ศัลยกรรมความงามครบวงจร Asia Hospital ( โรงพยาบาลเอเซีย ) ศูนย์บริการด้านศัลยกรรม ดูแลโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และ ทีมงานมืออาชีพ

ศัลยกรรมความงามครบวงจร Asia Hospital ( โรงพยาบาลเอเซีย ) ศูนย์บริการด้านศัลยกรรม ดูแลโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และ ทีมงานมืออาชีพ


Call Now
02-199-9999
Bookmark

About

โรงพยาบาลเอเซีย โรงพยาบาลด้านศัลยกรรมความงามครบวงจร ดูแลโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทีมงานมืออาชีพ นำทีมโดยนายแพทย์ทนงศักดิ์ ปัญญาวิรุฬโรจน์ ที่สมาชิกสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย และให้บริการทุกท่านด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ได้มาตราฐานระดับสากล ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ ห้องพักคนไข้ที่สะอาด พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย

“ถ้าจะสวย ต้องสวย ที่โรงพยาบาลเอเซีย”

บริการของ โรงพยาบาลเอเซีย

“ โหนกแก้ม ” ถือ เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งของใบหน้าที่บ่งบอกถึงบุคลิกภาพของคุณถ้าเรามีกระดูกโหนกแก้มใหญ่เกินไป จะทำให้ใบหน้า แข็งดุดัน และหน้ามีอายุ การผ่าตัดทุบโหนกแก้ม เป็นการผ่าตัดแก้ไข เพื่อลดขนาดโหนกแก้ม และรูปทรงให้เล็กลงได้สัดส่วนที่เหมาะสม กับใบหน้าแต่ละบุคคล รูปหน้าของคุณจะดูละมุน เรียวเล็ก ดูอ่อนกว่าวัย มีเสน่ห์หน้ามอง

So Young = ยุบโหนก+ตัดกราม+กรอกราม+V-line

So Young  วิธีศัลยกรรมโครงหน้า 4 จุด เปลี่ยนคุณให้น่ารัก เป็นคนใหม่ ดูเด็ก ย้อนวัยยิ่งกว่าเดิม

  1. ยุบโหนกแก้ม การผ่าตัดลดโหนกแก้มขั้นสูง ปรับรูปหน้าให้เรียวเล็กดูมีมิติ พร้อมยกกระชับหน้าแก้มพร้อมกันในครั้งเดียว
  2. ตัดกราม การผ่าตัดมุมกรามลดหน้าเหลี่ยมและหน้ากลมบาน
  3. กรอกราม การลดความกว้างของขากรรไกรและความหนาของหนาตัวกระดูกกราม
  4. วีไลน์ การผ่าตัดวีไลน์เปลี่ยนความยาวและลักษณะของปลายคางได้ตามใจ เพื่อรูปหน้าที่เล็กเรียวเป็นตัว V ไปจนถึงปลายคาง


ศัลยกรรมเสริมหน้าอก

ศัลยกรรมเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน ทรงกลม หรือ ทรงหยดน้ำ

การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน โดยปกติแล้วแบ่งออกเป็น 2 ทรง ได้แก่

  • หน้าอกทรงกลม (Round type Silicone Implant) เหมาะกับคนที่ต้องการความนูนของเนินหน้าอก และมีเนื้อบริเวณหน้าอกอยู่บ้าง โดยในขนาดที่เท่ากันซิลิโคนทรงกลมจะให้เนินอกด้านบนที่ใหญ่และนูนกว่าซิลิโคนทรงหยดน้ำ
  • หน้าอกทรงหยดน้ำ (Tear drop หรือ Anatomical Silicone Implant) เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการเสริมหน้าอกให้ดูใหญ่มาก และต้องการเพิ่มความนูนของเนินด้านบนหน้าอกให้น้อย  ดูเป็นธรรมชาติ   โดยในขนาดที่เท่ากันเสริมหน้าอกทรงหยดน้ำจะให้ความนูนของเนินอกด้านบนที่น้อยกว่าเสริมหน้าอกทรงกลม

ศัลยกรรมเสริมหน้าอก ซิลิโคน MOTIVA

ซิลิโคน Motiva นวัตกรรมซิลิโคนล่าสุด ได้พัฒนาซิลิโคนชนิดเจลด้วยเทคโนโลยี (Nano Texture Breast Implant) ผิวอ่อนนุ่มคล้ายกำมะหยี่ ลดการฉีกขาดและเคลื่อนที่ของซิลิโคน มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถลดขนาดรอยกรีดยาวของแผลผ่าตัด รูปทรงมีความถ่วงสมดุลเข้ากับสรีระ เหมาะสมกับผู้หญิงที่มีผิวบางได้อย่างดี มีสัมผัสอ่อนนุ่มมากยิ่งขึ้น แก้ไขให้การเคลื่อนไหวของหน้าอกและรูปร่างมีความเป็นธรรมชาติ รวมทั้งความรู้สึกจากการสัมผัสที่เสมือนหน้าอกจริง

เนื้อเจลในซิลิโคน Motiva มีมากกว่า 90% มีคุณสมบัติอยู่ระหว่างผิวเรียบและผิวทราย คือ ไม่เรียบจนเกินไป และ ไม่หยาบเหมือนผิวทราย ช่วยป้องกันการเกิดพังผืด และให้สัมผัสที่นุ่มกว่า เป็นธรรมชาติมากกว่า

จุดเด่นสำคัญที่สุดของการออกแบบซิลิโคนล่าสุดนี้ อยู่ที่การออกแบบให้มีการเคลื่อนไหว รูปทรง และรับสัมผัสได้เหมือนธรรมชาติ  ไม่ว่าจะอยู่ในท่าไหน จะยืน เดิน วิ่ง หรือนอน รูปทรงและการเคลื่อนไหวก็จะปรับเปลี่ยนไปตามสรีสระอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่ซิลิโคนในอดีตไม่เคยทำได้ หมดกังวลเรื่องอันตรายจากปัญหาซิลิโคนรั่ว เนื่องจากเนื้อเจลคุณภาพสูงที่บรรจุอยู่ในซิลิโคน เมื่อเกิดการแตกรั่วจะมีปฏิกิริยาเกาะตัวกันแน่น ไม่ซึมเข้าสู่กระแสเลือดอย่างแน่นอน

ศัลยกรรมเสริมหน้าอก ซิลิโคน MENTOR MEMORYGEL XTRA

ซิลิโคนรุ่นพรีเมี่ยม ได้ถูกพัฒนาจากซิลิโคน Mentor รุ่นเก่า จากเดิมที่มีปริมานเจลอยู่ที่ 93% เป็น 98% เจลด้านในที่มีปริมานมากกว่าเดิม ช่วยให้ผู้ที่เสริมมีเนินอกที่เต็ม แน่นและอวบอิ่ม ยังช่วยแก้ไขผู้ที่มีปัญหา Rippling (ผู้ที่มีปัญหาอกเป็นริ้ว เป็นคลื่นหลังเสริมหน้าอก), ผู้ที่มีปัญหาอกหย่อนคล้อย ช่วยสร้างความอิ่ม ความพุ่ง และดันทรง ให้ความรู้สึกเหมือนเนื้อนมธรรมชาติ ทำให้ซิลิโคนรุ่นนี้ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะกับสรีระของคุณ

รับประกันการเกิดพังพืดน้อยมากนานถึง 10 ปี เป็นซิลิโคนคุณภาพสูง มาตรฐาน U.S.A. รับรองจากองค์กรอาหารและยา ประเทศสรัฐอเมริกา (FDA) และประเทศไทย หากซิลิโคนเกิดการฉีดขาด ซิลิโคนจะยังเกาะตัวอยู่ในตำแหน่งเดิม จะไม่มีการรั่วซึมออกมา

ซิลิโคน Mentor เป็นผู้นำในวงการบริษัทผลิตซิลิโคนหน้าอก กว่า 30ปี บริษัท Johnson&Johnson takeover ไปในปี 2009 Mentor MemoryGel ซิลิโคนตัวเด่นของ Mentor รับประกันโดย FDA & MHRA จากระยะเวลาที่ก่อตั้งยาวนาน ทำให้มีข้อมูลทางการแพทย์กว่า20ปี ทดสอบและพัฒนามาตลอด  97% คนไข้ให้ความชื่นชมชื่นชอบ (คนไข้ต่างประเทศ) สัมผัสซิลิโคนที่นิ่ม มีให้เลือกหลายรูปทรงหลายขนาด มีความสะดวกในการเลือกใช้

การผ่าตัดแก้ไขหน้าอก 

เป็นการแก้ไขเพื่อปรับรูปทรง ที่เป็นผลมาจากการผ่าตัดเสริมหน้าอกครั้งก่อนมีปัญหาที่ต้องแก้ไข เช่น การมีขนาดและรูปทรงที่ผิดปกติ การศัลยกรรมเสริมหน้าอกก็มีข้อจำกัดจากหลายสาเหตุ เช่น ความยืดหยุ่นกล้ามเนื้อและผิวหนัง หรือโครงสร้างหน้าอกในแต่คนไม่เหมือนกัน  ขณะเดียวกันการเลือกทำกับศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีทักษะและประสบการณ์ที่ไม่เพียงพอ ก็อาจทำให้การเสริมหน้าอกครั้งแรกไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวัง โรงพยาบาลเอเซียจึงต้องทำการวินิจฉัยอย่างจริงจัง และจำเป็นต้องใช้ศัลยแพทย์ที่มีความสามารถในการผ่าตัด เพื่อให้ได้หน้าอกที่สวยดูดี ตรงใจมากที่สุด

ปัจจัยที่ทำให้ต้องมีการแก้ไขหน้าอก

  1. ปัญหาเกิดพังผืดที่ห่อหุ้มถุงเต้านมเทียมรัดตัว (Capsular Contracture)

ปัญหาพังผืดหดรัดรอบซิลิโคนหน้าอก เรียกว่าแคปซูล (Capsular) เป็นปฏิกริยาของร่างกายที่สร้างเนื้อเยื้อออกมาห่อหุ้มสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย  เนื้อเยื้อพังผืดจะมีการพัฒนาเพิ่มความหนา เหนียว แข็ง แล้วรัดถุงเต้านมเทียมแน่นจนทำให้ถุงเต้านมเทียมไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เกิดเต้านมผิดรูป แข็ง และเจ็บ การผ่าตัดแก้ไขพังผืดที่ห่อหุ้มถุงเต้านมเทียมรัดตัว โดยศัลยแพทย์จะผ่าตัดเอาเนื้อเยื้อพังผืดรอบๆถุงเต้านมเทียมออกให้หมด แล้วเปลี่ยนตำแหน่งวางเต้านมเทียมใหม่

              2.ปัญหาถุงเต้านมเทียมแตกหรือรั่ว (Leakage and Ruptured)

ถุงเต้านมเทียมที่เป็นวัสดุทางการแพทย์ก็เหมือนกับผลิตภัณฑ์ทั่วๆไป ที่อาจจะเกิดการแตกและรั่วได้ ซึ่งเกิดในกรณีที่ถุงเต้านมเทียมเป็นถุงน้ำเกลือ เมื่อมันแตกออกน้ำเกลือในถุงเต้านมเทียมจะค่อยๆซึมออกจากถุง ทำให้ขนาดเต้านมข้างที่มีการรั่วซึมจะแฟ่บลง ส่งผลให้ขนาดของเต้านมสองข้างไม่เท่ากัน ต้องรีบผ่าตัดเปลี่ยนถุงเต้านมเทียมทันที

            3. ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย  (Bottoming out of breast)

หลังเสริมหน้าอกไป มีการวางตำแหน่งถุงเต้านมเทียมอยู่ในระดับที่ต่ำเกินไปเมื่อเทียบกับตำแหน่งของหัวนม หรือเกิดจากกล้ามเนื้อหน้าอกมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นน้อย ทำให้ระดับถุงเต้านมเทียมต่ำกว่าระดับที่ควรจะเป็น ในกรณีนี้ต้องเปิดแผลบริเวณใต้ราวนมเพื่อเย็บกระชับกล้ามเนื้อด้านในขอบล่างของเต้านมให้สูงขึ้น เพื่อให้ตำแหน่งเต้านมเทียมที่ใส่เข้าไปใหม่สูงขึ้นได้ระดับเหมาะสมกับตำแหน่งหัวนม

4. ปัญหานมห่าง (Cleavage Breast)

หลังจากผ่าตัดเสริมหน้าอกมาแล้ว  เกิดการผิดปกติของเต้านมทั้งสองข้างอยู่ห่างกันมากเกินไป แก้ไขโดยการเปิดแผลใต้ราวนมแล้วเปิดขยายโพรงเข้าสู่แนวกึ่งกลางของทรวงอกมากขึ้น จากนั้นก็เย็บลดขนาดความกว้างด้านข้างของโพรงเดิม เพื่อขยับตำแหน่งของเต้านมเทียมใหม่ เข้าสู่แนวเส้นกลางหน้าอกมากขึ้น ผลการผ่าตัดจะทำให้ร่องหน้าอกแคบลงกว่าเดิม

5.  ปัญหานมแฝด ( Symmastia Uniboob)

นมแฝด หรือ นมชิดกัน หลังจากการผ่าตัดเสริมหน้าอกไปแล้ว มีลักษณะที่เต้านมชิดกันมากเกินไป แทบไม่มีร่องอก การผ่าตัดแก้ไขทำโดยเปิดแผลใต้ราวนม แล้วขยายโพรงให้ออกไปด้านข้างมากขึ้น และเย็บแก้ไขกล้ามเนื้อด้านในร่องหน้าอก  ทำให้หน้าอกมีร่องกว้างขึ้น

ศัลยกรรมยกกระชับหน้าอก หลังคลอดบุตร

เมื่อปัญหาหน้าอกหย่อน มาสร้างความปวดใจให้กับสาวๆ

ปัญหาหน้าอกใหญ่เกินไป ปัญหาหน้าอกหย่อนยาน หน้าอกเปลี่ยนทรงไป ไม่เหมือนวัยสาวอีกต่อไป ผู้หญิงวัยกลางคนตลอดจนคุณแม่หลังให้นมบุตร สร้างความปวดใจให้กับคุณผู้หญิงไม่ใช่น้อย โรงพยาบาลเอเซียแก้ไขได้ ด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมเทคนิคทางการแพทย์ทันสมัยขึ้น ไม่ใช่แต่จะทำให้หน้าอกขยายได้เท่านั้น การลดขนาดเต้านมและแก้ไขหน้าอกหย่อนคล้อยก็ทำได้เช่นกัน โดยศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลเอเซีย จะทำให้หน้าอกส่วนบนหรือเนินหน้าอกฟูเต็มตามที่ต้องการ บางท่านอาจจะต้องมีการเสริมหน้าอกพร้อมกับยกกระชับทรวงอก  บางท่านมีหน้าอกใหญ่เกินไป อาจจะมีการยกกระชับ พร้อมกับลดขนาดหน้าอกร่วมกันไปด้วย ขึ้นอยู่กับปัญหาแต่ละบุคคลนั้นๆ

สาเหตุของการเกิดหน้าอกหย่อนยาน มีดังนี้

  1. การเปลี่ยนแปลงของวัย เมื่อมีอายุที่เพิ่มขึ้น ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและผิวหนังจะลดลง
  2. ความเสื่อมสภาพของผิวหนังและกล้ามเนื้อ
  3. ความอ้วน ทำให้ขนาดหน้าอกใหญ่ขึ้นเกิดการสะสมของไขมัน น้ำหนักของหน้าอกจะมากขึ้นทำให้เกิดการหย่อนคล้อย
  4. การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ทำให้ปริมาณไขมันในหน้าอกหายไปอย่างรวดเร็ว เนื้อผิวหนังเหลือเยอะ ทำให้หน้าอกหย่อนยาน
  5. ภาวะหลังให้นมบุตร ระหว่างการตั้งครรภ์จะมีการสร้างต่อมน้ำนมออกมาปริมาณมากเพื่อผลิตน้ำนม แล้วหลังจากหยุดให้นมบุตรต่อมน้ำนมจะฝ่อลง ขนาดหน้าอกจะลดลงทำให้หน้าอกหย่อนคล้อยได้
  6. กรรมพันธุ์ เนื่องจากมีประวัติทางกรรมพันธุ์หน้าอกใหญ่ ทำให้ หย่อยคล้อยง่าย
  7. การมีกิจกรรมที่หักโหมและไม่ได้ใช้เสื้อซัพพอตอย่างเพียงพอ

ระดับความหย่อนคล้อยของหน้าอก  แบ่งออกเป็น 4  ระดับ

  • ระดับแรก หน้าอกหย่อนคล้อยระดับปกติ ( Normal )

หัวนมจะอยู่กึ่งกลางเต้านม ชี้พุ่งตรง ตั้งฉาก ไปด้านหน้า ไม่มีความจำเป็นต้องยกกระชับ เพราะระดับเต้านม และหัวนม สวยอยู่แล้ว

  • ระดับที่สอง หน้าอกหย่อนคล้อยเล็กน้อย ( Mind level )

เต้านม จะตกลงมาเล็กน้อยมีหัวนมชี้ลง มา เล็กน้อยอาจจะไม่จำเป็นต้องการยกกระชับ ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของคนไข้ ถ้าต้องการยกกระชับ จะใช้เทคนิค แผลรอบปานนม  ( O Scar)

  • ระดับที่สาม หน้าอกหย่อนคล้อยปานกลาง  (Moderate level)

หน้าอกจะห้อย หย่อนยานหัวนมชี้ลงชัดเจนต้องการยกกระชับ จะใช้เทคนิค แผล รอบปานนม และ เก็บหนังที่เหลือรอบปานนม แบบ Keyhole หรือ แผลรอบปานนม (O Scar) เพื่อย้ายหัวนมให้สูงขึ้น

  • ระดับที่สี่ หน้าอกหย่อนคล้อยมาก (Severe level)

หน้าอกจะห้อย หย่อนยานมาก อาจจะยาวลงมา เกือบถึงสะดือหัวนมชี้ลง เกือบขนานกับลำตัวต้องการยกเนื้อนมมาอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม กับทรวงอกย้ายหัวนม และหนังส่วนเกินออกการยกกระชับเต้านมแบบหย่อนคล้อยมาก จะใช้เทคนิค แผล ตัวทีคว่ำT-Inverted  Scar  เท่านั้น

ศัลยกรรมลดขนาดหน้าอก

ศัลยกรรมลดขนาดหน้าอก Breast Reduction

การมีหน้าอกที่สวยงามคือ การมีทรวงอกที่มีความเข้ากันกับขนาดร่างกายของเรา สาวๆหลายคนคงรู้สึกอิจฉาคนที่เกิดมาพร้อมกับหน้าอกไซส์ใหญ่ แต่จริงๆแล้วการมีหน้าอกที่ใหญ่เกินไปสร้างความลำบากทั้งกายและใจอยู่ไม่น้อย เพราะหน้าอกที่ใหญ่เกินไปทำให้ไม่สามารถต้านน้ำหนักได้ จึงเกิดอาการหย่อนคล้อยได้ง่าย รูปทรงไม่สวย ใส่เสื้อยกทรงจนเป็นรอยกดทับ จนมีอาการชาเพราะไปกดทับเส้นประสาทที่ไหล่ และยังเกิดอาการปวดไหล่ หรืออาการปวดเอว ผิวอักเสบในส่วนของรอยพับใต้ราวนม ไม่ใช่เพียงแต่เกิดปัญหาในด้านความงามเท่านั้น  ใช่ว่าทุกคนอยากจะมีหน้าอกไซส์ใหญ่ตามที่ใครปรารถนา บางคนรู้สึกอายและลดความมั่นใจในตัวเอง จนเกิดเป็นปัญหาด้านสุขภาพจิต จึงทำให้อยากเข้ารับการผ่าตัดลดขนาดหน้าอกให้มีขนาดเล็กลงพอดีกับสรีระของร่างกายกับโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน

ปัญหาของสาวๆเต้านมมหึมา

  • มีอาการปวดของทรวงอก, คอ, ไหล่ และเอว เนื่องจากต้องรับน้ำหนักเต้านมขนาดมหึมา
  • เป็นต้นเหตุของโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง และกระดูกต้นคอ
  • อาการปวดศีรษะเรื้อรัง
  • มีรอยแตกลายที่ใต้เต้านม
  • อาการอักเสบของผิวที่ใต้ราวนม
  • อายและความไม่มั่นใจในตัวเอง

การผ่าตัดลดขนาดหน้าอกแบบแผลตัว T กลับด้าน ( Inverted T-scar)

ศัลยแพทย์จะผ่าตัดโดยเปิดแผล เป็นรูปตัวทีกลับด้าน  เพื่อตัดเอาเนื้อนมออกบางส่วนเพื้อปรับรูปทรงเต้านมใหม่ที่มีขนาดเล็กลง จากนั้น ตัดเอาหนังที่เหลือออกให้พอดีกับรูปทรง คนไข้ก็จะได้หน้าอกใหม่ที่สวยงามมีขนาดที่เหมาะสมกับรูปร่างดีขึ้น

ศัลยกรรมลดขนาดปานนม ตกแต่งหัวนม

ศัลยกรรมลดขนาดปานนม ตกแต่งหัวนม

หน้าอก นอกจากมีขนาดที่สวยพอเหมาะแล้ว ปานนม และหัวนม ก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเติมเต็มให้ทรวงอกของเรามีความสวยสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ปัญหาปานนมที่มีขนาดใหญ่ หลังคลอดบุตร หรือสาเหตุอื่นๆที่มาจากกรรมพันธุ์  มีลักษณะที่ไม่เหมาะสมกับหัวนม หัวนมบอด หัวนมผิดรูปเล็กเกินไป ใหญ่หรือยาวเกินไปหลังให้นมบุตร ซึ่งทำให้เต้านมไม่สวย ขาดความมั่นใจและไม่เชื่อมั่นกับรูปลักษณ์ของทรวงอกได้ สร้างความหนักใจและความกังวลใจให้กับผู้หญิงไม่น้อย ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้โดยการทำศัลยกรรมลดขนาดปานนม และตกแต่งหัวนม

สาเหตุที่ต้องทำศัลยกรรมลดขนาดปานนม และตกแต่งหัวนม

  • ปานนมมีขนาดใหญ่เกินไปเมื่อเทียบกับเต้านม
  • หัวนมบอด
  • หัวนมยาวเกินไป
  • หัวนมมีขนาดใหญ่
  • รูปร่างไม่สมส่วน

วิธีการผ่าตัดลดขนาดปานนม  สามารถทำได้ 2 วิธี

  1. การลงแผลบริเวณขอบรอบนอกของปานนม
  2. การลงแผลบริเวณขอบในของปานนม

เติมไขมันเสริมหน้าอก

เติมไขมันเสริมหน้าอก 

เป็นหนึ่งในวิธีเพิ่มการเพิ่มขนาดหน้าอกโดยการใช้วิธีการฉีดไขมันเพิ่มไปในส่วนของเนินอก เป็นลักษณะพิเศษที่ทำให้มีรูปทรงหน้าอกที่เพอร์เฟคและสวยงามให้หน้าอกอวบอิ่มเต่งตึงขึ้น ไม่ใส่บราก็ยังดูเป็นธรรมชาติ แม้บีบหน้าอกให้ชิดกันก็ไม่เหมือนของเทียม หมายความว่าเหมือนไม่ได้ทำศัลยกรรม เป็นการนำเอาไขมันของตนเองมาใช้ บริเวณ ต้นขา สะโพก หน้าท้อง เป็นต้น การเสริมหน้าอกด้วยวิธีนี้จะเพิ่มความเซ็กซี่ให้แก่สาวๆได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งเรื่องความนิ่ม รูปทรง ไม่ต้องกังวลกับปัญหาเต้านมแข็งหรืออักเสบ ปัญหาผังผืดที่เกิดจากการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน

เสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเองอยู่ได้นานแค่ไหน

เสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเองเมื่อเซลล์ไขมันติดเป็นเซลล์ไขมันเดียวกับไขมันเดิมตามธรรมชาติ ณ จุดนั้น ก็สามารถอยู่ได้ตลอดไป นอกจากว่าคุณจะมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง เซลล์ไขมันก็ขยายและลดลงตามน้ำหนังด้วย แพทย์จึงแนะนำให้รักษาน้ำหนักตัวให้คงที่เท่ากับตอนที่ฉีดเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง

เติมไขมันเสริมหน้าอก เหมาะกับใครบ้าง ??

  • คนที่มีหน้าอกเล็ก ต้องการหน้าอกที่ใหญ่ขึ้น
  • คนที่หน้าอกหย่อนคล้อยไม่ได้รูปทรงสวยงาม
  • คนที่ลดน้ำหนักมากๆ ทำให้หน้าอกเสียรูปทรง
  • คุณแม่หลังคลอดที่ให้นมบุตร ทำให้หน้าอกเสียรูปทรงและหย่อนคล้อย

ข้อดี ข้อเสีย ของการเสริมหน้าอกด้วยไขมัน

ข้อดี คือจะเป็นสิ่งจากธรรมชาติของตัวคุณเองคือย้ายไขมันจากส่วนหนึ่งไปสู่ส่วนหนึ่งเป็นวัสดุทางธรรมชาติจึงไม่มีผลกระทบต่อร่างกายและเมื่อผสานเป็นหนึ่งเดียวกับเซลล์ไขมันเดิมแล้วก็จะอยู่ได้นานตามธรรมชาติ

ข้อเสีย ของการเสริมหน้าอกด้วยไขมัน คงจะเป็นเรื่องของผู้ที่ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยก็ไม่สามารถเสริมหน้าอกด้วยวิธีนี้ได้แน่นอน อีกประการคงเป็นเรื่องของน้ำหนักตัวเมื่อน้ำหนักตัวของผู้ที่เสริมหน้าอกด้วยไขมันไม่คงที่ก็จะมีผลกระทบต่อขนาดของเซลล์ไขมันเช่นกัน เมื่อคุณอ้วนขึ้นเซลล์ไขมันก็จะใหญ่ แต่พอผอมลงเซลล์ไขมันก็จะเล็กลงนั่นทำให้ขนาดหน้าอกเล็กลงได้

ข้อดี ข้อเสีย ของการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน

ข้อดีคือ สามารถเลือกขนาดตามที่ต้องการได้เลยแต่สิ่งที่ต้องควรคำนึงถึงถ้าเลือกใหญ่ไปเนื้อหน้าอกคุณอาจจะไม่สามารถรองรับได้เพราะฉะนั้นศัลยแพทย์จะเลือกขนาดที่เหมาะสมกับรูปร่างคุณให้เท่านั้น อีกสิ่งหนึ่งหากเนื้อหน้าอกคุณน้อยแต่อยากเสริมหน้าด้วยซิลิโคนก็สามารถทำร่วมกับการฉีดไขมันหน้าอกเฉพาะที่ได้ เช่นบริเวณเนินหน้าอกหรือร่องอกเพื่อตกแต่หน้าอกให้ดูเป็นธรรมชาติซึ่งเทคนิคนี้เรียกว่าHybrid

ข้อเสีย ของการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน คงเป็นเรื่องผู้ที่มีเนื้อหน้าอกน้อยเมื่อต้องใช้การเสริมด้วยซิลิโคนเสริมหน้าหรือเต้านมเทียมอาจจะใส่ไซส์ได้ไม่ใหญ่มากเพื่อหลีกเลี่ยงการตึงของเต้านมและการเห็นขอบซิลิโคน บางรายที่เสริมหน้าอกด้วยซิลิดคนร่างกายอาจต่อต้านสิ่งแปลกปลอมทำให้เกิดการแพ้ หรือมีพังผืดรัดซิลิโคน อีกประการคือยี่ห้อของซิลิโคนในอดีตที่เพิ่งตรวจพบว่ามีปัญหาจนต้องมีการผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนซิลิโคนได้


เสริมจมูก

เสริมจมูก ด้วยซิลิโคน

จมูก เป็นจุดกึ่งกลางของใบหน้า ซึ่งในแต่ละคนก็จะมีทรงจมูกที่แตกต่างกัน หากจมูกมีรูปทรงผิดปกติ เช่น จมูกแบน จมูกบาน จมู​กไม่โด่ง สามารถแก้ไขได้โดย การทำศัลยกรรมจมูก เพียงอย่างเดียวก็มีความเปลี่ยนแปลงของใบหน้าโดยรวมได้ ถือเป็นการศัลยกรรมอย่างหนึ่งที่คนนิยมมากที่สุด

จมูกโด่ง สวยเป๊ะ แบบธรรมชาติ สวยอย่างปลอดภัยเลือกทรงได้ ไม่ว่าจะเป็น ทรงสโลปปลายพุ่ง สโลปปลายหยดน้ำ ทรงโด่งธรรมชาติ ทรงบาร์บี้ หรือจะเป็นทรงสไตล์เกาหลี หมดปัญหาปลายจมูกบาง-ทะลุ มั่นใจในความสวยอย่างปลอดภัยโดยทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

วัสดุซิลิโคนที่นิยมนำมาเสริมจมูก

1.ซิลิโคนอเมริกา (USA) : “เน้นมาตรฐานปลอดภัยระดับโลก” ประเทศต้นกำเนิด โดยเป็นบริษัทเจ้าแรกๆที่ผลิตซิลิโคนระดับ Medical grade โดยมีการวิจัยทดลองความปลอดภัยมากมาย มีทั้งแบบนิ่ม และแบบแข็ง ทั้งแบบบล็อคเหลาและสำเร็จรูป และก็เป็นประเภทที่นิยมมากในประเทศไทยด้วย *ที่ โรงพยาบาลเอเซีย เน้นใช้ซิลิโคนอเมริกาทั้งในการเสริมจมูก และเสริมคางเป็นหลัก

2.ซิลิโคนเกาหลี (Korea) : “เน้นความนิ่ม นิยมใช้ในการเสริมจมูก” ที่เกาหลีก็ได้นำซิลิโคนจากประเทศอเมริกามาพัฒนาต่อยอดในรูปแบบของตัวเอง ที่ดังที่สุดก็คือการเน้นใช้ แบบนิ่ม เป็นพิเศษในการ เสริมจมูก เพื่อให้ลักษณะเวลาจับแล้วดูธรรมชาติ ระยะหลังก็เริ่มมีแพทย์ไทยนำเข้ามาใช้มากขึ้น *ที่ โรงพยาบาลเอเซีย มีการนำซิลิโคนเกาหลี ร่วมกับวัสดุทดแทนมาใช้ ตามหลักมาตรฐานความปลอดภัย

รูปแบบของซิลิโคน

ซิลิโคนแบ่งเป็น 2 รูปแบบหลักๆ ดังนี้

  1. ซิลิโคนแบบสำเร็จรูป

การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนแบบสำเร็จรูป คือ จะได้รูปทรงที่แน่นอน พร้อมที่จะใช้งาน มีขนาดความกว้างและยาวให้เลือกตามความเหมาะสม มีโอกาสที่จะเบี้ยว หรือเอียงน้อยน้อยมาก แต่แพทย์จะเหลาปรับรูปทรงของซิลิโคนอีกเล็กน้อย เพื่อให้เหมาะสมกับโครงจมูก ของคนไข้แต่ละราย เนื้อซิลิโคนที่มีให้เลือก ความแข็ง-นิ่มได้หลายเกรด

  1. ซิลิโคนแบบแท่ง หรือแบบเหลาเอง

ซิลิโคนแบบแท่ง หรือแบบเหลาเอง จะมีลักษณะ เป็นแผ่นใหญ่ ๆ แล้วนำมาเหลาเองให้เหมาะกับรูปจมูกของคนไข้ โดยแพทย์จะต้องนำมาเหลาขึ้นรูปเอง ทำให้สามารถปรับแต่งให้เข้ากับจมูกทุกรูปหน้า ด้วยการเหลาตกแต่ง ไม่ว่าจะต้องการโด่งมากน้อยแค่ไหน แต่ใช้เวลานาน และจะต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ เพราะมีโอกาสเสี่ยงที่จะทำให้จมูกเบี้ยวได้

ซึ่งลักษณะความอ่อน-แข็งของเนื้อซิลิโคนจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ดังนี้

  • ซิลิโคนแข็ง จะคงรูปได้ดี ไม่ยุบตัวง่าย แต่อาจทะลุได้หากเนื้อจมูกไม่หนาพอ จึงมักเลือกใช้ซิลิโคนชนิดแข็งปานกลาง เพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงาม ไม่ทะลุง่าย และไม่ยุบตัวหลังทำ
  • ซิลิโคนนิ่ม เหมาะกับคนที่เนื้อจมูกไม่หนา เสริมแล้วจมูกดูเนียนเป็นธรรมชาติ แต่อาจยุบตัวได้เมื่อเวลาผ่านไป

การเสริมจมูกสามารถใช้กระดูกอ่อนจากส่วนต่างๆ ของร่างกายมาเป็นวัสดุเสริมจมูกร่วมกับการใช้ซิลิโคน เพื่อป้องกันการทะลุได้

กระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อที่ใช้ในการเสริมจมูก เช่น กระดูกซี่โครง กระดูกอ่อนหลังหู เนื้อเยื่อก้นกบ หรือไขมัน เป็นวัสดุที่มีความปลอดภัยสูง เสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ได้น้อย แต่มีราคาที่สูงกว่าการเสริมจมูกโดยใช้ซิลิโคน

กระดูกอ่อนหลังใบหู (เสริมปลายจมูกให้สวย ลดโอกาสปลายทะลุ), กระดูกอ่อนซี่โครง (ช่วยเพิ่มสันจมูก) และกระดูกอ่อนจากผนังกั้นจมูก (เพื่อยืดปลายจมูกให้ยาวและพุ่ง) เนื่องจากเป็นกระดูกอ่อนของคนไข้เอง ทำให้ร่างกายจะไม่มีปฏิกิริยาในการต่อต้านสิ่งแปลกปลอม เมื่อระยะเวลาผ่านไปร่างกายก็จะทำการสมานจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ยิ่งนานวันก็ยิ่งดูสวยเป็นธรรมชาติ แก้ไขได้ดีทั้งในกรณีเสริมใหม่ หรือกรณีที่ต้องการแก้ไขจากการเสริมครั้งก่อน แม้แต่ผิวที่บางมาก หรือเคยทะลุมาก่อนแล้ว สามารถตกแต่งปลายจมูกตามที่ต้องการได้โดยไม่เสี่ยงทะลุ ให้ผลลัพธ์ดีกว่าเสริมด้วยซิลิโคนเดี่ยวๆ

เสริมจมูก Long Tip Surgery

การเสริมจมูกด้วยเทคนิค Long Tip Surgery เป็นเทคนิคการยืด และแต่งปลายจมูก เพื่อเพิ่มความพุ่ง,โด่งจากทรงเดิม หรือ เพื่อรองปลายกันทะลุในกรณีที่มีการเสริมแล้วเกิดความตึงที่ปลายจมูก (ทำให้ยืดปลายได้อย่างปลอดภัย) หมดปัญหาผิวหนังบางบริเวณปลายจมูก

วัสดุที่ใช้สำหรับยืดปลายจมูกที่นิยม

  1. เนื้อเยื่ออ่อนของผู้ป่วยเอง เช่น เนื้อเยื่อขมับ เนื้อเยื่อก้นกบ ไขมันจากบริเวณต่างๆในร่างกาย กระดูกอ่อนจากบริเวณต่างๆ เช่น กระดูกอ่อนหลังใบหู กระดูกซี่โครง เป็นต้น
  2. ใช้วัสดุสังเคราะห์ เช่น ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า มีการคิดค้นเนื้อเยื่อเทียม Acellular Dermal Matrix (ADM) และ กระดูกอ่อนเทียม (Polycarpolactone-PCL) ที่เป็นสารที่เข้ากับร่างกายได้ดี และเมื่อเนื้อเยื่อร่างกายเข้าไปแทนที่จะเปลี่ยนแปลงในลักษณะคล้ายกับเนื้อเยื่อเทียม (Acellular Dermal Matrix-ADM)  และผนังกั้นจมูกกระดูกอ่อนเทียมนี้ ก็มีความแข็งแรงมากการจนสามารถนำมาใช้ยืดผนังกั้นจมูกได้ ( Septal Extension graft -SEG) คล้ายกับการผ่าตัดยืดผนังกั้นจมูกจริงโดยใช้กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก ซึ่งส่งผลให้จมูกยาวขึ้น ปลายจมูกโด่งพุ่งขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น โดยโอกาสที่ในระยะยาวที่ปลายจมูกจะบางและจะทะลุเหมือนที่เกิดจากซิลิโคนนั้นลดลง

  1. กระดูกอ่อนหลังใบหู

นำมาจากการผ่าตัดซึ่งแผลจะซ่อนอยู่ด้านหลังตรงรอยพับใบหู ซึ่งยากต่อการสังเกตเห็น บริเวณที่นำกระดูกอ่อนออกไปคือบริเวณแอ่งโค้งของใบหู (Concha) ซึ่งการนำกระดูกอ่อนออกในตำแหน่งที่ถูกต้องในปริมาณที่เหมาะสม จะไม่เกิดการผิดรูปใดๆของใบหู เพราะกระดูกอ่อนที่นำออกไปเป็นตำแหน่งที่ไม่ได้ใช้ในการค้ำยันใบหู และนำออกไปด้วยปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

  • ✔ ข้อดี

– เป็นเนื้อเยื่อของเราเอง ปลอดภัยมาก

– มีความแน่น ซึ่งทำให้รองรับความตึงได้ค่อนข้างมาก

– สามารถนำมาเติมซ้อนซ้ำได้หลายครั้ง เพื่อเพิ่มความพุ่งโด่ง

– อยู่ได้นานตลอดชีวิต เพราะเป็นการย้ายเนื้อเยื่อของเจ้าตัวเอง

  • ✖️ ข้อเสีย

– มีการผ่าตัดเพิ่มอีกหนึ่งจุดคือ หลังใบหู ซึ่งก็จะเจ็บตัว

– มีแผล(แอบอยู่หลังใบหู ไม่เห็นถ้าไม่พลิกใบหูดู)และ

– ต้องรับความเสี่ยงจากผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัดเพิ่มอีกตำแหน่ง เช่น ติดเชื้อ แผลแยกเป็นต้น

– มีเจ็บเสียวใบหูบริเวณที่ถูกเอากระดูกอ่อนไป ส่วนใหญ่มักหายใน 1-3 เดือน

– เนื่องจากกระดูกอ่อนใบหูลักษณะเป็นแผ่นที่มีความหนาและมีขอบ ซึ่งถึงแม้แพทย์จะนำกระดูกอ่อนใบหูมาเหลาเอาขอบเหลี่ยมออกแล้วก็ตาม เมื่อนานไป 1-2 ปี อาจมีบางเคสที่จะเห็นเป็นรอยขอบที่ปลายจมูก หรือ คลำรู้สึกได้ (ไม่อันตราย ไม่ทะลุ แต่ อาจสร้างความรำคาญใจ) โดยสามารถมาแก้ไขได้ถ้าคลำเจอหรือเห็นในภายหลัง

  1. เนื้อเยี่อเทียม

เนื้อเยื่อเทียม (Megaderm) เป็นเนื้อเยื่ออ่อนสังเคราะห์ทางการแพทย์ ซึ่งผ่านการวิจัยและกรรมวิธีการสังเคราะห์ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง สามารถนำมาใช้ในร่างกายมนุษย์ได้อย่างปลอดภัย โดยใช้แทนเนื้อเยื่ออ่อนของมนุษย์เองในบริเวณต่างๆ

  • ✔ ข้อดี

– เนื่องจากมีลัษณะนุ่มคล้ายเนื้อเยื่ออ่อนของคน จึงทำให้บริเวณที่เติมมีความเนียนสวย มากกว่ากระดูกอ่อนใบหู และ หลังหายดีแล้วคลำจะให้ความรู้สึกนิ่มๆคล้ายเนื้อเราเอง

– ไม่ต้องเจ็บตัว หรือ รับความเสี่ยงจากกการผ่าตัดหลายจุด

– มีหลายขนาดให้เลือก

  • ✖️ ข้อเสีย

– มีการใช้มาไม่นานเท่าการใช้กระดูกอ่อนใบหู

– ซึ่งหลังการเติมอาจมีการสลายไปบางส่วนมากน้อยแล้วแต่กรณีไป

– เสียค่าใช้จ่ายในการเติมมากกว่า

เสริมขนาดจมูก ปรับโครงสร้างจมูก

ปรับโครงสร้าง ลดขนาดจมูก (Nose Reduction and Reconstruction)

การผ่าตัดแก้ไขโครงสร้างจมูก   เป็นการศัลยกรรม  ปรับแต่งโครงจมูก  ให้ได้ขนาด และรูปทรงที่สวยงาม รับกับความโค้งนูนของหน้าผาก และลดขนาดของจมูกให้เล็กลง เข้ากับรูปทรงใบหน้ามากขึ้น นิยมทำมากในชาวตะวันตกเพราะโดยทั่วไปชาวตะวันตกมีปัญหาจมูกใหญ่มากกว่าชาวเอเชีย  แต่กระนั้นก็ตามชาวเอเชียหลายคนมีปัญหาจมูกใหญ่ในบางส่วนซึ่งอาจแก้ไขด้วยการเสริมซิลิโคนได้ แต่บางครั้งก็มีความจำเป็นต้องทำการผ่าตัดลดขนาดกระดูกจมูก และ กระดูกอ่อนจมูก เพื่อปรับทรงจมูกให้สัดส่วนสวยงามเข้ากับรูปหน้า

ดังนั้นการแก้ไขโครงสร้างจมูก  จะต้องเลือกศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ความชำนาญสูงมาก  ในการปรับแต่งรูปทรง  โครงสร้างของกระดูกจมูก การตัด ทุบหรือยุบกระดูกจมูก จะเกี่ยวข้องกับ โครงสร้างของกระดูกส่วนอื่นๆของใบหน้าด้วย เช่น โพรงกระดูกไซนัส   กระดูกโหนกแก้ม เป็นต้น

การผ่าตัดลดขนาดจมูกที่พบบ่อยได้แก่

  1. การผ่าตัดลดโหนกกระดูกกลางสันจมูก (Humpectomy / Hump Reduction)
  2. การตัดกระดูกและกระดูกอ่อนสันจมูกเพื่อลดความสูงของกระดูกสันจมูก (Nasal bridge reduction)
  3. การตัดยุบกระดูกเพื่อลดความกว้างของกระดูกสันจมูก (Nasal Osteotomy)
  4. การผ่าตัดลดความงุ้ม ยาวของกระดูกอ่อนที่ปลายจมูก และลดความกว้างปลายของปลายจมูก (Nose Tip Refinement)    การผ่าตัดนี้จะมีการตัดกระดูกอ่อนที่ปลายจมูกออกเพื่อให้กระดูกอ่อนเล็กลง พร้อมทั้งมีการเย็บจัดทรงให้กระดูกปลายจมูกที่บานออก แคบลงและเข้าหากันจนเห็นปลายจมูกเล็กและชัดเจนขึ้น

เก็บปีกจมูก แก้ไขเบ้าลูก

ตัดปีกจมูก  (Alarplasty)

ปีกจมูกคือ กระดูกอ่อนของจมูกบริเวณด้านข้าง ที่กางออกเรียกว่า ปีกจมูก ชาวเอเชียจำนวนมากมีปัญหากับความหนา,บานออกด้านข้าง และความห้อยลงของปีกจมูก ซึ่งการลดขนาดปีกจมูก มีส่วนช่วยให้การผ่าตัดจมูกได้รูปทรงจมูกที่เหมาะสมกับสัดส่วนของใบหน้ามากขึ้น การตัดปีกจมูกเป็นการปรับรูปทรงจมูกให้สวยงามได้รูป เป็นการผ่าตัดที่นิยมทำร่วมกับการเสริมจมูกเพื่อทำให้มีรูปทรงของจมูกได้สัดส่วนสวยงามมากยิ่งขึ้น การเปิดแผลผ่าตัดปีกจมูกจะเปิดแผลด้านในของปีกจมูก โดยกรีดโค้งเข้าใต้ฐานปีกจมูก  ตัดเนื้อด้านในออก กว้างประมาณ 2-4 มิลลิเมตรขึ้นอยู่กับความกว้างของปีกจมูกคนไข้ แล้วกรีดโค้งเข้าหาใต้ฐานปีก

ปีกจมูก มีโครงสร้างที่สำคัญคือกระดูกอ่อน (Cartilage) มีลักษณะคล้ายเป็นแกนในของปีกจมูก ทำให้มีรูปทรงอยู่ได้ ถ้ามีความผิดปกติกับกระดูกอ่อน จะทำให้ลักษณะปีกจมูกผิดรูปด้วย จึงต้องแก้ไขโดยการผ่าตัดแก้ไขกระดูกอ่อน

ปีกจมูกที่ใหญ่ รูจมูกที่กว้าง และปีกจมูกที่กางออกด้านข้างมากๆ สามารถผ่าตัดแก้ไขให้ดีขึ้นได้ แต่การลดขนาดปีกจมูก โดยมากมักจะแก้ไขเฉพาะส่วนปีกด้านข้าง ซึ่งมีผิวหนังและกล้ามเนื้อเท่านั้น ไม่มีกระดูกอ่อนและแผลผ่าตัดทั้งหมดจะซ่อนบริเวณขอบของปีกจมูก ทำให้เห็นแผลเป็นได้ยากมาก

การผ่าตัดปีกจมูก เป็นการตัดแต่งปีกจมูกให้เหมาะสมกับรูปหน้าทางสันจมูกและในส่วนของจมูกของคนไข้ โดยแพทย์จะใช้ยาชาฉีดที่ตรงบริเวณที่จะตัดแต่ง ปีกจมูก โดยทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะให้คำปรึกษารวมทั้งอธิบายรูปแบบที่เหมาะสม ให้กับคนไข้ ในบางกรณีที่คนไข้มีรูปปีกจมูกใหญ่ แต่รูจมูกของคนไข้ดูดีและไม่ขัดกับการหายใจ แพทย์ก็จะทำการผ่าตัดปีกจมูกเพียงอย่างเดียว แต่สำหรับคนไข้ที่มีรูจมูกเล็กหรือฐานจมูกเล็ก แพทย์จำเป็นต้องหาเนื้อเยื่อมาเพิ่มเติมเพื่อเติมเต็ม การเย็บบาดแผลแพทย์จะทำการเย็บไว้ด้านในของโพรงจมูก โดยที่คนไข้แทบจะไม่เห็นแผลเป็นเลย ระยะเวลาในการผ่าตัดตกแต่งปีกจมูกใช้เวลา ไม่เกิน 1 ชั่วโมง หลังจากตัดแต่งปีกจมูกเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะนัดคนไข้เข้ามาตัดไหมอีกครั้ง

ดูดไขมัน พร้อมกระชับผิว Bodytite liposuction

ดูดไขมัน พร้อมกระชับผิว Bodytite liposuction

ดูดไขมัน  Body Tite Liposuction เทคโนโลยีล่าสุดที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก เนื่องจากมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงเป็นการปรับรูปร่างให้มีความสวยงาม สัดส่วนกระชับ และยังทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้นมากกว่าเครื่องดูดไขมันชนิดอื่นๆ ได้รับการรับรองจาก US FDA สามารถทำได้หลายส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง รอบเอว สะโพก ต้นขา ต้นแขน น่อง และปีกหลัง แต่การดูดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยนั้น ต้องประกอบไปด้วยปัจจัยร่วมกัน ทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรวมถึงเครื่องมือที่ใช้ต้องได้มาตรฐาน

นวัตกรรมใหม่ล่าสุด Body Tite Liposuction เครื่องดูดไขมันที่มีประสิทธิภาพที่สุด ด้วยระบบการใช้คลื่นพลังงาน RF (Radiofrequency) ส่งผ่านท่อขนาดเล็ก Cannula ขนาด 1-3 mm  ซึ่งมีขนาดเล็กมาก ไม่ทำให้เกิดแผลใหญ่ในการสลายเซลล์ไขมันแบบเฉพาะเจาะจง จึงทำให้สามารถสลายไขมันได้อย่างแม่นยำและลดอาการบาดเจ็บระหว่างทำ ยังมีคลื่นความร้อนช่วยกระชับสัดส่วนไปในตัว ไม่ทำให้ผิวหย่อนคล้อยหลังดูดไขมัน ข้อดีคือไม่ทำให้เกิดเป็นพังผืดรัดตัว ผิวบริเวณที่ทำการ ดูดไขมัน พักฟื้นน้อยลง หายเร็วขึ้นเท่าตัว ผิวกระชับมากกว่าเครื่องดูดไขมันอื่นๆ

ดูดไขมันแก้ม-เหนียง พร้อมยกกระชับผิวหน้า  Facetite

การทำ “FaceTite” เป็นนวัตกรรมที่ปฏิวัติวงการดูดไขมัน ด้วยเทคนิคที่สามารถดูดไขมันออก พร้อมกระชับผิวให้เรียบตึงในครั้งเดียว โดยใช้พลังงาน RF แบบเดียวกับเทอร์มาจที่เราใช้ในการยกกระชับหน้า พลังงาน RF ไม่เพียงแต่ลงไปสลายผนังเซลล์ไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อน แต่ยังลงไปเปลี่ยนโครงสร้างและปัจจัยทางชีวเคมีในบริเวณนั้น เปลี่ยนโครงสร้างการไหลเวียนของน้ำเหลือง ทำให้ขณะที่กำลังสลายไขมันก็จะได้ผลของการกระชับผิวหนังไปด้วย รวมถึงขจัดเซลลูไลท์ออกไปด้วย นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือเดียวในการดูดไขมันที่สามารถฟื้นฟูคอลลาเจน ทำให้ผิวมีโครงสร้างที่แข็งแรงขึ้น โอกาสที่ไขมันจะกลับมาสะสมใหม่ยากกว่าการดูดไขมันแบบเดิม ๆ

ตัดหนังหน้าท้อง Tummy Tuck

ศัลยกรรมตัดหนังหน้าท้อง ” ( TUMMY TUCK ) เป็นวิธีการผ่าตัดกระชับหน้าท้องเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมหน้าท้องเป็นจำนวนมาก หน้าท้องหย่อนคล้อย หน้าท้องลาย หน้าท้องย้วย ผิวหนังบริเวณหน้าท้องขยายตัว อาจเกิด จากการตั้งครรภ์ เมื่อคลอดแล้วหนังบริเวณที่เคยยืดออกไม่สามารถหดกลับเข้ามากระชับเหมือนเดิม ซึ่งการผ่าตัดหนังหน้าท้องจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ และความมั่นใจให้คนไข้ ให้กลับมามีรูปร่างกระชับ ได้สัดส่วนสวยงามมากขึ้น

การผ่าตัดหนังหน้าท้อง คือการตัดชั้นเนื้อเยื่อไขมันที่สะสมเป็นจำนวนมาก และผิวหนังหน้าท้องส่วนเกินที่ยื่นออกจากหน้าท้องส่วนกลางและล่างออกไป การผ่าตัดหนังหน้าท้องจะช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อหน้าท้องให้ตึง และยังสามารถเก็บรอยแตกลายได้เฉพาะส่วนที่ติดอยู่บนผิวหนังที่ถูกตัดทิ้งเท่านั้น รวมถึงการกระชับผนังกล้ามเนื้อหน้าท้องที่หย่อนยาน สามารถทำพร้อมกับการดูดไขมันเพื่อหน้าท้องที่กระชับสวยงามได้เลย

เสริมสะโพก (Buttock Augmentation)

การผ่าตัดเสริมสะโพก เป็นการปรับสรีระรูปร่างให้เห็นส่วนโค้ง ส่วนเว้าของเอว  สะโพก และต้นขา เด่นชัดขึ้น   ช่วยทำให้มีสัดส่วนของเอว สะโพก ต้นขา สวยสมดุล และไม่ทำให้เกิดอันตรายหรือมีปัญหาแทรกซ้อนมากเหมือนการไปรับการฉีดซิลิโคน หรือสารเหลวอื่น ๆ เข้าสู่สะโพก  ซึ่งเกิดผลข้างเคียงหลายอย่างตามมาเพราะเป็นสารแปลกปลอม เกิดเป็นก้อนพังผืด สะโพกบิดเบี้ยว ผิดรูป ซิลิโคนมีการไหลไปยังส่วนต่างๆ หรือย้อยลงเหมือนคนมีอายุ เพราะซิลิโคนเหลวจะคงสภาพอยู่ได้ไม่นาน การผ่าตัดรักษาก็เป็นไปได้ยากที่จะแก้ไข และทำให้สะโพกนั้นกลับมาสวยเหมือนเดิม

การผ่าตัดเสริมสะโพกจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด   ในการปรับรูปทรงสะโพกให้ ผาย กลมกลึง  กระชับสวยงาม  ศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผลบริเวณ ร่องก้น ยาวประมาณ 4-5 ซ.ม. จากนั้นใส่ ถุงซิลิโคน (Buttocks impaints) เป็นรูปทรงกลม หรือทรงรี แล้วแต่ความเหมาะสม เข้าไปใต้กล้ามเนื้อก้น  ที่อยู่ระหว่างกล้ามเนื้อส่วนนอกและส่วนกลาง ซึ่งเป็นเทคนิคใหม่ที่ช่วยลดปัญหาการเคลื่อนที่ของถุงซิลิโคน ซึ่งอาจจะทำให้ระดับของสะโพกไม่เท่ากันสองข้าง และอาจเกิดพังผืดได้

ซิลิโคนที่ใช้ในการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมสะโพกนั้น เป็นซิลิโคนแบบที่ภายในบรรจุซิลิโคนเจล แบบเดียวกับซิลิโคนที่ใช้ในการศัลยกรรมเสริมหน้าอก แต่มีขนาด รูปร่าง และรายละเอียดที่แตกต่างกัน เป็นซิลิโคนที่เหมาะสำหรับการเสริมสะโพกเท่านั้น เพราะการเสริมสะโพกนั้นเป็นการใส่ซิลิโคนในกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่มีการเคลื่อนไหวเยอะ และมีแรงกดมากกว่าบริเวณหน้าอก

ทั้งนี้ซิลิโคนสำหรับเสริมสะโพกนั้น เจลซิลิโคนที่บรรจุภายในจะมีความแข็ง และมีความเหนียวมากกว่าซิลิโคนสำหรับเสริมหน้าอก รูปร่างก็จะแบนและกว้างกว่า ส่วนผิวของซิลิโคนสำหรับเสริมสะโพกก็มีทั้งแบบเรียบ และแบบผิวทรายทั้งนี้สามารถใช้ได้ทั้ง 2 แบบยังไม่มีผลวิจัยแน่ชัดว่าลักษณะผิวแบบไหนมีข้อดี-ข้อเสียต่างกันอย่างไร ซิลิโคนสำหรับเสริมสะโพกจะใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศยุโรป รวมถึงประเทศไทย เพราะมีความปลอดภัย และทำให้การผ่าตัดเสริมสะโพกออกมามีรูปร่างที่ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

รูปทรงของซิลิโคน

  1. ทรงกลม จะมีรูปร่างกลมและแบนเหมาะสำหรับเสริมบริเวณสะโพกด้านใน หรือ บริเวณก้น
  2. ทรงหยดน้ำหรือทรงรี ตัวซิลิโคนจะมีรูปทรงวงรีเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมด้านข้างของสะโพกโดยมีข้อดีคือ มีเมื่อเสริมแล้วจะได้ธรรมชาติ

ศัลกรรมยกเรืองคุณเม่

ปัญหาใหญ่ของคุณแม่หลังมีบุตร นอกจากน้ำหนัก ไขมันที่ค้างสะสมในส่วนต่างๆ ของร่างกายแล้ว หน้าอก หน้าท้อง เกิดการหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ปัจจุบันมีตัวช่วย ทางการแพทย์อย่าง การศัลยกรรมแก้ไขปัญหารูปร่างคุณแม่หลังมีบุตร หรือ Mommy Makeover

Mommy Makeover จะประกอบไปด้วย

ศัลยกรรมหน้าอก

  1. เสริมหน้าอก ( Breast Augmentation ) เพื่อเพิ่มไซส์สำหรับคุณแม่ที่มีเนื้อหน้าอกลดลงหลังบุตรเลิกนม บางท่าน มีปัญหาหนัก ถึงขั้นหน้าอกแบนราบจากการให้นมบุตรเลยทีเดียว
  2. ยกกระชับหน้าอก ( Breast lift / Mastopexy )คุณแม่หลังคลอด บางท่าน อาจมีปัญหา หน้าอกหย่อนคล้อยร่วมด้วย ซึ่งการเสริมหน้าอกเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถ แก้ปัญหาได้ทั้งหมด จึงต้องมีการเย็บยกกระชับเนื้อเต้านมด้วย

การเสริมหน้าอกพร้อมยกกระชับ ข้อดี คือได้เนินหน้าอก ที่ดูเต็มอิ่ม หรือ บางราย อาจแค่ยกกระชับเอาเนื้อนมที่คล้อย ยกขึ้นมา ทำให้หัวนม ปานนม ยกขึ้น ดูเป็นหน้าอกของผู้หญิงวัยสาว ซึ่งคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินเทคนิคการรักษาที่เหมาะสมและได้ผลลัพธ์สวยงามตรงใจมากที่สุด

ศัลยกรรมหน้าท้อง

  1. ดูดไขมัน (BodyTite Liposuction) หลังคลอดบุตรคุณแม่บางท่านอาจมีไขมันส่วนเกินสะสมบริเวณหน้าท้อง และช่วงเอวที่กำจัดออกได้ยาก แม้น้ำหนักจะลดลงมาจนใกล้เคียงก่อนตั้งครรภ์แล้วก็ตาม จึงต้องใช้การดูดไขมันเพื่อเก็บหน้าท้องและเอวให้เข้ารูป เหมาะกับคุณแม่ที่ผนังหน้าท้องไม่หย่อนยาน กล้ามเนื้อหน้าท้องยังแข็งแรงเข้ารูป
  2. ตัดไขมันหน้าท้อง (Tummy Tuck) เหมาะกับคุณแม่ที่ผนังหน้าท้องยืด หย่อนยานมาก โดยจำเป็นต้องตัดเนื้อส่วนที่คล้อยเกิน เย็บกระชับกล้ามเนื้อหน้าท้องที่หย่อน และ ทำการย้ายสะดือ สุดท้าย ก็จะได้หน้าท้องที่แบนเรียบ ไม่ป่อง และเอวเข้ารูป

ข้อดี ของการทำศัลยกรรม mommy makeover คือเปลี่ยนรูปทรงสัดส่วนได้เยอะ และเห็นผลเปลี่ยนแปลงชัดเจน ในการแก้หุ่นเสีย กู้หุ่นสวยปัง กลับมาให้คุณแม่อีกครั้ง


HAIR  TRANSPLANT

  • FUT

  • FUE

  • FUE(DHI)

  • FUE(DHI)Long Hair

สาเหตุ ของปัญหาศีรษะ ล้าน ผู้ชาย และผู้หญิง

ปัญหาศีรษะล้านในผู้ชายส่วนใหญ่จะเกิดจากกรรมพันธุ์และฮอร์โมนเพศชาย Testosterone ซึ่งถูกเปลี่ยนไปเป็น Dihydrotestosterone (DHT)

เนื่องจากยีนศีรษะล้านเป็นยีนเด่น จึงอาจจะมาทางคุณพ่อหรือคุณแม่ก็ได้

  • อาการผมร่วงจะเริ่มเมื่อพ้นช่วงวัยรุ่นไปแล้วโดยที่ผมด้านหน้า และด้านบนของศีรษะจะเริ่มเป็นเส้นเล็กลงและบางลงจนกระทั่งหลุดไปแล้วไม่ขึ้นมาอีก ทั้งนี้เนื่องจาก

เซลล์สร้างผม(รากผม)เสื่อมสภาพและตายไป

    • แต่รากผมบริเวณท้ายทอยและด้านข้างจะไม่ได้ถูกทำลายโดย DHT จึงจะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต เราจึงสามารถนำมาใช้ในการปลูกผมได้ผลดี
    • สำหรับผู้หญิงรูปแบบของผมบางศีรษะล้านจะต่างไปโดยจะมีผมบางตรงกลางศีรษะเท่านั้นส่วนแนวผมด้านหน้ายังดีอยู่ไม่เว้าเข้าไปเหมือนของผู้ชาย ถึงแม้ส่วนน้อยจะพบว่าบางคนอาจมีศีรษะเถิกได้
    • ผมร่วงอาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์ ภาวะหลังคลอดบุตร การอดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก     ทำให้ร่างกายนั้นขาดสารอาหาร การใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาโรคมะเร็ง โรคผิวหนังบางชนิด โรคจิตประเภทที่ชอบถอนผมตัวเอง มะเร็งรังไข่ที่ผลิตฮอร์โมนเพศชาย แต่สาเหตุดังกล่าว พบได้น้อยกว่า 5 % สาเหตุที่พบมากที่สุด ได้แก่กรรมพันธุ์ ซึ่งพบมากกว่า 95% ของสาเหตุทั้งหมด

การรักษาศีรษะล้าน

วิธีการแก้ปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน บางคนอาจเลือกวิธีที่ง่ายอย่างการสวมวิกผม หรือการต่อผม เพื่อปกปิดบริเวณที่ล้าน แต่การสวมวิกผมหรือต่อผมนั้นมีข้อเสีย คือ ให้ผลไม่ถาวร และอาจทำให้เป็นโรคผมร่วงได้ ถ้าต้องการแก้ปัญหาแบบให้ผลถาวรควรปรึกษาแพทย์

 แต่ก่อนรักษาแพทย์ต้องซักประวัติ เพื่อประเมินว่าปัญหาศีรษะล้านเกิดจากอะไร? ส่วนใหญ่ปัญหาจะเกิดจากรรมพันธุ์ แต่บางกรณีอาจเกิดจากโรคหรือภาวะอื่นได้

ถ้าประเมินแล้วพบว่า เป็นโรคศีรษะล้านจากกรรมพันธุ์ ก็จะมีวิธีการรักษา 2 แบบ ได้แก่

  1. การรักษาโดยใช้ยา ยาที่ให้จะเป็นยาลดระดับฮอร์โมนเพศชาย แต่ยานี้จะมีผลข้างเคียงประมาณ 0.7-1% คือ อาจทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ อารมณ์ทางเพศลดลง และในบางรายอาจเกิดอาการนกเขาไม่ขันได้ ในผู้ที่เริ่มมีแนวโน้มจะมีโอกาสเป็นศีรษะล้าน สามารถรับประทานยาป้องกันไว้ก่อนได้ ยิ่งทานเร็วก็ยิ่งดี แต่ต้องทานยาไปตลอดชีวิต เพราะโรคดังกล่าวไม่หาย ถ้าเริ่มรักษาเร็วแพทย์จะแนะนำให้กินยาเพียงอย่างเดียว
  2. การรักษาโดยการผ่าตัด หมายถึง การปลูกผม ซึ่งช่วยแก้ปัญหาศีรษะล้านอย่างได้ผล สำหรับการปลูกผมนั้นทำได้ 2 แบบ คือ การปลูกผมจริง และการปลูกผมเทียม

การปลูกผมจริง เป็นการย้ายรากผมจากท้ายทอยของผู้ที่มารับการรักษา มาปลูกบริเวณที่ล้าน การย้ายมี 2 แบบ คือ

แบบแรก FUT เป็นการตัดหนังศีรษะออกมาเป็นแผ่นแล้วมาซอยให้ได้ผมเป็นต้นๆ แล้วฝังปลูกลงไปใหม่คล้ายๆ กับการปลูกต้นไม้

อีกแบบคือ FUE  การเจาะให้ได้ผมมาทีละช่อ แล้วปลูกเข้าไปใหม่บริเวณที่ล้าน

การปลูกผมเทียม คือ การใช้ผมสังเคราะห์ ที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือปฏิกิริยาใดๆต่อร่างกาย และยังมีหลายสีให้เลือกตามความเหมาะสม นิยมกันมากในประเทศญี่ปุ่น โดยจะนำผมสังเคราะห์มาฝังเข้าไปในหนังศีรษะ แต่ในประเทศไทยไม่นิยมทำวิธีนี้  ผู้ที่ปลูกผมเทียมต้องกลับมาถอนผมออกและปลูกผมใหม่เสริมเรื่อยๆ ผมที่ปลูกใหม่นั้นจึงไม่ใช่ผมถาวรอย่างแท้จริง และข้อเสียอีกประการคือ ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน การที่มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปที่หนังศีรษะทำให้มีโอกาสติดเชื้อสูง

นอกจากนั้น การรักษาศีรษะล้าน ยังมีการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การฉายแสงเลเซอร์ที่ความถี่ต่ำเข้าไปที่หนังศีรษะ  เพื่อกระตุ้นเส้นผมให้งอกขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ศีรษะบริเวณที่จะทำต้องไม่ล้าน  แต่ผลที่ได้ไม่ดีมาก  


Details

Languages Spoken: Thai, English

Contact Info

Features

Opening Time

Monday :12.00 AM - 12.00 PM

Tuesday :12.00 AM - 12.00 PM

Wednesday :12.00 AM - 12.00 PM

Thursday :12.00 AM - 12.00 PM

Friday :12.00 AM - 12.00 PM

Saturday :12.00 AM - 12.00 PM

Sunday :12.00 AM - 12.00 PM

Videos

Awards

Horors and Awards

2013

ผู้บริหารดีเด่น 2013 , บุคคลแห่งปี 2013 (นาคราช)

ระบบบริหารคุณภาพ มาตรฐาน ISO 9001:2008 / ISO 13485:2003

2014

เครื่องมือแพทย์

ระบบบริหารคุณภาพ มาตรฐาน ISO 9001:2008

2015

Surgical Hospital

Best Hospital

2015

รางวัลโรงพยาบาลยอดเยี่ยม Best Hospital จากสถาบัน Europe Besiness Assembly,England

ISO 26000 CSR Projict

2016

กิจกรรมช่วยเหลือสังคม ศัลยกรรมฟรี จัดทำต่อเนื่องทุกปี

ระบบบริหารคุณภาพ สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) HA

2016

รางวัล World Business Assembly, Dubai

2016

Beat Hospital

2016

รางวัลโรงพยาบาลยอดเยี่ยม Beat Hospital จากสถาบัน Europe Society for Quality Research, Belgium

Honorable Speaker and Chairman for Plastic Aesthetic Surgery Conference, Toronto, Canada

2016

Joint Commission International (JCI) Ambulatory Care 3rd Edition

2016

Review

Average rating

0.0 / 5

Rating breakdown

5
0
4
0
3
0
2
0
1
0

Submit your review

Subject
Rating
Comments

Similar Listing

Top 10 Clinics
Logo