เกิดภาวะที่เกิดจากความเย็นจัด

Cool swiss เหมาะกับใคร?

• คนที่ออกกำลังกาย แต่ยังมีไขมันส่วนเกินเหลืออยู่ บริเวณต่างๆ ได้แก่ ท้องแขน ต้นแขน รอบเอว พุง สะโพก หน้าท้องบน หน้าท้องล่าง ต้นขา ขาด้านใน ขาด้านนอก
• คนที่ไม่สามารถออกกำลังกายได้ ด้วยข้อจำกัดทางร่างกาย
• คนที่มีภาวะอ้วน หรือส่วนเกิน อยากให้รูปร่างกระชับ สัดส่วนลด
• คนที่อยากลดไขมันในร่างกาย ให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น
• คุณแม่หลังคลอด ต้องการลดพุงส่วนเกิน
(กรณีผ่าตัดคลอด หรือหลังผ่าตัดทางหน้าท้อง สามารถทำได้หลังคลอดตั้งแต่ 6 เดือนเป็นต้นไป)

Cool swiss ทำบริเวณไหนได้บ้าง

Cool swiss เห็นผลเมื่อไหร่?

เริ่มเห็นผล หลังทำ 2สัปดาห์ ถึง 1 เดือน และจะเห็นผลเต็มที่หลังจากทำ 3 เดือน (แนะนำว่า จะเห็นผลดี ในกรณี ทำติดต่อกัน ตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป )
การทำ Cool swiss แต่ล่ะจุด ใช้เวลาทำครั้งล่ะ 35-50 นาที และ 1 รอบ สามารถทำได้พร้อมกันถึง 4 จุด(เช่น สามารถทำต้นแขน 2 ข้าง พร้อมๆ กับขณะที่ทำต้นขาทั้ง 2 ข้าง ภายใน 1 ชั่วโมง หรือ สามารถ ทำหน้าท้อง 2 จุด พร้อมๆกับทำต้นขาด้านใน 2 ข้าง ได้ในเวลาเดียวกัน )
Cool swiss เป็นการกำจัดไขมันได้อย่างถาวร หากไม่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ไขมันบริเวณนั้นจะไม่กลับมาอีก

Cool swiss กี่ครั้งเห็นผล?

• ไขมันเก่า ลดลงถาวร
• สัดส่วนลดลงภายใน 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันบริเวณที่ทำ
• เห็นผลหลังจากทำติดกันตามคำแนะนำ 2 ครั้งขึ้นไปต่อบริเวณ

Cool swiss ต่างจาก Coolsculpting อย่างไร

ความรู้สึก ของการทำ Cool swiss เจ็บหรือไม่

• ตอนเริ่มทำ : รู้สึกเหมือนมีคนมาดึงผิวหนัง ไม่เจ็บ รู้สึกตึงๆแน่นๆ อุ่นๆ
• 5 นาทีแรก :เริ่มรู้สึกเย็น ๆ เหมือนเอามือไปจับน้ำแข็ง
• 15 นาทีต่อมา : เริ่มรู้สึกเย็นจนชา จนครบเวลาที่กำหนด
• หลังทำเสร็จ : อาจรู้สึกเย็นๆหนาวๆ อย่างอื่นก็ปกติ
• หลังทำ 1-3 วัน : รู้สึกเมื่อยๆ เหมือนหลังออกกำลังกายหนัก โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย จะรู้สึกเมื่อยมากกว่าปกติ แต่จะหายไปเองภายใน 4 วัน
• หลังทำ 14 วัน : เริ่มรู้สึกใส่เสื้อผ้าสบายขึ้น เห็นผลชัดมากขึ้น สัดส่วนลดลง

ทำไมถึงควรเลือก Cool Swiss ในการลดสัดส่วน หรือสลายไขมันเฉพาะส่วน ?? 

Cool swiss มีระบบการนวดแบบดูดคลาย สลับกัน ในขณะที่เครื่องทำงาน จึงสามารถช่วยลดความเจ็บ ได้มากกว่า เครื่องอื่นๆ ที่เป็นเทคโนโลยีประเภทเดียวกัน ทำให้ขณะทำคนไข้รู้สึกสบาย ผ่อนคลายจนสามารถนอนหลับได้

Cool swiss มีระบบ Pre heating คือการปรับอุณหภูมิอุ่น ก่อนทำ เพื่อช่วยให้ปรับเนื้อเยื่อบริเวณที่จะทำให้ตื่นตัว มีเลือดไหลเวียนมาเลี้ยงผิวหนังมากขึ้น และรู้สึกสบายผิว

Cool swiss มีระบบ Post Heating คือการปรับอุณหภูมิอุ่น หลังทำ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพื่อลดการช้ำ และลดอาการแดงที่ผิวหนัง ที่อาจเกิดได้จากความเย็นจัด

Cool swiss ใช้ระบบหัวหนีบทำความเย็น มากถึง 4 หัว ในเครื่องเดียว ทำให้ประหยัดเวลามากกว่า ในกรณีที่คนไข้ ทำ 1 ชั่วโมง สามารถทำพร้อมๆกันในคราวเดียวได้ถึง 4 บริเวณ (เช่น สามารถทำต้นแขน 2 ข้าง พร้อมๆ กับขณะที่ทำต้นขาทั้ง 2 ข้าง ภายใน 1 ชั่วโมง หรือ สามารถ ทำหน้าท้อง 2 จุด พร้อมๆกับทำต้นขาด้านใน 2 ข้าง ได้ในเวลาเดียวกัน )

Cool swiss ต่างจาก Cryolipolysis เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็นตัวอื่นๆ อย่างไร

Cool swiss มีระบบการนวดแบบดูดคลาย สลับกัน ในขณะที่เครื่องทำงาน จึงสามารถช่วยลดความเจ็บ ได้มากกว่า เครื่องอื่นๆ ที่เป็นเทคโนโลยีประเภทเดียวกัน ทำให้ขณะทำคนไข้รู้สึกสบาย ผ่อนคลายจนสามารถนอนหลับได้

Cool swiss มีระบบ Pre Heating คือการปรับอุณหภูมิอุ่น ก่อนทำ เพื่อช่วยให้ปรับเนื้อเยื่อบริเวณที่จะทำให้ตื่นตัว มีเลือดไหลเวียนมาเลี้ยงผิวหนังมากขึ้น และรู้สึกสบายผิว

Cool swiss มีระบบ Post Heating คือการปรับอุณหภูมิอุ่น หลังทำ กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพื่อลดการช้ำ และลดอาการแดงที่ผิวหนัง ที่อาจเกิดได้จากความเย็นจัด

Cool swiss ใช้ระบบหัวหนีบทำความเย็น มากถึง 4 หัว ในเครื่องเดียว ทำให้ประหยัดเวลามากกว่า ในกรณีที่คนไข้ ทำ 1 ชั่วโมง สามารถทำพร้อมๆกันในคราวเดียวได้ถึง 4 บริเวณ (เช่น สามารถทำต้นแขน 2 ข้าง พร้อมๆ กับขณะที่ทำต้นขาทั้ง 2 ข้าง ภายใน 1 ชั่วโมง หรือ สามารถ ทำหน้าท้อง 2 จุด พร้อมๆกับทำต้นขาด้านใน 2 ข้าง ได้ในเวลาเดียวกัน )

Cool swiss ต่างจากการดูดไขมันอย่างไร

ตัว Cool swiss ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ใช้เข็ม ผิวเรียบเสมอกัน ผิวกระชับมากกว่า แต่การลดไขมันจะช้ากว่าการดูดไขมัน ซึ่งเป็นการเอาไขมันออกทันที แต่ต้องพักฟื้น มีรอยแผลจากการดูด และผิวอาจไม่กระชับ ผิวอาจไม่เรียบ เป็นคลื่นๆจากการที่ไขมันหายไปบริเวณนั้นๆ

Cool swiss ต่างจาก Emsculpt อย่างไร

Cool swiss เป็นการเน้นการลดไขมันโดยตรง ลดไขมันโดยการใช้ความเย็นเป็นหลัก แต่การทำ Emsculpt จะสามารถช่วยเพิ่มการสร้างกล้ามเนื้อบริเวณที่ทำ สรุปคือ Cool swiss เน้นลดไขมัน แต่ Emsculpt เน้นเพิ่มกล้ามเนื้อ

Cool swiss ต่างจากการฉีดเมโสแฟตอย่างไร

การฉีดลดเมโสแฟต เป็นการใช้ตัวยา สลายไขมันเฉพาะจุดและขับออกทางร่างกายตามธรรมชาติ การเห็นผลจะขึ้นอยู่กับปริมาณของปริมาณไขมันและปริมาณยาที่ใช้ในบริเวณนั้นๆ หากใช้ยาจำนวนมาก อาจเป็นรอยเข็มหรือเขียวช้ำได้ หรือไม่เหมาะสำหรับคนกลัวเข็ม เพราะฉะนั้น Cool swiss เป็นทางเลือกหนึ่งของคนที่ไม่ชอบเข็ม และยังให้ผลลัพธ์ดีกว่า ในจุดที่ต้องการกำจัดไขมันในบริเวณกว้างๆ

Cool swiss ต่างจากการทำ Thermatrix อย่างไร

การทำ Thermatrix เป็นคลื่น RF (Radio Frequency) ใช้ความร้อนช่วยกระชับผิว ผิวที่หย่อนคล้อย ไม่กระชับ จากการที่ไขมันลดลง และอายุมากขึ้น เน้นดูแลปัญหาผิวที่มีเปลือกส้ม (เซลลูไลท์) แต่ไม่สามารถลดไขมันทั้งหมด เพราะฉะนั้นผู้ที่ต้องการลดไขมันเซลลูไลท์ และอยากให้ผิวกระชับด้วย อาจจะต้องทำตัว Cool swiss ร่วมกันกับ Thermatrix

Cool swiss สามารถทำร่วมกับการฉีดลดไขมันได้ไหม

สามารถใช้ร่วมกันได้ และจะให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นด้วย หากใช้เทคนิคที่ถูกต้อง

Cool swiss สามารถทำร่วมกับ เครื่อง RF (คลื่นวิทยุส่งความร้อนสลายไขมัน) หรือ HIFU (คลื่นอุลตร้าซาวด์ความร้อนสลายไขมัน) ได้หรือไม่

สามารถทำได้ค่ะ โดยแนะนำให้ทำคนล่ะวันกัน จะช่วยส่งเสริมกัน ได้ผลลัพธ์ดีขึ้นค่า

ข้อห้ามในการทำ Cool swiss

1. ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น SLE โรคสะเก็ดเงิน Cryoglobulinemia โรค Raynaud’s Phenomenon disease ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
2. ผิวหนังอักเสบหรือติดเชื้อในบริเวณที่จะทำ
3. สตรีมีครรภ์
4. เด็กที่อายุน้อยกว่า 20 ปีควรได้รับการยินยอมจากผู้ปกครอง

ทำไมถึงควรเลือกทำ Cool swiss ที่ อะกาลิโก คลินิก? 

จากประสบการณ์ในการดูแลเคสที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินจำนวนมาก เราค้นพบเทคนิคเฉพาะของคลินิกในการวางแผนการรักษา ความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ชั้นไขมัน และเลือกระดับความเย็นที่เหมาะสมในการกำจัดไขมันแต่ล่ะจุด ที่แตกต่างจากที่อื่นๆ โดยวัดผลจากการวัดสัดส่วน และเก็บข้อมูลของคนไข้ทุกเคสที่เราดูแล ทุกคอร์ส มีการวัดผลเปรียบเทียบด้วยตัวเลขที่ชัดเจน เรามีการเก็บข้อมูลโดยการวัดรอบแขน รอบเอว รอบขา ทุกครั้ง

การันตี ด้วยรางวัล Iconic Fat Freezing Technique จากนิตยสารแพรว ประจำปี 2021

Review

ช่องทางการติดต่อเรา

Details

Contact Info

Features

Videos

Review

Average rating

0.0 / 5

Rating breakdown

5
0
4
0
3
0
2
0
1
0

Submit your review

Subject
Rating
Comments

Similar Listing

Top 10 Clinics
Logo